--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

เศรษฐกิจไทย หลังสงกรานต์ หนักกว่า แฮมเบอร์เกอร์ ...........!!?


แม้ว่าทางรัฐบาลจะออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่ในความเป็นจริง ขณะนี้ชาวบ้านร้านรวงแทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก ส่วนจะถึงขั้นเกิดเป็นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เหมือนกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาให้ความเห็นหรือไม่นั้น ลองไปฟังความเห็นจากแวดวงนักวิชาการและนักธุรกิจดูว่า เศรษฐกิจไทยหลังเทศกาลสงกรานต์จะมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้แค่ไหน

นายนณริฎ พิศลยบุตร นักวิชาการ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังอยู่ในช่วงซบเซา และยังไม่กลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก โอกาสจะกลับคืนมาได้น่าจะเป็นในช่วงครึ่งปีหลังมากกว่า คือ ไตรมาสที่ 3-4 การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ เพราะราคาสินค้าเกษตรยังตกต่ำและหนี้ครัวเรือนสูง ทำให้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัว ขณะที่การเบิกจ่ายภาครัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 มีการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำที่ใกล้เคียงกับเป้าหมาย แต่รายจ่ายเพื่อการลงทุนยังห่างเป้าพอสมควร จึงเป็นเครื่องจักรที่ยังเดินได้พอสมควร

สำหรับการส่งออก มีเพียงตลาดสหรัฐและตลาดอาเซียนโตสูงขึ้น แต่ตลาดอื่นๆ ยังคงซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกไปจีนหดตัวลงเยอะ จึงหวังอะไรกับภาคส่งออกในปีนี้ได้ไม่มากนัก ดังนั้น ปัจจัยบวกขณะนี้ที่เห็นได้ชัดคือภาคท่องเที่ยว น่าจะเป็นเครื่องจักรที่ทำงานได้ดีมากที่สุด รัฐบาลจึงควรจะศึกษาวิเคราะห์ จัดระเบียบ ให้เครื่องจักรด้านการท่องเที่ยวทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การบริหารจัดการภาครัฐในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ ควรจะพิจารณาในมิติด้านคุณภาพเป็นสำคัญ เน้นการใช้จ่ายอย่างมีคุณภาพ โครงการรายจ่ายเพื่อการลงทุน ควรเน้นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ มากกว่าเน้นการจ่ายเงินออกไปให้มากที่สุด

ส่วนการเปรียบเทียบเศรษฐกิจไทย กับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐ คงเป็นได้ยาก เพราะว่ามีบริบทแตกต่างกัน วิกฤตไทยปัจจุบันมีปัญหามากกว่าปัญหาการส่งออก วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐในครั้งก่อนเป็นวิกฤตของสหรัฐแต่ส่งผลกระทบมาสู่ไทยทางอ้อมผ่านทางการส่งออก คือหัวใจหลักของวิกฤตครั้งนั้น แต่วิกฤตปัจจุบันมีปัญหามากกว่าแค่ปัญหาการส่งออก เพราะว่าวิกฤตคราวนี้ นอกจากจะมีปัญหาด้านการส่งออกแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านอุปสงค์ภาคครัวเรือน คือ ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกตกต่ำ และหนี้สาธารณะสูงกว่าสมัยก่อนมาก

สมัยก่อนไทยยังมีอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์กำลังรุ่งเรือง แต่ปัจจุบันทั้งสองอุตสาหกรรมมีอัตราการเจริญเติบโตชะลอลง ทั้งสองส่วนจึงเป็นปัญหาที่ดูเศรษฐกิจไทยน่าจะมีปัญหามากกว่าเดิม

ด้านนักธุรกิจจากภาคเอกชนอย่าง นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานหอการค้าไทย และรองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยจะกลับมาในครึ่งปีหลัง หากรัฐบาลเร่งจัดการแก้ปัญหาในเรื่องของโครงสร้างสินค้าเกษตร และเร่งให้เกิดการลงทุนในประเทศ ปัจจุบันเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวจากปัญหาสภาพตลาดในต่างประเทศไม่ดี ประกอบกับผลกระทบจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นในระดับสูง เป็นปัญหาสั่งสมเป็นระยะเวลานาน รวมถึงปัญหาด้านภาคการส่งออกชะลอตัวกระทบไปถึงการลงทุนต้องชะลอตามไปด้วย ระยะเวลานี้ก็ต้องช่วยกันประคองราคาสินค้าไม่ให้ขึ้นราคา คาดว่าราคาจะยังไม่ขึ้น เนื่องจากประชาชนยังไม่มีความต้องการซื้อสินค้ามากนัก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เพราะวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องของราคาสินค้าสูงลิบลิ่ว อเมริกามีเรื่องของราคาน้ำมัน ทั้งวิกฤตการเงินเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน มาเกี่ยวข้องด้วย ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐ ให้แย่ลง ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัว ในขณะที่เศรษฐกิจไทยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพียงแค่การส่งออกและการลงทุนชะลอตัว รัฐบาลจึงควรพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งปรับปรุงโครงสร้างสินค้าเกษตร และเร่งการลงทุนให้เห็นผล เกิดการจ้างงาน เพื่อพัฒนาประเทศให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง

นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองนิ่ง หากช่วงครึ่งปีหลังนี้ ภาครัฐสามารถผลักดันงบประมาณและเดินหน้าลงทุนโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้ง รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถไฟทางคู่ รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ที่ยังช้าอยู่ออกมาได้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ค่อยๆ ฟื้นตัวได้ เพราะขณะนี้ไม่ว่าภาคอุตสาหกรรม การเกษตร ยังซบเซา เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ที่ยังไปได้ดีอยู่คือภาคการท่องเที่ยว หากสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามแผนที่วางไว้ จะให้เกิดความเชื่อมั่นและทำให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน เชื่อว่ากำลังซื้อจะเริ่มกลับมา

ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากการซื้อที่อยู่อาศัยจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น

นายธำรงกล่าวด้วยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้ถือว่าอาการหนักที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ถือว่ายังไม่เลวร้ายเท่าปี 2540 วิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะสถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง ผู้ประกอบการธุรกิจไม่มีหนี้สินเกินตัว ยังไม่มีการปลดคนงาน มองว่าสถานการณ์ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หลังจากนี้จะเห็นการค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม มองว่าหากจะเปรียบเทียบภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้กับวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐ หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์นั้น อาจจะเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะขนาดเศรษฐกิจไทยและสหรัฐมีความแตกต่างกันมาก

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์เป็นต้นไปมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 คาดว่าจะได้รับผลดีจากการบริโภคภายในประเทศ คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัว รวมถึงงบลงทุนจากภาครัฐจะเริ่มไหลเข้าระบบเศรษฐกิจได้มากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 เป็นต้นไป ส่วนการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องจักรสำคัญของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เริ่มดีขึ้นชัดเจน เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ปีนี้ขยายตัวสูงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วไทยมีปัญหาเรื่องการเมือง สำหรับการส่งออกนั้นคงต้องยอมรับว่าตลาดหลักของไทยมีปัญหาน่าจะทำให้การส่งออกในไตรมาส 2 ยังอยู่ในระดับทรงตัวและดีขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 0% จากขณะนี้ติดลบ

สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการคือให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่ากว่าเพื่อนบ้าน เพราะเอกชนเข้าใจดีในเรื่องของเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดหลักของการส่งออกมีปัญหา ดังนั้น การจะไปหาตลาดใหม่เพื่อมาทดแทนนั้นต้องใช้เวลาในช่วงนี้หากมีปัญหาค่าเงินมาซ้ำเติมกับปัญหาส่งออกแย่อีก ยิ่งทำให้สินค้าไทยส่งออกได้ยากขึ้น การส่งออกไทยจะมีปัญหามากขึ้น

ส่วนกรณีนายนายอภิสิทธิ์ระบุก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจในขณะนี้หนักกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ นายวัลลภกล่าวว่า ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่มีปัญหาเหมือนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่เริ่มฟื้นตัว ไม่เหมือนกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่กว่าจะเริ่มฟื้นตัวใช้เวลาหลายปี

ถ้าเทียบกันแล้วไทยใช้เวลาไม่กี่เดือนก็ฟื้นตัวจากสภาวะเมื่อปี 2556-2557 ที่ผ่านมา

ที่มา : นสพ.มติชน
/////////////////////////////////////////////////////////////////////

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

คนไทยขวัญเสีย ฝรั่งขำขัน !!?


โดย .วีรพงษ์ รามางกูร

ข่าวเรื่องการไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์เสริมดวงกับโหร คมช. ที่เป็นร่างทรงของฤๅษีเกวาลันแห่งเทือกเขาหิมาลัย เป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่า ผู้ทรงเจ้าเข้าผีได้ประกาศว่าผู้นำของประเทศไทยจะต้องอยู่ในตำแหน่งต่อไปอีก อย่างน้อย 2-3 ปี

ข่าวนี้เป็นที่ขำขันไปทั่วโลกเหมือนๆ ข่าวของประเทศด้อยพัฒนาในแอฟริกา ที่เราเคยเอามาเล่าเป็นที่ขำขัน แต่เมื่อเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ขำไม่ออกบอกไม่ถูก เหลือเชื่อว่าจะเกิดกับประเทศไทย

