--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

ผู้บาดเจ็บปะทะลาดหลุมแก้ว 22รายโดนแก๊สน้ำตา300ราย

นพ.แสงชัย ธีระปกรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ล่าสุดขณะนี้มีการส่งผู้บาดเจ็บนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว 15 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ชุมนุม 11 ราย ทหาร 4ราย และตำรวจ 1 ราย ส่วนอีก 1 รายยังไม่ยืนยันว่า เป็นทหารหรือ ผู้ชุมนุม ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเป็นบาดฉีกขาดจากการปะทะและกระแทกตามส่วนต่างๆ ของร่ายกาย โดยมีผู้บาดเจ็บหนัก 1 ราย มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะ จึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปทุมธานีแล้ว นอกจากนี้ยังมี 2 รายที่มีอาการกระดูกแตกที่ขา โดยเป็นทหาร 1 ราย และผู้ชุมนุม 1 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้ทางแพทย์และ

พยาบาลได้เข้ารักษาบาดแผลเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในส่วนของทหาร 1 รายที่กระดูกแตกที่ขานั้น ขณะนี้รอทางกองทัพนำรถพยาบาลมารับเพื่อกลับไปรักษายังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ต่อไป

นพ.แสงชัย กล่าวว่า หลังจากการปะทะรอบแรกที่มีการทยอยส่งผู้บาดเข้ามารักษาจำนวนมาก แต่ขณะนี้เริ่มซาลงแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลยังคงเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์หากมีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม ทั้งแพทย์ พยาบาล ตลอดยาและเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังโรงพยาบาลชุมชนใกล้เคียงและโรงพยาบาลปทุมธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลจังหวัดคอยให้การสนับสนุนและส่งต่อไปได้ อีกทั้งยังมีรถพยาบาลฉุกเฉิน และรถมูลนิธิที่คอยเตรียมพร้อมรับมือเช่นกัน

ขณะที่ นพ.ทรงพล ชวาลตันพิพัทธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะที่ไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว ส่งมารักษาที่โรงพยาบาล 7 ราย ในจำนวนนี้ เป็นกลุ่มผู้ชุมนุม 5 ราย ซึ่งบาดเจ็บทั้งจากการได้รับแก๊สน้ำตาล และการปะทะกัน โดยในจำนวนนี้ 1 ราย ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งพบรายเจาะ และทหาร 2 ราย ซึ่งถูกหินกระแทกที่คิ้ว 1 ราย ยาวประมาณ 3-4 ซม. และได้รับบาดเจ็บที่สะบักหัวไหล่ ทั้งนี้เป็นเพียงรายงานการบาดเจ็บเบื้องต้นเท่านั้น สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะทั้งหมดไม่ทราบ เนื่องจากมีการส่งต่อไปโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว และโรงพยาบาลลาดบัวหลวง เจ้าหน้าที่ออกหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน ประเมินว่าน่าจะมีแก๊สน้ำตา 300 ราย ส่วนที่มีรายงานแค่ 75 ราย เป็นเพียงผู้ถูกแสน้ำตา และมารับบริการที่หน่วยรถฉุกเฉิน และโรงพยาบาลเพื่อล้างตา นอกจากนั้น น่าจะมีผู้ได้รับแก๊สน้ำตาที่ล้างหน้าและล้างตัวกันเองประมาณ 200 ราย " การปะทะครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บสาหัส ส่วนกรณีทหารที่จะต้องส่งไปรักษาที่ รพ.พระมงกุฎ เนื่องจากกระดูกแตกนั้น เกิดจาก สาเหตุถูกเหยียบ



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*************************************************

แถลงการณ์ กลุ่ม ๕ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เรื่อง ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอพระประแดง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอสามโคก อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และอำเภอวังน้อย อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร และอำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓ นั้น

เรา กลุ่ม ๕ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเห็นและข้อเรียกร้อง ดังนี้

๑. เสรีภาพการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ใน รัฐธรรมนูญ และเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานในรัฐเสรีประชาธิปไตย

๒. ข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดง คือ ให้นายกรัฐมนตรียุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน ๑๕ วัน ข้อเรียกร้องดังกล่าว เป็นข้อเรียกร้องทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในรัฐเสรีประชาธิปไตย การปิดถนนและการยึดพื้นที่สาธารณะบางส่วน เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจาต่อรองกับผู้ชุมนุม หากการกระทำดังกล่าว มีความผิดตามกฎหมายใด รัฐบาลและเจ้าหน้าที่สามารถบังคับใช้กฎหมายนั้นเพื่อออกมาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน ปราบปราม หรือลงโทษผู้กระทำผิดนั้นได้

