--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แดงป่วน เปรม กินข้าวถูกรวบตัวทำประวัติ สน.ห้วยขวาง

"ป๋าเปรม"ดอดกินข้าวโรงแรมหรู เจอเสื้อแดงป่วนถูกตร.รวบทำประวัติ 200แนวร่วมไม่พอใจบอกทำเกินกว่าเหตุบุกปิดสน.ห้วยขวาง สุดท้ายตร.ต้องออกมายกมือไหว้ขอโทษ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 23 ตุลาคม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมคณะเดินทางไปรับประทานอาหารที่โรงแรมสวิส เลอคองคอร์ด ย่านห้วยขวาง ปรากฏว่ามีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางไปประท้วงโดยใช้อุปกรณ์ตีนตบและตะโกนด่าทอ ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จึงนำกำลังไประงับเหตุ พร้อมควบคุมตัวกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาถ่ายรูป ทำประวัติที่ สน.ห้วยขวาง

ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อกลุ่มเสื้อแดงทราบเรื่องจึงตามไปที่ สน.ห้วยขวาง พร้อมมีการระดมคนเรียกแนวร่วมมาจำนวนกว่า 200 คน ปิดล้อมและตะโกนด่าทอการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ทำประวัติและได้ปล่อยตัวกลุ่มเสื้อแดงทั้งชาย-หญิงประมาณ 10 คน แต่กลุ่มเสื้อแดงที่มาปิดล้อมโรงพักไม่ยินยอม และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.ห้วยขวาง จึงให้ตำรวจชุดจับกุมออกมาขอโทษ บริเวณบันไดทางขึ้น สน.ห้วยขวาง ทั้งที่ พ.ต.อ.อนุรักษ์บอกกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า มีการขอโทษเป็นการส่วนตัวภายในห้องด้านในแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องออกมายกมือไหว้ขอโทษพร้อมกล่าวคำขอโทษกับกลุ่มผู้ชุมนุม จึงทำให้บางส่วนคลายความโกรธแค้นและเริ่มทยอยออกจากพื้นที่ในเวลา 15.30 น. แต่บางส่วนก็ยังมีอารมณ์และยังไม่ยอมกลับพร้อมทั้งตะโกนด่าทอตำรวจ และบอกว่า ไม่ได้มีใครจ้างมา โดยไม่มีการแจ้งข้อหากับผู้ใด แต่ก็ทำให้การจราจรบริเวณหน้า สน.ติดขัดชั่วคราว

วิวาทะ ฮุนเซน ไม่ส่งแม้วให้ไทย แถมเชิญเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ...

"ฮุน เซน-อภิสิทธิ์" ผู้นำกัมพูชารับเชิญ"แม้ว"เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ เมินส่งตัวให้ไทยอ้างเป็นคดีการเมืองไม่เข้าข่ายสัญญา ให้เป็น"แขก"อยู่ในประเทศได้ เปรียบเป็นเหยื่อเหมือน"ซูจี" ปัดแทรกแซงกิจการภายใน "มาร์ค"วอนอย่าตกเป็นเบี้ยใคร คิดให้ดีถึงประโยชน์คน2ชาติ

ที่มา - สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางถึงโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 23 ตุลาคม ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์ตอบโต้ในเรื่องเดียวกัน

สมเด็จฮุน เซน
...ทักษิณสามารถอยู่ในกัมพูชาได้ในฐานะแขก และในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของผม...

เป็นเรื่องจริงที่ผมได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ขอแนะนำให้ไปอ่านข้อที่ 3 ของสนธิสัญญาฯ (หากเรื่องที่เป็นคดีการเมืองไม่เข้าข่ายส่งผู้ร้ายข้ามแดน) ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณสามารถอยู่ในกัมพูชาได้ในฐานะแขก และในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของผม ถ้าถามว่าผมทำอย่างนี้ทำไม นั่นเป็นคำถามที่มีหลายคำตอบ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าใครจะตอบคำถามนั้น

แล้วใครจะเป็นผู้ตอบคำถาม

-ใครตอบได้ก็ตอบไป ผมเองก็จะพยายามหาคำตอบภายใน 2-3 สัปดาห์

คุณกำลังพยายามช่วยเหลือทักษิณให้กลับประเทศไทยใช่ไหม

-นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม เพราะสิ่งที่ผมกังวลคือเรื่องมนุษยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรทำให้กับเพื่อนของผม การเมืองภายในของไทยควรปล่อยให้ประชาชนไทยแก้ไขกันเอง ผมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และอย่ากล่าวหาฮุน เซน น้อยๆ ว่าเป็นพวกสนับสนุนทักษิณหรือสนับสนุนคนเสื้อแดง เพราะก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะมากัมพูชาก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนเขากลุ่มใหญ่ ดังนั้น อย่ากล่าวหาว่าฮุน เซนเป็นผู้สนับสนุนเสื้อแดง

การให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจไม่ถือเป็นการแทรกแซงการเมืองไทยหรือ

-นี่ไม่ใช่การแทรกแซงกิจการภายในของไทย แต่เป็นสิทธิและอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา คนมากมายพูดเรื่องนางออง ซาน ซูจี ในพม่า แล้วทำไมไม่พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งเป็นเหยื่อเหมือนๆ กัน นี่ไม่อาจนับว่ากัมพูชาแทรกแซงกิจการภายในของไทยได้

ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ สม รังสี (ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา) ได้รับเชิญมาไทย เขาได้ออกแถลงการณ์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา ทีวีไทยก็มีการแสดงความเห็นกดดันในเรื่องเกี่ยวกับตัวผมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นหมายความว่าอย่างไร มันเหมือนน้ำหยดหนึ่งในแก้วเท่านั้น สิ่งที่ผมทำคือการให้สนับสนุนทางด้านจิตใจของผมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คนไทยเสื้อแดงนับล้านสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำไมผมในฐานะมิตรจากแดนไกลจะไม่สามารถสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณได้ ถ้าไม่มีการปฏิวัติเมื่อปี 2549 เรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้น คนพูดถึงซู จี ในพม่า แล้วทำไมฮุน เซน จึงจะพูดถึงทักษิณบ้างไม่ได้ อย่ามาตำหนิผม

***********

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
...ท่านเป็นนายกฯที่อาวุโส อย่าไปเป็นเหยื่อหรือเบี้ยให้ใครเลยครับ...