ขณะนี้ทุกวันศุกร์เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป กลายเป็นเวลาประหยัดไฟไปเสียแล้ว เพราะเวลาดังกล่าวทุกบ้านปิดโทรทัศน์หมด เป็นเวลาที่โทรทัศน์ทุกช่องจะถ่ายทอดรายการขอคืนความสุขจากประชาชน ตอนมีรายการนี้ใหม่ๆ ผู้คนต่างก็ตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ แต่พยายามตั้งใจฟังอย่างไรก็ฟังไม่เข้าใจ แม้ว่าจะเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆ แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ฟังแล้วก็จับใจความหาสาระไม่ได้ หนักๆ เข้าก็เลยปิดทีวีเสียดีกว่า รออ่านจากหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ก็นำมาเขียนไม่มาก อ่านไม่ถึง 1 นาทีก็จบ ทุกวันศุกร์เวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไปจึงเป็นเวลาประหยัดไฟฟ้าไปโดยอัตโนมัติ

เนื่องจากเวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป เป็นเวลาพักผ่อนชมรายการละครโทรทัศน์ของครอบครัว ของชาวบ้านทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เมื่อได้ยินว่ารายการโทรทัศน์ดังกล่าวจะยังคงอยู่ต่อไป 2-3 ปี ก็รู้สึกใจเสียกันโดยทั่วไป

บรรยากาศทางเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องที่กำลังเกิดขึ้นกับประชาชนในขณะนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ได้ยินแล้วก็ทำให้ขวัญเสียทั้งนั้น

ราคาข้าว ราคายางพารา ราคาอ้อย ราคามันสำปะหลัง ราคาน้ำมันปาล์ม พากันเข้าแถวลดลงประมาณครึ่งหรือกว่าครึ่ง แต่ราคาหมูเห็ดเป็ดไก่ไม่ลด ค่าครองชีพไม่ลด ชาวไร่ชาวนาอ่านแล้วก็รู้สึกเสียขวัญ เราอยู่ในเมืองก็รู้สึกเสียขวัญ

เนื่องจากยอดขายของโรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ ลดลงครึ่งหนึ่งหรือกว่าครึ่ง การจ้างงานล่วงเวลาหรือการจ้างงานเพิ่มไม่มี ขณะนี้การลดจำนวนคนงานกำลังเริ่มขึ้น ที่เริ่มช้าเพราะนายจ้างพยายามรักษาคนงานไว้ เพราะถ้าจะจ้างกลับมาใหม่ก็เป็นเรื่องยากและเสียค่าใช้จ่ายมาก มองไปข้างหน้าแล้วก็ต้องใจหายขวัญเสีย เพราะยังไม่เห็นอนาคตว่ายอดขายจะฟื้นตัวได้อย่างไร การเลิกจ้างคนงานจึงต้องทำและน่าจะรุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

เมื่อได้ยินโหรรัฐบาล หลวงปู่เกวาลันแห่งขุนเขาหิมาลัย พูดปูทางให้รัฐบาลอยู่ต่อไปอีก 2-3 ปีก็ใจหาย เสียขวัญ เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนักนี้ เพราะตลาดการส่งออกทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน ซบเซาไปหมด ส่วนหนึ่งเพราะเป็นตลาดโลก แต่อีกส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญมากคือเรามีรัฐบาลทหาร ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของประชาคมโลก เป็นการถอยหลังเข้าคลอง ข่าวเรื่องยุโรปตัดสิทธิการได้รับการลดหย่อนภาษีหรือจีเอสพี ซึ่งรัฐบาลทหารไม่สามารถจะเดินทางไปเจรจากับเขาได้ ข่าวรัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีพาณิชย์ ไม่อาจจะเดินทางไปเจรจาการค้ากับใครได้ ล้วนเป็นข่าวที่ทำให้ใจเสียทั้งนั้น

ปัญหาการส่งออกตกอย่างหนักนี้ คงจะแก้ไขโดยรัฐบาลทหารไม่ได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลเผด็จการทหารของพม่า ซึ่งมีหมอดูอีทีเป็นที่ปรึกษา เป็นสรณะที่พึ่ง พม่าก็เป็นที่ขำขันไปทั่วโลกมาก่อน