๓. ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ไม่เพียงต่อผู้ชุมนุมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประชาชนทั่วไปในวงกว้างอีกด้วย การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องคำนึงถึงหลักความได้สัดส่วนเป็นสำคัญ

เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จ จริง เราเห็นว่า การชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดง ยังอยู่ในกรอบของการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ หากรัฐบาลต้องการให้ผู้ชุมนุมออกจากสถานที่สาธารณะ รัฐบาลสามารถใช้มาตรการอื่นๆได้ โดยไม่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนกรณีระเบิดตามสถานที่ต่างๆ ในแต่ละวันนั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงใดแสดงให้เห็นว่า เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง

เมื่อพิจารณาถึง เนื้อหาของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คำสั่ง และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่า มีเนื้อหาที่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพจำนวนมาก ทั้งในแง่ความเข้มข้นของมาตรการ และในแง่พื้นที่ซึ่งครอบคลุมในหลายจังหวัด

เรา เห็นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงยังไม่ถือเป็น “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ตามความในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ อันเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินได้ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ เป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น และไม่ได้สัดส่วน

๔. มาตรา ๑๖ ของ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ บัญญัติว่า ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

นั่น หมายความว่า ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำตามพระราชกำหนดนี้ ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมความชอบด้วยกฎหมายของศาลปกครอง และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้เป็นคดีรัฐธรรมนูญ ส่วนจะอยู่ภายใต้การควบคุมของศาลยุติธรรมหรือไม่นั้น ยังไม่มีคำพิพากษาบรรทัดฐานยืนยันไว้ ความข้อนี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ไม่ได้รับการประกันโดยองค์กรตุลาการเพียงพอ จนอาจทำให้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนถูกละเมิดจากการใช้อำนาจโดยมิชอบได้

เรา เห็นว่า ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ เป็นไปเพื่อสลายการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง รักษาอำนาจและความมั่นคงของรัฐบาลต่อไป ไม่ใช่รักษาอำนาจและความมั่นคงของรัฐ

ประกาศสถานการณ์ฉุก เฉินที่เกิดขึ้น มีผลเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง เป็นการใช้อำนาจเพื่อทำให้มาตรการที่ปกติแล้วไม่ชอบด้วยกฎหมายในทางเนื้อหา ให้กลายเป็นมาตรการที่ชอบด้วยกฎหมายในทางรูปแบบ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยแก้ไขวิกฤติความขัดแย้งครั้งนี้ให้บรรเทาเบาบางลงไปได้ แต่กลับเป็นตัวเร่งให้สถานการณ์ตึงเครียดและรุนแรงมากขึ้น

เราขอ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศ คำสั่ง และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
รอง ศาสตราจารย์ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์
รองศาสตราจารย์ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช
อาจารย์ ดร.ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล
อาจารย์ธีระ สุธีวรางกูร
อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล

ในภาวะฉุกเฉิน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีตั้งแต่เย็นวันที่ 7 เมษายน

ด้วยเหตุผลว่าเพื่อควบคุมให้การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ขยายวงกว้างและยกระดับ ความกดดัน ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย โดยการเพิ่มอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมากขึ้น

ไม่ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจใช้อำนาจนั้นหรือไม่ก็ตามที แต่ลำพังเพียงการประกาศภาวะ ฉุกเฉิน ก็ทำให้บรรยากาศของการเผชิญหน้าที่ตึง เครียดอยู่แล้วเพิ่มสูงขึ้นไปอีก

คำถามของคนทั่วไปก็คือจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ในวันนี้จบลงโดยไม่เสียเลือดเนื้อ

ประการสำคัญก็คือ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายผู้ชุมนุมจะต้องระลึกเอาไว้เสมอว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินก็ดี หรือการระดมพลังเข้ามาชุมนุมกดดันเรียกร้องทางการเมืองก็ดี

ไม่ใช่เครื่องมือในการเอาชนะคะคาน หรือบรรลุวัตถุประสงค์ของตนเพียงฝ่ายเดียว

แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการนำไปสู่การเจรจาเพื่อยุติปัญหา เพื่อให้สามารถแก้ไขรากเหง้าหรือต้นตอของความขัดแย้งได้อย่างแท้ จริง