สมเด็จฯฮุน เซน ให้สัมภาษณ์ว่าอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา

-เรื่องเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของนายกฯฮุน เซน ผมมีความกังวลว่านายกฯกัมพูชาอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ในการเข้าใจสถานการณ์ที่เกี่ยวกับคุณทักษิณ ซึ่งต่างกับนางออง ซาน ซูจี ผมไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความคล้ายคลึงกับนางออง ซาน ซูจี นายกฯฮุน เซน มาที่นี่เพื่อร่วมประชุมอาเซียน ซึ่งหมายถึงการที่เราจะมีความร่วมมือและเอกภาพระหว่างกัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปสนใจคนไทยคนหนึ่งที่จะทำลายสัมพันธภาพ ผมหวังว่านายกฯฮุน เซน จะสนใจเรื่องนี้

โฆษกของรัฐบาลกัมพูชาประกาศว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณลี้ภัยในกัมพูชาจะไม่ยอมส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพราะคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีการเมือง

-1.กระบวนการเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน ซึ่งโดยปกติแล้วก่อนจะใช้ดุลพินิจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารหรือว่าศาลก็ตาม ก็ต้องรับฟังทั้งสองฝ่าย เพราะฉะนั้นจะต้องมีกระบวนการที่เปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เสนอข้อเท็จจริงว่าตกเป็นเรื่องของการเมืองหรือเรื่องของการการทุจริตคอร์รัปชั่น อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องว่าไปตามกระบวนการ จะไปพูดล่วงหน้ายังไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายตามกระบวนการที่ควรจะเป็น หลักก็มีอยู่เท่านั้น

คำพูดของสมเด็จฯฮุน เซน ผมคิดว่าคงมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก อย่างที่เรียนว่าไม่ทราบว่ายังมีกี่คนในโลกที่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณกับนางออง ซาน ซูจี เหมือนกัน และต้องเข้าใจว่าบางเรื่องที่มีการหยิบยกขึ้นมา เช่น กรณีนายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาล จึงจะมาเปรียบเทียบกับกรณีที่รัฐบาลอีกประเทศหนึ่งจะไปเปิดโอกาสให้ใช้ประเทศเป็นฐานมาทำอะไรที่กระทบกับความสัมพันธ์และกระทบความมั่นคงไม่ได้

2.หลายเรื่องที่แสดงจุดยืนไปที่มาเทียบเคียง เป็นเรื่องของมติของอาเซียนซึ่งสืบเนื่องกันมา เพราะฉะนั้นจึงมาเปรียบเทียบไม่ได้เลย ผมไม่ทราบว่าข้อมูลที่คลาดเคลื่อนมาจากไหน แต่เราก็มีหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง คิดว่านายกฯฮุน เซนต้องคิดให้ดี ว่าจะยืนยันการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบร่วมกันต่อประโยชน์ของคนทั้ง 2 ชาติเพื่ออะไร คือผมก็เห็นว่าท่านก็เป็นนายกฯที่มีความอาวุโส อย่าไปเป็นเหยื่อหรือเบี้ยให้ใครเลยครับ

หากพบกับนายกฯกัมพูชาจะได้คุยกันเรื่องนี้หรือไม่

-ก็...คงได้มีโอกาสหารือกัน

ในการพูดคุยกรอบทวิภาคีที่มีโอกาสได้พบกับผู้นำกัมพูชา คิดว่าจะมีโอกาสได้ชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือไม่

-ผมคิดว่าท่านอาจจะต้องชี้แจงผมก่อนมั้งครับ

คิดว่าตัวเองจะไม่เป็นคนเริ่ม

-ผมไม่มีอะไรจะชี้แจงเท่าไร จริงๆ แล้วน่าตั้งคำถามว่า สิ่งที่เคยแสดงจุดยืนมาตลอด ถ้ามันเปลี่ยนแปลงไปก็คงต้องชี้แจง ผมก็จะพูดในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริงเผื่อท่านจะได้มีความเข้าใจอะไรที่ดีขึ้น

ยังคิดว่าคำชี้แจงของสมเด็จฯฮุน เซน ยังรับฟังได้ไหม เพราะทุกครั้งที่พูดก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

-ที่จริงผมก็ไม่แน่ใจว่าจุดยืนนี้จะเปลี่ยนไปอีกหรือไม่ แต่ผมได้แสดงจุดยืนของผมชัดเจนแล้วชัดเจน

การที่นายกฯกัมพูชามาเรื่องนี้ในประเทศไทย

-ผมก็ได้พูดไปแล้วเมื่อกี้ว่าท่านมาร่วมประชุมเพื่ออะไร สิ่งที่พูดสิ่งที่แสดงออกมันสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กับการเดินทางมาหรือไม่

จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศไทยหรือเปล่า

-วันนี้ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่สะท้อนออกมามันคือความคลาดเคลื่อนอย่างรุนแรง ประเทศไทยก็เพียงแต่บอกว่าขอให้คิดให้ดี เพราะเรายังยืนยันว่าความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศน่าจะสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

กังวลแค่ไหนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะใช้ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศห่างไกลเป็นฐานในการโจมตีโจมตีรัฐบาล

-เขาก็มีความพยายามโจมตีรัฐบาลจากต่างประเทศมาตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะจากประเทศใกล้เคียงหรือห่างไกล แต่ข้อเท็จจริงคือเขาจะต้องอยู่ใต้กฎหมายเหมือนคนอื่น เชื่อว่าในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมรับในจุดนั้น ซึ่งเขาต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้

การที่ประเทศไทยดูเหมือนจะไม่มีความปรองดองทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ

-เรากำลังทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อให้ประเทศไปข้างหน้า หลายเดือนที่ผ่านมาก็เห็นความก้าวหน้า แต่ไม่มีอะไรที่เป็นทางออกที่ง่าย การประกาศว่าจะไม่ยึดตามนิติรัฐก็ยิ่งไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พันธมิตร 16 จังหวัดใต้ถ่อยได้ใจ-ชูจั๊กกะแร้หนุน สหภาพรถไฟหยุดเดินรถทำร้ายประชาชน

เอเอสทีวี-ผู้จัดการ : พันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้ประกาศแถลงการณ์ฯ ยืนยันเข้าร่วมและสนับสนุนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย โดยยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารการรถไฟฯ และรัฐบาล

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6/2552 ประกาศเข้าร่วมและสนับสนุนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) จากกรณีสหภาพฯ รถไฟได้หยุดการเดินรถเนื่องมาจากเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับขบวนรถด่วนที่ 84 ตกรางที่สถานีเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายสุมิตร นวลมณี ตัวแทนพันธมิตรฯ 16 จังหวัดภาคใต้แถลงว่า ในฐานะประชาชนผู้ใช้บริการ ผู้เป็นเจ้าของรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ขอประกาศสนับสนุนข้อเสนอของสหภาพฯ รถไฟ โดยมีข้อเรียกร้องต่อผู้บริหารการรถไฟฯ และรัฐบาล คือให้เร่งดำเนินการจัดซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ บนรถจักรและรถพ่วง รถโดยสาร ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนนำไปใช้งาน รัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องรับผิดชอบทุกกรณีหากยังไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และยังกลั่นแกล้งข่มขู่พนักงานเพื่อให้เปิดการเดินรถ ทั้งที่รู้ว่าอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยแก่ขบวนรถและผู้โดยสาร

กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันว่า หากมีการดื้อดึงเปิดให้บริการรถไฟในขณะที่สภาพรถไฟไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เป็นเหตุทำให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนนั้น จะต้องมีผู้รับผิดชอบ เน้นย้ำถึงการไม่ยอมให้รัฐบาลยกสถานการณ์นี้เพื่อนำไปสู่การแปรรูปอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มนายทุนและนักการเมืองได้รับผลประโยชน์

พร้อมกันนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ ยังชี้แจงถึงการบิดเบือนการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนจากกลุ่มผู้บริหาร กรณีพนักงานขับรถหยุดรถที่สถานีรถไฟละแม จังหวัดชุมพร โดยมีการใส่ร้ายว่าพนักงานขับรถและสหภาพฯรถไฟมีการทิ้งผู้โดยสารให้ลงระหว่างทาง ซึ่งข้อเท็จจริงพนักงานขับรถได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเสื่อมเสียเป็นการดิสเครดิตแก่พนักงานขับรถและสหภาพฯ รถไฟอย่างร้ายแรง

“เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังมีความเข้าใจผิดกรณีการหยุดมาก ดังนั้น การแถลงการณ์ครั้งนี้จึงเป็นการเน้นย้ำให้สิทธิแก่ประชาชนในการรับรู้ข้อมูลแท้จริง ว่าการหยุดให้บริการของสหภาพฯ รถไฟ เป็นการกระทำไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการกระทำในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนที่ไม่ได้เป็นการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น” นายสุมิตรกล่าว

แม้วทวิต ซึ้งใจฮุนเซน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ขอบคุณ สมเด็จฯ ฮุนเซ็น นายกฯ กัมพูชา ที่สร้างบ้านพักรอให้ไปพำนักที่กัมพูชา ว่า ผมขอขอบคุณ สมเด็จฯ ฮุนเซ็น ที่กรุณาบอกต่อสาธารณะชนว่า ผมเป็นเพื่อน และยินดีต้อนรับผมทุกเวลา และยังได้กรุณาจัดบ้านให้ผมไปอยู่ที่พนมเปญอีกด้วย รวมทั้งยังได้ขอบคุณ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และคณะ ที่เดินทางไปประเทศกัมพูชา ว่า ผมขอขอบคุณพี่จิ๋ว และคณะ พี่จ๊อก จิรเดช (พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรอง ผบ.ทบ.) ตลอดจนเพื่อน ๆ เตรียมทหารรุ่น 10 ที่โตมาด้วยกัน และรู้จักผมดีว่า การกล่าวหาว่า ไม่จงรักภักดี ไม่จริง

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวของคุณรัฐบาลศรีลังกา ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างพำนักที่ศรีลังกา ว่า ผมขอขอบคุณรัฐบาลศรีลังกา ที่กรุณาอำนวยความสะดวก โดยจัดเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์พาไปหลายจังหวัด เพราะมีเวลาน้อยหากไปรถคงไม่ทัน ผมพักอยู่แค่ 28 ชั่วโมง และผมได้พบประธานาธิบดีซึ่งเคยรู้จักกันมาครั้งท่านเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ท่านกล่าวต้อนรับผมเมื่อไปเยือนปี 2546 และได้พบกันที่คิวบา 3 วัน ก่อนผมถูกปฎิวัติ


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวตอบคำถาม กรณีที่มีผู้ตั้งคำถามถึงการเดินทางไปต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เหตุใดถึงเดินทางไปแต่ประเทศเผด็จการเบ็ดเสร็จ โดยไม่เดินทางไปในประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ว่า ผมไปมาทุกรูปแบบแล้ว ไม่ใช่แฟนตัวจริงก็ไม่รู้จริงแบบนี้แหละ ศรีลังกาก็น่าจะเป็นประชาธิปไตยสูง ออสเตรเลีย, สวีเดน, อิตาลี ก็ไปมาแล้ว


ด้าน นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และอดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีแผนการเดินทางไปกัมพูชา ขอให้รัฐบาลไม่ต้องไปหวั่นไหว และตกใจอะไร แต่เรื่องดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไทยไม่มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับรัฐบาลกัมพูชา.

พท.สั่งฟิตสมาชิกสู้ศึกเลือกตั้ง

ที่พรรคเพื่อไทย มีจัดสัมมนาเตรียมพร้อมการเลือกตั้ง ครั้งที่ 1 โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เกือบ 50 คน เข้าร่วมสัมมนา โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า ต่อจากนี้จะเป็นการแข่งขันของ 2 พรรค ตนไม่เคยมองพรรคภูมิใจไทยอยู่ในสายตา เพราะคนอีสานรับไม่ได้กับคนเนรคุณ เลือกตั้งครั้งหน้าพื้นที่ไหนแข่งกับพรรคภูมิใจไทยคนเดียวก็ให้ซักชุดขาวเตรียมไว้ได้เลย พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้วีดิโอลิงค์กำชับให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เตรียมพร้อมเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2553 หรืออย่างช้าไม่เกินกลางปีหน้า ซึ่งกระแสประชาชนวันนี้เลือกพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ช่วงนี้กระแสตกต่ำ สำหรับการหาเสียงต้องใช้ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ นำหน้า เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้แก้รัฐธรรมนูญ และได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านมาแก้ไขปัญหาความยากจน นอกจากนี้ ในการหาเสียงต้องไม่ทะเลาะกับพรรคไหน รวมทั้งข้าราชการประจำ เนื่องจากตอนนี้ถูกรัฐบาลกดขี่ข่มเหงหนักอยู่แล้ว.

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ฮุนเซน"เผยเมียถึงร่ำไห้สงสารทักษิณ-สร้างบ้านรอต้อนรับ


คมชัดลึก : เผยฮุนเซนสร้างบ้านหรูรับเพื่อนอย่างสมเกียรติ แถมยังอุ้ม”ทักษิณ”เพราะรู้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้ง “เตียบันห์ – วิชิต ” ประสานความร่วมงานการเมือง ด้าน “ ทักษิณ ” โฟนหา “ จิ๋ว ” ทันควันถามผลถก “ ฮุน เซน ” พร้อมสั่งงานให้เดินสายประสานประเทศเพื่อนบ้าน และดูปัญหาไฟใต้

(21ต.ค.) เมื่อเวลา 07.40 น. พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผบ.ทบ. พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์ พล.ต. ศรชัย มนตริวัต ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยมีพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา ให้การต้อนรับจากนั้นเวลา 11.00 น. คณะพล.อ.ชวลิต ได้เดินทางเข้าพบ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่บ้านพักรับรองในกรุงพนมเปญเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และร่วมหารือถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป

จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น.สมเด็จฮุน เซน กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า เมื่อตนรู้ว่าพล.อ.ชวลิต เข้ามาเป็นประธานพรรคเพื่อไทย จึงได้เชิญมากัมพูชา เพราะเราเคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรามีความสัมพันธ์ที่ดีโดยเฉพาะพรรคประชาชนกัมพูชากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตเป็นพรรคไทยรักไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของพรรคการเมืองทั้งสอง จึงได้แต่งตั้งพล.อ.เตียบันห์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานพรรคการเมืองทั้งสอง โดยทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอตั้งพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานของพรรคเพื่อไทย

“ผมมีความสัมพันธ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อน เรามีความรักความผูกพันกันมาตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจ จนกระทั่งลงมาเล่นการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองยังผูกพันเหมือนเดิมทุกอย่าง ในฐานะเพื่อน ผมรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการเมือง ประสบเคราะห์กรรม แต่ผมกับทักษิณยังเป็นเพื่อนกัน ในฐานะที่ทำประโยชน์ให้ประเทศมานาน แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ผมมีความรู้สึกเจ็บปวดในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนไทย ผมและคนในครอบครัวได้รับรู้เรื่องนี้ ภรรยาผมถึงกับร้องไห้ และมีความเห็นที่จะสร้างบ้านให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่ในกรุงพนมเปญ ในฐานะเพื่อน อย่างมีเกียรติ ” สมเด็จฮุน เซน กล่าว

สมเด็จฮุน เซน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ตนมีความรักในสันติภาพถึงประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากขอให้พวกเราถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่มีปัญหา เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า และขอให้คณะกรรมการประสานงานชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(เจบีซี) เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในพื้นที่ทับซ้อน ตนเห็นว่าสามารถที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทั้งสองประเทศ ส่วนเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาให้บริษัทต่างชาติสำรวจทรัพยากรในทะเลนั้น ขอยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด และทางกัมพูชาได้เสนอรัฐบาลไทยและรออยู่เพื่อตกลง จะขุดหาผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนพล.อ.ชวลิตจะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามพล.อ.ชวลิต ถึงการเข้าพบสมเด็จฮุนเซ็น โดยพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี นายกฯฮุน เซนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีไม่เปลี่ยนแปลง และยังฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ให้เดินทางมาอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพราะได้สร้างบ้านหลังใหญ่สวยหรูไว้รอต้อนรับ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทางโทรศัพท์ว่า อยากให้พล.อ.ชวลิตเดินทางไปประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศพม่าและลงไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพล.อ.ชวลิต กล่าวตอบกลับว่า ตนจะเดินทางลงไปในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเร็วๆนี้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ขอทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

“พท.”ปัด”ทักษิณ”เตรียมย้ายฐานซบเขมร

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกที่เพื่อนจะสร้างบ้านให้เพื่อน สมเด็จฮุนเซ็น รักใคร่กับอดีตนายกฯเป็นอย่างดี คงเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีประโยชน์สามารถสร้างความเจริญให้ประเทศกัมพูชาได้ คงไม่ใช่อย่างที่มีการมองกันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อาจย้ายฐานการเมืองจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมาอยู่ประเทศกัมพูชา แต่เป็นเพราะสมเด็จฮุนเซ็นอาจอยากได้พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ไปสร้างความเจริญให้ประเทศเหล่านั้น อยู่ที่ไหนก็มีคนรัก ไม่เหมือนประเทศไทยที่ไม่รู้จักใช้ความรู้ ความสามารถของท่าน ไปให้คนไม่มีความรู้มาบริหารประเทศ เลยเป็นอย่างนี้เศรษฐกิจตกต่ำ นักลงทุนไม่กล้าลงทุน ถือเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศ ที่ไม่รู้จักใช้คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ

จิ๋วปะทะป๋า นี่คือเกมส์รักษา สถาบันฯ

ว่ากันว่า อัจฉริยะ คือคนที่ใกล้บ้า แต่ยังไม่บ้า ส่วนคนบ้านั้น คืออัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เลยกลายเป็นคนบ้า บังเอิญว่าลุงจิ๋วแกแค่เฉียดบ้าไป ไม่ถึงเส้นยาแดงผ่าแปด จึงได้รับการยกย่องเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพ ทหารอัจฉริยะหนึ่งเดียว ตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพไทยนะนั่น ทำเป็นเล่นไป

จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่เราจะฟังแกพูดไม่รู้เรื่อง แต่แกพอจะฟังเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแกดัดจริตพูดภาษาเทพ เพียงแต่ว่าแกพูดตามที่แกรู้ แล้วเราดันไม่รู้ตามที่แกพูด ก็เท่านั้นเอง

ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากทะเลาะกับคนบ้า พอๆกับที่ไม่มีใครอยากต่อกรกับอัจฉริยะ บังเอิญว่าป๋าแกซวยจัด ดันไปถือหางคนละฝั่งกับขงเบ้ง เรื่องของเรื่อง นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เลยต้องแต๋วแตก ออกมาบ๊งเบ๊งเป็นการใหญ่ เมื่อลุงจิ๋วแกเปิดหน้าชน ไม่มีการเกรงใจกัน

ว่ากันอีกว่า ถ้าพฤษภาทมิฬไม่ได้ลุงจิ๋วปล่อยวินมอร์ไซค์ออกมาป่วนไม่เลิก ป่านนี้ลุงสุจินดาไม่รู้ว่าเช็คบิล ไปนอนเกาพุงถึงไหนแล้ว ไม่มีทางได้ผุดได้เกิดหรอก อัศวินม้าขาวน่ะ

ในเมื่อรู้มือกันอย่างนี้แล้ว ถ้าป๋าไม่รู้สึกหนาวบ้าง ก็ให้มันรู้ไป

เมื่อตอนที่อเมริกันแตกทัพ เปิดตูดหนีจากไซง่อนอย่างหมดรูป กองทัพเหงียนก็ได้ใจ ร่ำๆจะกรีฑาทัพมายึดสารขัณฑ์ซะให้ได้ ดีว่าลุงจิ๋วแกแอบต่อสาย ให้จีนใหญ่เปิดสงครามสั่งสอน รุกพรวดเดียวถึงฮานอย ดึงกองทัพเวียตกง กลับไปต้อนรับขับสู้แทบไม่ทัน เมืองที่มีแต่ทหารที่เก่งกับชาวบ้าน เลยรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้อย่างหวุดหวิด

บำเหน็จที่ได้คือ ลุงจิ๋วเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ ตามธรรมเนียมอันเลวทราม ของเมืองตอแหล

และก็เป็นคอมมูนิสต์จิ๋วคนนี้ ที่ทำการสลายพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยด้วยคำสั่ง 66/23 ซึ่งคนเซ็นต์คือป๋า จัดการงุบงิบรับชอบไปแต่เพียงผู้เดียว แถมยังได้รับยกย่องว่าฉลาดล้ำลึกซะไม่มี ที่รู้จักใช้การเมืองนำการทหาร

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี ก็เป็นป๋าคนเดียวกันนี้ ที่กำลังใช้การทหารมานำการเมืองอย่างเข้มข้น ด้วยการสั่งทหารให้ไล่ฟัดคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ จนบ้านเมืองฉิบหายวายวอด ไม่มีชิ้นดี

อะไรไม่ว่า มันพาเอาสถาบันอะไรต่อมิอะไร เป๋กันไปหมด เล่นกันจนชาติไม่เป็นชาติ ทำให้ทุกจังหวัดต้องเวียนกันออกมาร้องเพลงชาติจนคอโป่ง ยังไม่รู้ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า

ถ้าเปรียบสถาบันฯเป็นกระบี่อาญาสิ ทธื์ ก็ถูกป๋าลากเอามาฟาดฟันศัตรูทางการเมือง ที่ถูกป๋าตราหน้าว่าเป็นศัตรูของชาติ เป็นอันตรายต่อสถาบันฯ จนกระทั่งกระบี่บิดงอยับยู่ยี่ ยากที่จะเยียวยาแก้ไข ให้กลับดีดังเดิม

ที่สำคัญ ศัตรูของป๋า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือประชาชนทั้งนั้น เป็นรากฐานสำคัญของชาติ เป็นเกราะคุ้มครองสถาบันฯ ที่แข็งแกร่งเหลือกำลังลาก แต่ป๋าดันลากมาเผชิญหน้ากันซะฉิบ

ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงไม่สิ้นชาติก็คงไม่มีอะไรเหลืออยู่ดี ดังนั้น จึงถึงเวลาที่พ่อใหญ่จิ๋วต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อรักษาสถาบันฯเอาไว้ ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างสง่างาม

แล้วคนระดับขงเบ้ง มีหรือที่จะไม่รู้ว่า ถ้าจะแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริงๆ ก็มีแต่นำพาสถาบันฯเข้าไปอิงแอบกับประชาชนเท่านั้น ถึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

นั่นคือเหตุผลที่ ถึงยังไงลุงจิ๋วก็ต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ไปซุกหว่างขาประชาธิปัติย์ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ให้มันแตกร้าวหนักเข้าไปอิก เพราะต่อให้สิบบิ๊กจิ๋วไปเติมพลังให้ฝ่ายอำมาตย์ ก็ไม่สามารถเอาชนะประชาชนได้อยู่ดี

มีแต่จะลากยาว ให้สงครามมันยืดเยื้อออกไป ให้่บรรลัยวายวอดหนักเข้าไปอีก ทั้งๆที่ผลบั้นปลาย ยังไงประชาชนก็เป็นฝ่ายชนะ

ถ้าขืนปล่อยให้พรรคเพื่อไทย ภายใต้การหนุนหลังของมหาชน ยืนซดกับอำมาตย์ตัวต่อตัว เกรงว่าถ้าเลือดเข้าตา จะยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เกิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินขึ้นมา มันจะดูไม่จืด

เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่สี่เหล่าทัพ ต้องกรีฑามาเข้าพรรคเพื่อไทย จนป๋าถึงกับชักดิ้นชักงอ ด่ายัดลุงจิ๋วไม่มีชิ้นดี

แต่คนอย่างป๋านั้นแพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว ต่อไปนี้คงได้เห็นลูกกะแป๋งป๋า ดาหน้าออกมาแหกปากด่าทักษิณไปตามระเบียบ..พูดถึงผีผีก็มา เมื่อนายแพทย์สังเวช บัดสีบัดเถลิง ออกมาเปิดจุกเป็นคนแรก สวดชยันโตทักษิณว่าเล่นไม่เลิก ไม่มีจิตสำนึกใหม่ อะไรของแกก็ไม่รู้

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหา นับหน้าถือตามากมาย แต่ไหงเปิดกะโหลกออกมา มันกลวงโบ๋ไม่มีรอยหยักแม้แต่น้อย มิน่าล่ะ ถึงเก็บได้แค่ข้อมูลเกี่ยวกับทักษิณ เลยย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องทักษิณ ไม่รู้จักเลิก

ไปเปรียบอะไรกับท่านปรีดี หรือนายกฯชาติชาย ที่พอถูกปฏิวัติก็เงียบหายไปเลย ทำไมไม่นึกบ้างว่า พวกกะโหลกกะลาทั้งหลาย ตอนนั้นทำไมไม่ออกมาปกป้องกติกาบ้านเมือง เหมือนที่ประชาชนกำลังทำอยู่ตอนนี้

ซึ่งถ้าประชาชนลุกขึ้นมาสู้ มีหรือที่ท่านเหล่านั้น จะไม่ออกมาร่วม

แล้วถ้าประชาชนตั้งป้อมสู้อย่างทุกวันนี้ จะมีทหารเลวหน้าไหน ยังกล้าลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีก ถ้าพวกแก่ๆในวันนี้ ลุกขึ้นมาสู้ซะตั้งแต่วันนั้น มันจะมีการทำรัฐประหารทำลายสถิติโลกถึงเกือบ 20 ครั้งได้ยังไง

ในเมื่อหน้าที่ตัวยังไม่ทำ ก็อย่าได้มาใส่เกือกขัดขวางคนอื่น ถ้าทำเป็นแค่อ่านหนังสือต่างประเทศ แล้วเก็บเอาขี้ปากเขา มาเหน็บคนในชาติที่เป็นศัตรูอำมาตย์ ก็สู้รีบๆตายไปซะ ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อน ให้คนเขาด่า

แล้วจำใส่กะโหลกหนาๆไปถึงปรโลกด้วยว่า สงครามวันนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ อย่ามาแหลดูถูกประชาชน ว่าถูกบงการโดยทักษิณ คนที่เล่นไม่เลิกจริงๆ ก็คือประชาชนต่างหาก ไม่ใช่ทักษิณ

ทักษิณอาจจะเลิกได้ แต่ประชาชนไม่มีทางเลิกแน่

วโรทาห์: 21 ต.ค. 52

ควานหาตัวผู้ทรยศ

ที่มา – Political Prisoners in Thailand
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

แต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป เรื่องยิ่งพิสดารหนักขี้นเรื่อยๆ จากบางกอกโพสต์ (วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒: “นายก แจ้งเบาะแสพวกปากพล่อย”) รายงานว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เรียกชุมนุม “บุคคลใดก็ตาม ที่ทราบว่าใครเป็นตัวกระพือข่าวลืออัปมงคลเกี่ยวกับพระพลานามัยของกษัตริย์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วให้ก้าวออกมา” และสั่งให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำการสืบสวนในเรื่องนี้ อภิสิทธิ์อ้างเหตุผลที่น่าเวทนาว่า ตัวปล่อยข่าวลือ “เป็นผู้คุกคามความมั่นคงของประเทศ..”

ฝ่ายต่อต้านทักษิณ และ “กลุ่ม ส.ว. ๔๐ คน” ที่ส่วนใหญ่มาจากการสรรหา ออกแถลงการณ์ว่า “ผู้ที่มีชื่อเริ่มด้วยตัวย่อ “ย” และ “ว” หรือ “ว” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังข่าวลือนี้” ผู้นิยมทักษิณบางคนขอให้มีการแสดงหลักฐาน เพราะชื่อย่อทั้งหมด ดูเหมือนจะเป็นคนในครอบครัวของทักษิณและผู้สนับสนุนเขา เนื่องจากมีการ “กล่าวหาว่าต้นตอของข่าวลือเป็นนักลงทุนกลุ่มใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อมโยงกับญาติสนิทของอดีตผู้นำประเทศ”

จากข่าวบางกอกโพสต์ “นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวนของ ก.ล.ต.” จากนั้น กรณ์ จาติกวณิช “กล่าวว่า เขาได้สั่งให้ ก.ล.ต. ทำรายงานผลการสอบสวนในอาทิตย์นี้” กรณ์กล่าวต่อว่า “ถ้า ก.ล.ต.ไม่สามารถตามหาต้นตอข่าวลือได้ ก.ล.ต.จะต้องหาคำอธิบายว่าทำไม…” ฟังดูเหมือนไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเลยนะ ก็แค่ขู่ใช่ไหม

อย่างไรก็ดี กรณ์คิดว่า “คำอธิบายเกี่ยวกับต้นตอข่าวลือ” จะ “ช่วยเรียกความมั่นใจจากนักลงทุนกลับคืนมา” กรณ์ควรจะขอบคุณเสียด้วยซ้ำที่ว่า ขณะนี้ทางการไทยจะได้รับรู้เสียทีว่าอะไรจะเกิดขี้นเมื่อสิ้นกษัตริย์ และพวกเขาจะได้เตรียมรับมือในเรื่องนี้ แทนที่จะแสดงความโง่เมื่อเวลานั้นมาถึง และไม่น่าเป็นไปได้ที่นักลงทุนต่างชาติจะมีความมั่นใจกับ การสั่งการของรัฐบาลให้พวกคลั่งเจ้าควานหาตัวต้นตอปล่อยข่าว

แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง การโจมตีทักษิณ และใครก็ตามที่สนับสนุนเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เวลาประจวบเหมาะเลยนะ ที่รัฐบาลแสดงการโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ส.ส.ปประชาธิปัตย์ชี้พรรคศาสดาโกเต๊กซ์ ชักใยสหภาพรถไฟหยุดเดินรถสายใต้

มติชน : นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาสหภาพการรถไฟหยุดงานประท้วงว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบ ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่โยนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นผู้แก้ปัญหาเพียงคนเดียว ตนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ดูได้จากความสัมพันธ์ระหว่างนาย สาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจึงมองได้ว่ามีกระบวนการบีบคั้นให้รัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ให้คนมองว่าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เพื่อให้เกิดการยุบสภา และพรรคการเมืองใหม่จะได้ลงรับเลือกตั้ง
“สาวิทย์”เรียกถกด่วนสหภาพฯ รฟท.ขอมติเปิดเดินรถสายใต้

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมสมาชิกสหภาพการรถไฟฯ ที่อยู่ในส่วนกลางเป็นการเร่งด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์และขอมติที่ประชุมว่า จะยอมเปิดเดินรถไฟสายใต้และยอมเจรจากับ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่ โดยจะเปิดแถลงข่าวในช่วงนี้

นายสาวิทย์ กล่าวว่า แม้ว่าเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟฯ ได้เดินทางลงพื้นที่และพบกับพนักงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ยังไม่มีการเจรจากับพนักงาน เนื่องจากถูกโห่ขับไล่ โดยพนักงานรถไฟหาดใหญ่ กล่าวว่า จะไม่เปิดเดินรถในช่วงนี้อย่างแน่นอน เพราะยังไม่มีข้อสรุปและตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นที่เรียกร้องไป อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่า หัวรถจักรจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งทำให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ยังคงเงียบเหงา และมีประชาชนเดินทางไปสอบถามการเปิดเดินรถ แต่ไม่ได้รับคำตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งหาดใหญ่ได้สำรองรถบัสไว้ 20 คัน เพื่อรับ-ส่งผู้โดยสาร ทั้งที่ต้องการเดินทางระหว่างอำเภอ ระหว่างจังหวัด และเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และยังตกค้างอยู่ ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช บขส.ได้เพิ่มเที่ยวรถโดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีก 10 เที่ยว จากวันละ 20 เที่ยว เป็น 30 เที่ยว ซึ่งนายสถานียืนยันว่าจะไม่มีปัญหา แม้จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เพราะมีการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี

ทักษิณโชว์ปกหนังสือเล่มใหม่ “คนไทยหายจน (เสียดาย..ถูกปล้นเสียก่อน)”

แค่ทวงฏีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน

แค่จะทวงฎีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน
นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เสื้อแดงริอ่านจัดชุมนุมเป็นต้นมา เมื่อจะทวงถามฎีกากันทั้งที มันก็ต้องมีแสดงอิทธิฤทธิ์กันนิดหน่อย เพื่อที่ว่าคนแก่จะได้เลือดลมสูบฉีด หูตาสว่างโร่เป็นตาตั๊กแตน นี่ขนาดว่า ไม่มีการตีฆ้องร้องป่าว

แค่สะกิดเบาๆ ยังแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน

เหมือนจะกระชากอารมณ์อิจฉา ของคนแก่ที่ไม่รู้จักคำว่าปล่อยวาง ให้พุ่งปรี๊ดฉีดกระฉูดจนหน้าแดงก่ำ แถมยังตอกย้ำด้วยคำพูดเรียบๆ ของนายกฯขวัญใจประชาชนว่า เสียดายที่ไม่ได้วิดีโอลิ้งค์เข้ามาดูความยิ่งใหญ่

เพราะต้องรีบขึ้นเครื่องไปดูเพชรเม็ดใหม่ ที่เพิ่งขุดขึ้นมา

แต่ถึงยังไง งานนี้ก็ต้องให้เครดิตป๋าไปเต็มๆ ที่อุตส่าห์ช่วยฟูมฟักเสื้อแดงจนเติบใหญ่มา จวบจนเท่าทุกวันนี้ เพราะป๋าแท้ๆที่ช่วยเสือกไสไล่ส่ง ประชาชนทั้งหลายให้มากองรวมกัน ที่ฝั่งฟากเสื้อแดง ด้วยการตอกย้ำระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน จนชาวบ้านเขาเหลืออด ต้องตะโกนออกมาดังๆว่า

พวกมึงทำอะไรไม่เคยผิด แต่พวกกูทำอะไรไม่เคยถูก

ล่าสุดนี้ ยังอุตส่าห์พ่นดอกอุตพิตออกมาจากรูทวารจู๋ๆว่า "การเข้าพรรคเพื่อไทย เป็นการทรยศต่อชาติ" แปลไทยเป็นไทยให้เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพรรคเพื่อไทยคือศัตรูของชาติ คนที่จะเข้าพรรคนี้ ถึงต้องระวังว่าจะเป็นการทรยศต่อชาติ

เลยทำให้ศัตรูของชาติ ต้องออกมากันเต็มถนน เมื่อวันที่ 17 ตุลา

ก่อนที่จะมาพลิกลิ้นแผล็บ เมื่อนักข่าวดันไปถามเรื่องด่าลุงจิ๋ว ป๋าบอกไม่ได้พูดว่าทรยศชาติ แต่เตือนว่า จะทำอะไรคิดให้รอบคอบ เพราะอาจจะเป็นการทรยศชาติ

ใครฟังก็ได้แต่นั่งงง ว่ามันต่างกันยังไงหรือป๋า

คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ถ้าพูดออกมาทีไร เป็นต้องได้ฮากันท้องคัดท้องแข็ง อย่างเช่นเรื่องม้ากับจ๊อคกี้ ที่เล่นเอาฮาตรึมสมัยน้าแม้ว จนกระทั่งป่านนี้ ผ่านไปกว่า 3 ปี ยังฮากันไม่เสร็จ