ที่ขวัญเสียอีกเรื่องก็คือ นักลงทุนญี่ปุ่นซึ่งเป็นนักลงทุนหลักของเรา ปกติแล้วนักลงทุนญี่ปุ่นจะชอบลงทุนในประเทศไทย เพราะเมืองไทยได้เปรียบประเทศอื่นหลายอย่าง เช่น แรงงานไทยมีคุณภาพสูงกว่าที่อื่น ฝึกฝนได้ง่าย เข้ากับญี่ปุ่นได้ดี รักงานที่ทำ แต่มองไปข้างหน้าถ้าผลิตในประเทศไทยแล้วจะมีปัญหาในการส่งออกไปอเมริกา ยุโรป และแม้แต่ญี่ปุ่นเอง เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นก็เกรงใจทั้งอเมริกาและยุโรป ก็มีความจำเป็นต้องหาที่ลงทุนใหม่ถ้าประเทศไทยจะหยุดมีรัฐบาลประชาธิปไตยไป อีกนาน อย่างที่เป็นข่าวหรืออย่างที่เล่าลือกันหรือจากสัญญาณที่ได้รับ ตลาดสินค้าอุตสาหกรรมจากประเทศไทยก็น่าจะมีปัญหาในการหาตลาดเพราะเหตุผลทาง การเมือง นอกเหนือไปจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ

ที่หนักกว่านั้นก็คือการ ให้เหตุผลว่า แม้รัฐบาลไม่ต้องการอยู่ต่อตามที่ประกาศไว้ แต่จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้รัฐบาลลงจากอำนาจไม่ได้ ต้องอยู่ต่อไปอีก 2-3 ปี เหตุการณ์ที่พระฤๅษีเกวาลัน

แห่งเขาหิมาลัยบอกนั้นคืออะไร คงจะไม่ใช่เหตุการณ์ที่เป็นไปในทางดี คงจะเป็นไปในทางร้าย ทุกคนจึงขวัญเสียว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้น่าจะเลวร้ายลงไปอีก จะยืดเยื้อเป็นเวลานาน รัฐบาลทหารจึงต้องอยู่เพื่อรอรับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โหรที่ทรงเจ้าเข้าผีอาจจะมีข้อมูลดีๆ เพราะลูกศิษย์บอกไว้ก่อนแล้วก็ได้ "ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่" หรือไม่ก็ช่วยลูกศิษย์โยนหินถามทาง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ทำให้ใจเสียทั้งนั้น เพราะบ้านเมืองเราให้โหรให้ฤๅษีที่อยู่ไกลถึงเขาหิมาลัยตัดสินใจให้

เมื่อ 40 สิบปีก่อนที่กัมพูชาจะตกอยู่กับเขมรแดงที่โหดร้าย รัฐบาลทหารของนายพล ลอน นอล ที่สหรัฐเป็นผู้สนับสนุน ก็ใช้วิธีเชิญพระเกจิอาจารย์มาทำการเสกน้ำมนต์กับทรายให้ศักดิ์สิทธิ์ แล้วท่านนายพลก็นำเอาทรายกับน้ำมนต์ที่ปลุกเสกนั้นขึ้นเครื่องบินออกไปบิน ซัดและพรมให้ทั่วประเทศ เพื่อหวังขับไล่เขมรแดง โดยเชื่อว่าเขมรแดงเป็นปีศาจร้ายที่ออกจากปราสาทหินจะมายึดกัมพูชา

แต่ในที่สุดนายพลลอน นอล ก็แพ้ เขมรแดงก็เป็นปีศาจร้ายจริงๆ

ภาวการณ์เศรษฐกิจที่เลวร้าย ทั้งในต่างจังหวัด ทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ความมั่นใจในอนาคตจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ออกมาได้หดหายไปตามลำดับนั้น รัฐบาลควรจะต้องต่อสู้ข่าวร้ายด้วยการเสนอมาตรการและนโยบายที่มีเหตุผลและ ปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ถูกกาลเทศะ ไม่ใช่แก้ไขโดยการขอร้องไม่ให้พูดในสิ่งที่ไม่ดี ให้เลือกพูดเฉพาะในสิ่งที่ดีๆ

นโยบายและมาตรการที่จะให้กำลังใจ เช่น นโยบายการลงทุนโครงการจัดการและบริหารน้ำ โครงการขยายท่าเรือน้ำลึก ขยายสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมทั้งสนามบินอู่ตะเภา โครงการผลักดันการส่งออก การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว การเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจท่องเที่ยว การปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ชลประทานไปยังสินค้าอย่างอื่น การปลูกข้าวนาปรังราคาถูกนั้นหมดสมัยแล้ว

การจัดทัพเพื่อบริหาร จัดการสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจจะเลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ การเร่งเจรจาการค้าเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป การเร่งเจรจาเพื่อเปิดตลาดใหม่ เสถียรภาพทางการเงินต่าง ๆ แม้จะยากแต่ก็ควรทำเพื่อขวัญและกำลังใจ