วิธีการอื่นนอกเหนือไปจากการเจรจาไม่สามารถแก้ไขยุติความแตกแยกที่เกิดขึ้นได้ มีแต่จะยิ่งทำให้รอยร้าวในสังคมถ่างกว้างยิ่งขึ้น

เพราะอำนาจไม่สามารถครองใจคน ขณะที่ความรุนแรงก็ไม่เคยสร้างความสมานฉันท์ได้

แต่การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ ก็เมื่อต่างฝ่ายต่างตระหนักว่าการเดินหน้าเข้าห้ำหั่นกันนั้น สุดท้ายแล้วไม่มีใครจะเป็นผู้ชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

และจะสร้างบรรยากาศของการเจรจาเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเลิกหรือลดการใส่ร้ายป้ายสีและใช้วาจาและท่าทีมุ่งร้ายต่อกัน

ไม่ว่าจะแสดงด้วยตนเองหรือผ่านกระบอกเสียงอย่างสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 และทีวีของคนเสื้อแดง

ประโยชน์ที่สุดของการประกาศภาวะฉุกเฉิน ก็คือการเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องฉุกคิด ว่าขณะนี้สถานการณ์มาถึงขีดขั้นใกล้จุดระเบิดเต็มทีแล้ว

ถ้ายังไม่รู้ตัว ภาวะฉุกเฉินก็จะเป็นตัวเร่งสถานการณ์ให้เลวร้ายขึ้นเสียเอง


ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
************************************************

'จอดำ' ยิ่งเร้าคนดู?

สุเทพ & อภิสิทธิ์

ตีไพ่ใบสุดท้าย ไม่เหลือแต้มในมือแล้ว

โดยเดิมพันที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง คุมสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล มอบดาบให้ "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง คุมเกมรบ

ทุ่มอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ เกแบบหมดหน้าตัก

ส่งสัญญาณหักดิบด้วยปฏิบัติการ "ถอดปลั๊ก" พีทีวี "จอดำ" สนิท ในเวลา 10.30 น. ของวันที่ 8 เมษายน ซึ่งเป็นเวลาที่แกนนำคนเสื้อแดงจะขึ้นแถลงข่าวถึงทิศทางการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เวทีแยกราชประสงค์

"เทพเทือก" ไม่กลัวไฟ กลั้นใจสาดน้ำมันเจ็ทเข้ากองเพลิง

เช่นเดียวกับเว็บไซต์ประชาไท ฟ้าเดียวกัน นปช.ยูเอสเอ ของเครือข่ายคนเสื้อแดง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง ก็ถูกบล็อก ไม่สามารถใช้งานได้

รัฐบาลเดินหน้าล็อก ปิดช่องทางการสื่อสารของกองทัพแดง

จ่อปิดเกมให้ได้ในระยะเวลาอันใกล้

ในจังหวะวัดดวงวัดใจ กองทัพแดงก็ไม่ได้หมอบ ยังปักหลักยึดเวทีแยกราชประสงค์และเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ พร้อมเกทับด้วยการประกาศระดมพล "แมตช์ปิดเกมรัฐบาลอภิสิทธิ์ชน" ตามฤกษ์ 9 โมงเช้า วันศุกร์ที่ 9 เมษายน

เดินหน้าล้มเดิมพัน "เกมแลกเลือด"

พร้อมแพลมๆไพ่ที่ยังถืออยู่ในมือ ยุทธการปลุกแนวร่วมกองทัพแดงตามหัวเมืองใหญ่ ในภาคอีสานกับภาคเหนือระดมพลไปจ่อล้อมศาลากลางจังหวัด

รอแลกหมัด ถ้ารัฐบาลสั่งสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ

โดยปรากฏการณ์แนวรบกองทัพแดงกระจายไปทั่วทุกหัวระแหง แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับ "แตงโมลูกใหญ่" ในกองทัพ ตามจังหวะที่คนนอกก็อ่านทางได้ ขุนทหารเน้นเต้นฟุตเวิร์ก ไม่รับมุกเกมสลายกองทัพแดงของรัฐบาล

ไม่มีใครอยากเอาตัวเข้าเสี่ยงเพื่อ "อภิสิทธิ์"

โยนโจทย์ร้อนๆกลับมาให้รัฐบาลแก้กันเอง

ตามรูปการณ์ก็เลยต้องเป็นพลเรือนเต็มขั้นอย่าง "เทพเทือก" ที่แบกหนังหน้าไฟออกมาเป็นแม่ทัพถือดาบลุยกับกองทัพแดง