ยังมีวลีเด็ดที่ป๋าฝากเอาไว้เยอะแยะ ถ้าขุดคุ้ยขึ้นมาเดี๋ยวมีฮาอีก อย่างเช่นว่า "ป๋าไม่พูดเรื่องการเมือง" แต่ไม่รู้เป็นไง

ไม่ว่าป๋าจะพูดอหิวาต์อะไรออกมา การเมืองเป็นได้เดือดปุดๆ ไปซะทุกที

มิน่าล่ะ ใครๆเขาถึงว่า อาการของโรคที่ป๋าเป็นนั้น มันมีพัฒนาการน่าเป็นห่วง สังเกตุว่าแรกๆป๋าก็แค่ออกมาแหล่ แต่แหล่ไปแหล่มาชักจะเริ่มแหล แล้วแทนที่จะรีบรักษา กลับออกมาแหลเป็นรายวัน

กว่าจะมารู้ตัวอีกที ก็แหลลงตับไปซะแล้ว

คนอย่างลุงจิ๋ว ดีชั่วยังไงแกก็ยังเป็นทหารประชาธิปไตย ขณะที่ทหารประชาธิปไตยครึ่งใบ มันกอดเก้าอี้ผบ.ทบ.แน่น จนกระทั่งเกษียณแล้วยังมีขอต่อวีซ่า แต่ลุงจิ๋วแกกล้าลาออกมันดื้อๆ เพื่อลงมาเล่นการเมือง

เสียอยู่อย่างเดียวว่า แกเป็นทหารที่ซ้ายหันขวาหันไม่เป็น เล่นเอาป๋าเสียวสยองกับแกอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าป๋าสั่งซ้ายแกจะไปขวา แต่ถ้าป๋าสั่งขวาแกจะออกซ้าย พอป๋าถามว่าจิ๋วจะหันไปทางไหนเอาให้แน่ ป๋าจะได้สั่งได้ถูก แกกลับปากหวานบอกว่า

แล้วแต่ป๋า สั่งมาได้เลย

ควันหลงจาก 17 ตุลา กระแสคลื่นประชาธิปไตย ที่จะพัดไล่คลื่นเผด็จการ ไปลงนรก มาถึงวันนี้ ชักจะแรงจัด ถึงขนาดเด็กๆยังออกแถลงการณ์ ไม่ให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง เรียกว่าย้อนเกล็ดพวกเฒ่ากะโหลกกะลา จนหน้าม้านไปตามๆกัน

เพราะขนาดรัฐบาลเด็กดื้อประกาศใช้พรบ.ฉุกเฉินอยู่โครมๆ พวกที่เคยดิ้นพราดๆ ห้ามลุงหมักจัดการกับพันธมิตร ยังนั่งอมสากกันหน้าตาเฉย ขนาดโดนเด็กมันส่งอีเมล์ไปลากคอมาร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ ยังทำเป็นหน้ามึน

เลยโดนแฉชื่อออกมาประจานซะเจ็บแสบ ใครเป็นใครคงไปหาดูได้ไม่ยาก แต่ที่แน่ๆแค่เปิดชื่อโคทม อารียา กับสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ก็เรียกเสียงฮือฮากันอื้ออึง

ส่วนพวกม.นกเขานั้นไม่ต้องไปพูดถึง ขนาดลูกศิษย์ลูกหามาออกแถลงการณ์กันอยู่เหย็งๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัว ไม่รู้ว่าพวกอาจารย์มันไปเลี้ยงนกเขาอยู่ที่ไหน

ต้องฝากบอกไปยัง อธิการบ่ดี คนที่ปากว่าตาขยิบปริ๊บๆคนนั้นว่า อย่าคิดว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้ว จะพาชาวบ้านไปลงนรกขุมไหนก็ได้ เพราะประชาชนที่โง่เขลานั้น ถึงจะยังมีอยู่ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างโร่ รู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำเนียนเป็นพวกประชาธิปไตย แต่ใจเป็นทาสเผด็จการ ทรยศต่ออุดมการณ์ วิ่งโร่ไปรับใช้อำมาตย์ เพื่อที่จะได้เป็นกรรมการโน่นนี่ ไม่รู้กี่สิบตำแหน่ง สวาปามกันจนพุงปลิ้น

ส่วนคนเฒ่าคนแก่ ที่กำลังใกล้ตาย เจียนอยู่เจียนไปทุกขณะ ถ้ารู้ว่าพลังของประชาชนนั้น เข้มแข็งขนาดไหน ก็อย่าเพิ่งตกใจจนช็อคตายไปซะก่อน ขอให้ท่องเอาไว้ว่า

แม้วจ้างมา..แม้วจ้างมา จะได้นอนตายตาหลับ

วโรทาห์

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เสื้อแดงยื่นฟ้อง'ป๋าเปรม'กล่าวหาเพื่อไทยทรยศชาติ

คมชัดลึก : ทนายนปช.ยื่นฟ้องหมิ่น”ป๋าเปรมกล่าวหา”เพื่อไทย”ทรยศชาติ ทำถูกเกลียดชังเสียหาย

(19ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา10.00น.สถานีภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดี กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 จากกรณีที พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนง มีการกระจายเสียงไปทั่วประเทศว่าการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการทรยศต่อชาติ

โดยนายคารม ระบุว่า การพูดของ พล.อ.เปรม เป็นการใส่ความไม่เฉพาะแต่พล.อ.ชวลิต เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการใส่ความพรรคเพื่อไทย และสมาชิกของพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ทรยศต่อชาติ ซึ่งผู้ร้องทุกข์ก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ที่ทรยศต่อประเทศชาติ ซึ่งทำให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังและได้รับความเสียหายด้วย

อย่างไรก็ตาม นายคารม กล่าวต่อว่า การแสดงความคิดเห็นของ พล.อ.เปรม ยังเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 14 ที่ห้ามไม่ให้องคมนตรีแสดงการฝักใฝ่พรรคการเมืองอีกด้วย