สงกรานต์เถลิงศกใหม่ จุลศักราช 1377 ผ่านไปด้วยดี ไม่มีเหตุร้ายอย่างที่เล่าลือให้ใจเสีย หวังว่าปี 2558 นี้ทั้งปีไม่ต้องไปสะเดาะเคราะห์กับคนทรงเจ้าเข้าผีที่ไหนอีก ขอให้ "ขวัญ" ที่จะรบทัพกับศึกเสือเหนือใต้จงมีชัยชนะ

อย่าขวัญหนีดีฝ่อไปนักเลย

ที่มา : นสพ.มติชน
//////////////////////////////////////////////////

ดื่มกาแฟอย่างไร ให้เป็นยารักษาโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์คินสัน !!?


วันนี้สังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุไปเรียบร้อยแล้ว
และโรคประจำของสังคมผู้สูงอายุทั่วโลกก็คือโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer"s disease) ซึ่งเป็นโรคภาวะสมองเสื่อมที่พบมากที่สุดถึงร้อยละ 50-75 รองลงมาคือโรคพาร์คินสัน (Parkinson"s disease)

ในสังคมประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา คนอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปมีอัตราป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ร้อยละ 10 ในขณะที่สังคมไทยพบร้อยละ 3.4 น้องๆ อเมริกาเลยทีเดียว

และความชุกของโรคจะพบมากขึ้นในสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นยังจะพบเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าทุกๆ 5 ปีหลังอายุ 65 ปีไปแล้ว เห็นได้จากสถิติอัตราเกิดโรคในผู้สูงอายุ 65-69 ปี พบผู้ป่วย 3 คนต่อ 1,000 คน อายุ 70-74 ปี พบ 6 คน ในขณะที่ อายุ 75-79 ปี พบ 9 คน ตามลำดับและพบผู้ป่วยหญิงมากกว่าชาย

ในหมู่คนไทยเราเรียกโรคนี้ง่ายๆ ว่า "โรคความจำเสื่อม" เพราะในระยะสุดท้ายของโรค ผู้ป่วยจะสูญเสียความจำทั้งหมด ต่อมาจะสูญเสียการทำงานต่างๆ ของร่างกายและเสียชีวิตในที่สุด

หลังจากความจำเสื่อมและสูญเสียความสามารถทางภาษาแล้ว ผู้ป่วยจะมีชีวิตโดยเฉลี่ย 10 ปี

แม้จะค้นพบโรคนี้มากว่า 100 ปี โดยจิตแพทย์ชาวเยอรมันชื่อ อาลอยส์ อัลไซเมอร์ (Alois Alzheimer) แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรค นอกจากพบว่ามีความผิดปกติของโครโมโซมและเป็นโรคที่สืบทอดทางพันธุกรรม

โรคนี้ยังไม่มีใครพบวิธีป้องกัน ทั้งยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

ข่าวดีสำหรับผู้สูงอายุ มีการค้นพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เครื่องดื่มสมุนไพรใกล้ตัวที่ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมได้ดีก็คือกาแฟถ้วย โปรดยามเช้าของทุกคนนั่นเอง เนื่องจากธุรกิจกาแฟแบรนด์ดังมีกำไรมหาศาล จึงมีทุนสนับสนุนงานวิจัยกาแฟว่ามีผลต่อสุขภาพของผู้ดื่มอย่างไร

แน่นอนผลเสียต่อสุขภาพของผู้เสพติดกาแฟ คือ ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง การสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก เช่น การเกิดภาวะกระดูกสะโพกหักซึ่งพบบ่อยในผู้หญิงสูงอายุ

ก่อนอื่นควรทำความรู้จักสายพันธุ์กาแฟที่ปลูกและใช้บริโภคในบ้านเราเล็กน้อย แม้ทั่วโลกมีสายพันธุ์กาแฟมากกว่า 50 ชนิด แต่ที่นิยมปลูกในไทยมี 2 พันธุ์ คือ อราบิก้า (Coffea arabica L.) และ โรบัสต้า (Coffea robusta L.)

สายพันธุ์แรกนั้นชอบขึ้นบนดอยสูงทางภาคเหนือของไทย จุดเด่นคือมีกลิ่นหอมชวนลิ้มลอง และมีปริมาณกาเฟอีนต่ำ

ส่วนสายพันธุ์หลังนั้นชอบพื้นที่ราบทางภาคใต้ จุดเด่น คือ มีรสชาติเข้มและมีกาเฟอีนสูงเป็นสองเท่าของพันธุ์อราบิก้า

กาเฟอีน (caffeine) เป็นสารแซนทีนอัลคาลอยด์ธรรมชาติ พบได้ในเครื่องดื่มหลายชนิด เช่น เมล็ดกาแฟ ใบชา เครื่องดื่มโคล่า เครื่องดื่มชูกำลัง และโกโก้ เป็นต้น แต่เมล็ดกาแฟเป็นแหล่งของกาเฟอีนที่ใหญ่ที่สุด

ส่วนเมล็ดกาแฟจะมีกาเฟอีนมากหรือน้อย นอกจากขึ้นอยู่กับสายพันธุ์แล้ว ยังขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการคั่ว

เมล็ดกาแฟที่คั่วนานจนสีเข้มจะมีกาเฟอีนน้อยกว่าที่คั่วสุกแต่ใช้เวลาไม่นาน เพราะกาเฟอีนจะสลายไปในระหว่างการคั่วนั่นเอง

โดยทั่วไปแล้ว น้ำกาแฟ 150 ซีซีจากเครื่องต้มทำกาแฟไม่มีกระดาษกรองจะมีกาเฟอีนสูงที่สุดถึง 115 มิลลิกรัม

ในขณะที่กาแฟกรองมีกาเฟอีน 80 ม.ก.

และกาแฟสำเร็จรูป 65 ม.ก. ตามลำดับ

เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมดังกล่าวแล้ว จึงมีการศึกษาทางระบาดวิทยาในต่างประเทศจำนวนมากเพื่อหาความสัมพันธ์ของ พฤติกรรมการดื่มกาแฟกับผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ในฟินแลนด์มีการศึกษาวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบไปข้างหน้าระยะยาวที่เรียกว่า โคฮอร์ต (cohort study) ซึ่งเก็บข้อมูลจากอาสาสมัครจำนวน 1,409 คนเริ่มต้นจากอายุเฉลี่ย 50 ปี เก็บข้อมูลไปข้างหน้า 21 ปี พบอาสาสมัครมีภาวะความจำเสื่อม 61 คน วินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ถึง 48 คน

ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟตั้งแต่มีอายุช่วงวัยกลางคนจนเข้าสู่วัยสูงอายุ มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ

โดยดื่มกาแฟ 3-5 ถ้วย/วัน จะมีความเสี่ยงเป็นโรคลดลงประมาณร้อยละ 65

ในขณะที่มีการศึกษาระยะยาวแบบโคฮอร์ตเป็นเวลา 10 ปีในสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาการดื่มกาแฟกับความเสี่ยงเกิดโรคพาร์คินสัน มีอาสาสมัครชายหญิงรวมถึง 135,916 คน พบว่าฤทธิ์ของกาเฟอีนมีผลทำให้ระดับสารสื่อประสาทโดพามีน (dopamine) ในสมองเพิ่มขึ้น

ทำให้สมองตื่นตัวป้องกันการเป็นโรคพาร์คินสันได้ทั้งในหญิงและชายโดยดื่มกาแฟวันละ 1-3 ถ้วย

ข้อพึงระวังสำหรับสตรีก็คือ ต้องไม่ดื่มกาแฟร่วมกับฮอร์โมนเอสโตรเจนเพราะไม่เกิดผลเชิงบวกกรณีการป้องกันโรคพาร์คินสันเลย

นอกจากนี้ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงไม่ควรดื่มกาแฟเลยเพราะมีโทษมาก รวมถึงไม่ควรดื่มกาแฟร่วมกับการรับประทานอาหารและยาเสริมธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม หรือยาแก้ปวดแก้ไข้ สำหรับปริมาณการดื่มกาแฟไม่เติมน้ำตาลต่อวันไม่ควรเกิน 1-2 ถ้วย (ถ้วยละ 150 ซีซี มีกาเฟอีนเฉลี่ย 115 ม.ก./ถ้วย) และควรดื่มกาแฟสดแบบกรอง จึงจะเกิดประโยชน์ทางยาสูงสุด เพราะถ้าบริโภคมากกว่านี้หรือดื่มกาแฟชนิดอื่นจะเกิดโทษมากกว่าคุณ

ท่านผู้อยู่ในวัย 50 ต้นๆ ทุกเช้าควรดื่มกาแฟสดกรองเพียง 1 ถ้วยเป็นประจำ เพื่อเตรียมตัวใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในสังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นสุขปลอดพ้น จากภาวะระบบประสาทเสื่อมตราบเท่าอายุขัย

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558

อสังหารายเล็กถอดใจ แบงก์เข้มปล่อยกู้ เร่ขายทิ้งยกโครงการ !!?


เศรษฐกิจ ฝืดพ่นพิษ อสังหาฯรายเล็กเดี้ยงหนัก ถอดใจเร่ขายโครงการ สาเหตุหลักยอดขายไม่เข้าเป้า-แบงก์เข้มปล่อยกู้กระทบสภาพคล่อง "กลุ่มเปี่ยมสุข-ศุภาลัย-แสนสิริ-วิวัฒน์ฯ" เผยได้รับข้อเสนอทั้งบ้านจัดสรร คอนโดฯ ที่ดินเปล่าโซนมีนบุรี หนองจอก พัทยา "เกียรตินาคิน" แบเบอร์มีทรัพย์รอขายค้างพอร์ต 6 พันล้าน แจงเป็นที่ดินเปล่าพร้อมพัฒนาโครงการได้ทันที

นับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 เริ่มได้รับการติดต่อจากเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมและเจ้าของที่ดินที่เตรียมพัฒนาโครงการคอนโดฯเข้ามามากขึ้น เพื่อให้เป็นตัวกลางเจรจากับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ซึ่งมีทั้งให้เจรจาขายโครงการ ขายที่ดินที่ออกแบบโครงการไว้แล้ว และเป็นพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมทุน

เท่าที่ประมวลสาเหตุมาจาก 2-3 ส่วนคือ 1) เปิดตัวโครงการแล้วมียอดขายช้า 2) ภาวะเศรษฐกิจยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว จึงตัดสินใจไม่เสี่ยงพัฒนาโครงการต่อ และ 3) มีปัญหาภายในกับหุ้นส่วน

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ 2 รายที่อยู่ระหว่างเจรจา รายแรกเป็นโครงการคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯที่เปิดขายแล้ว แต่ยอดพรีเซลไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับติดปัญหาการขออนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ล่าช้า และรายที่สองเป็นเจ้าของที่ดินที่ได้ออกแบบโครงการไว้แล้ว แต่กังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจและอาจมีปัญหาภายในกับหุ้นส่วน จึงชะลอการขึ้นโครงการและติดต่อให้บริษัทช่วยขายที่ดิน

ถ้าเศรษฐกิจยังซึม ๆ แบบนี้ต่อไป มีโอกาสจะเห็นผู้ประกอบการรายเล็กถอดใจขายโครงการมากขึ้น เท่าที่วิเคราะห์เกิดจากเรื่องทำเลที่ยังไม่ดีพอ คอนเซ็ปต์และการดีไซน์ ขาดประสบการณ์" แหล่งข่าวกล่าว

สาเหตุหลักขาดสภาพคล่อง

นายปรีชา กุลไพศาลธรรม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทเปี่ยมสุข เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการติดต่อผ่านนายหน้า เสนอขายโครงการคอนโดฯและบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพัทยา 3-4 ราย ติดต่อเสนอขายโครงการ ส่วนใหญ่เป็นของผู้ประกอบการรายเล็ก มูลค่าโครงการเฉลี่ย 300-400 ล้านบาท

สาเหตุมาจากเมื่อเปิดตัวแล้ว ทำยอดขายไม่ได้ตามเป้าหมายที่ธนาคารกำหนดไว้ จึงถูกธนาคารลดวงเงินปล่อยกู้ลง ผู้ประกอบการบางรายที่เปิดขายโครงการไปแล้วจึงตัดสินใจคืนเงินลูกค้า หรืออีกกรณีเป็นโครงการคอนโดฯโลว์ไรส์มีทั้งหมด 3-4 อาคาร ปรากฏว่าอาคารที่ 1-2 ก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ขายดีเฉพาะอาคารแรก ส่วนอาคารที่ 2 ขายได้ช้า ทำให้ธนาคารระมัดระวังการปล่อยกู้เพิ่ม จึงถอดใจนำโครงการมาเสนอขาย

เศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ธนาคารเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังขาดประสบการณ์ แบงก์ติดตามยอดขายต่อเนื่อง ถ้าผ่านไป 3 เดือนแล้วต้องขายได้เท่าไหร่ และเมื่อสร้างเสร็จผ่านไปอีก 3 เดือนต้องโอนได้เท่าไหร่ ถ้าไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ก็ไม่ปล่อยกู้เพิ่ม แต่ยังไม่สามารถตกลงราคาได้ เพราะผู้ประกอบการเองก็ไม่อยากตัดใจขายขาดทุน" นายปรีชากล่าว

ทาบขายศุภาลัย-แสนสิริ

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัยเปิดเผยว่า บริษัทได้รับข้อเสนอขายโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯ เหมือนกัน เข้าใจว่าเป็นเพราะขาดประสบการณ์เรื่องการออกแบบโครงการ เช่น โครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งออกแบบพื้นที่ส่วนกลางครึ่งหนึ่งของที่ดินทั้งหมด ทำให้ไม่คุ้มค่าการลงทุน ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัวส่งผลให้การขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

แหล่งข่าวจาก บมจ.แสนสิริเปิดเผยว่า เริ่มได้รับข้อเสนอขายโครงการบ้านจัดสรรซึ่งประสบปัญหายอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เมื่อเจรจาเรื่องราคาแล้วไม่สามารถจบดีลได้ เนื่องจากเจ้าของต้องการขายในราคาที่ยังพอมีกำไรหรือไม่ขาดทุน ส่วนคอนโดฯยังไม่ได้รับข้อเสนอแต่เชื่อว่ามีโครงการของผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่สามารถขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้และถูกสถาบันการเงินกดดันจนต้องนำโครงการมาเสนอขาย

โซนมีนบุรี-หนองจอกหนักสุด

นายฐิติวัฒน์ สุวิวัฒน์ชัย รองประธานกรรมการ บริษัท วิวัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดฯแบรนด์ "พิบูลย์" เปิดเผยว่า ได้รับข้อเสนอขายโครงการบ้านจัดสรรโซนมีนบุรี เป็นของผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ทดลองเข้ามาทำอสังหาฯและเพิ่งเริ่มพัฒนาโครงการ โดยให้เหตุผลว่า ที่ต้องการขายโครงการเพราะเมื่อเข้ามาทำแล้วไม่ถนัดจึงไม่ต้องการทำต่อ

นายวิสิฐ กิตติอุดม ประธานกลุ่มบริษัทอาร์เคกรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการแนวราบโซนตะวันออกของกรุงเทพฯเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาได้รับข้อเสนอขายโครงการบ้านจัดสรรย่านหนองจอก ที่เปิดขายและก่อสร้างบ้านแล้วบางส่วน แต่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากขายไม่ดี อย่างไรก็ตาม การเจรจาไม่ได้ข้อสรุปเนื่องจากตกลงราคากันไม่ได้ นอกจากนี้มีผู้ประกอบการเสนอขายที่ 7 ไร่ ซึ่งขอจัดสรรไว้แล้วเพื่อเตรียมพัฒนาโครงการ แต่มองว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงจึงตัดสินใจขายที่ดินแทนที่จะพัฒนาโครงการเอง

บริษัท รื่นฤดี ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่มีนายศุภโชค ปัญจทรัพย์ หลานชายนายโชคชัย ปัญจทรัพย์ หนึ่งในดีเวลอปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในยุคก่อนฟองสบู่แตก ก็ได้รับข้อเสนอขายคอนโดฯในทำเลแครายและโครงการจัดสรรโซนมีนบุรี เนื่องจากประสบปัญหายอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด รายงานผลสำรวจอสังหาฯ ปี 2557 มีโครงการหยุดขายรวม 122 โครงการ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 21 โครงการ ในจำนวนนี้สาเหตุเกิดจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ 38 โครงการ ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 24 โครงการ และไม่ได้รับอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) 23 ราย

KK แบเบอร์ทรัพย์รอขายเพียบ

นางสุวรรณี วัธนเวคิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KK เปิดเผยเพิ่มเติมว่า KK มีทรัพย์รอการขายหรือ NPA เหลืออยู่ในพอร์ตประมาณ 6,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมี 2 หมื่นล้านบาท เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนอสังหาฯ

ก่อนหน้านี้ธนาคารเพิ่งจะเปิดผลวิจัยหัวข้อ 16 จังหวัดดาวรุ่งลงทุนอสังหาฯ โดยรวมกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เนื่องจากพบว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยผลตอบแทนการลงทุนอสังหาฯประเภทที่ดินเปล่าสูงถึง 9% ดีกว่าลงทุนทองคำซึ่งมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนติดลบ 11% สูงกว่าหุ้น บ้านเดี่ยว คอนโดฯ ที่ค่าเฉลี่ย 2-3.7% ต่อปี

เนื่องจากทรัพย์รอขายของ KK เป็นแปลงใหญ่ เพราะธนาคารปล่อยกู้พรีเซลไฟแนนซ์ หรือปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการที่จะลงทุนพัฒนาโครงการ โดยราคาต่ำสุดเริ่มต้น 30 ล้านบาท ทั้งนี้ หากนักลงทุนต้องการคำแนะนำว่า ถ้าซื้อแลนด์แบงก์จากพอร์ตของเราไปแล้วจะทำอะไรได้บ้าง ทางธนาคารก็ยินดีให้คำปรึกษา เพราะมีแผนกวิจัยข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์รองรับโดยตรงอยู่แล้ว" นางสุวรรณีกล่าว

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////////////////