ในสไตล์มวยบู๊ฮาร์ดคอร์ ไม่ต้องมีเชิง

ตามจังหวะพอดิบพอดีกับคิวที่โดนนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแดง "สามเกลอ" แท็กทีมอำเรื่องลึกๆลับๆ แฉกันดังๆบนเวทีเสื้อแดง ออกอากาศแบบไม่มีเซ็นเซอร์

แฟมิลี่แมนผู้รักเมียยี่ห้อ "เทพเทือก" เลยยอมไม่ได้

โดยเงื่อนไขเร่งให้ "ถอดปลั๊ก" ทีวีคนเสื้อแดงให้เป็นจอดำ

แน่นอน ถ้าคำนึงถึงผลที่ตามมา ไม่ใช่แค่อารมณ์ดุเดือดเลือดพล่านของแนวร่วมคนเสื้อแดงที่โดนรัฐบาลเลือกปฏิบัติสองมาตรฐาน ลากโยงเทียบเคียงกับทีวีดาวเทียมของคนเสื้อเหลือง เข้าทางยุทธศาสตร์ปลุกอารมณ์เคียดแค้นชิงชัง

ตามสถานการณ์ยังเร้าประชาชนคนทางบ้านที่อยากเสพข้อมูลทั้งสองด้าน อึดอัดกับการใช้อำนาจรัฐปิดกั้นข่าวสาร

ออกมาติดตามสถานการณ์จริงบนถนน เพิ่มมวลชนให้ ม็อบแดงโดยอัตโนมัติ

โดยผลลัพธ์ที่ฝ่ายรัฐบาลเสี่ยงเสียมากกว่าได้

ถ้าเทียบกับเกมชิงมวลชนตามยุทธศาสตร์ที่เซียนการเมืองต่อสายวิเคราะห์กันในหมู่แกนนำตัวจริงพรรคร่วมรัฐบาล เอะใจทำไมเขี้ยวระดับประชาธิปัตย์ถึงคิดไม่ได้

แทนที่จะปิดพีทีวี ก็เบิ้ลด้วยการให้ช่องเอ็นบีทีของรัฐบาล ถ่ายทอดสดเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงแบบปล่อยยาวโดยไม่มีการเซ็นเซอร์ โดยที่รัฐบาลก็จัดทีมเคลียร์กันแบบประเด็นต่อประเด็น

ให้คนทางบ้านได้เสพข้อมูลทั้งสองด้าน

วิเคราะห์เรื่องไหนจริงเรื่องไหนปลอม อะไรควรเชื่อ ไม่ควรเชื่อ

อย่างที่นายกฯอภิสิทธิ์โชว์ลีลา "ตีกิน" แกนนำม็อบเสื้อแดงมาแล้วในการตั้งวงเจรจา ถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี 2 วันติด

เกมถนัดที่ประชาธิปัตย์พลาดไปแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
*************************************************

จะเอาชนะ

ในที่สุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็งัดมาตรการเข้มข้น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

โดยอ้างว่าต้องการคืนความเป็นปกติสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ต่างๆ ให้กับพี่น้องชาวกทม.

ระงับยับยั้งการเผยแพร่บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ในลักษณะที่ทำให้เกิดความแตกแยกและยุยงส่งเสริมให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

เพื่อดำเนินคดีกับแกนนำของการชุมนุม และใช้มาตรการระงับเหตุ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ความจริงสถานการณ์การชุมนุมของม็อบเสื้อแดงตลอด 20 วันที่ผ่านมา แทบจะไม่มีความรุนแรงใดๆ ที่เกินเลยก็ว่าได้

ถ้าจะบอกว่าการบุกยึดพื้นที่แยกราชประสงค์ จนทำให้ห้างใหญ่ ศูนย์การค้าชื่อดัง และธนาคารในละแวกนั้นต้องหยุดทำการ

จนสมาคมธุรกิจหลายประเภท ดาหน้าออกมาอ้างว่าทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ เศรษฐกิจของชาติเสียหาย

ยื่นข้อเสนอให้ม็อบถอยออกไป แต่กลับไม่เรียกร้องกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เหมือนกับที่เรียกร้องกับรัฐบาลก่อนหน้านี้

การยึดพื้นที่ถนนสาธารณะ เมื่อเทียบกับการกระทำ ของพันธมิตรที่บุกยึดทำเนียบรัฐบาลและบุกยึดสนามบิน

อย่างไหนผิดกฎหมายร้ายแรงและรุนแรงกว่ากัน

แถมเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขออำนาจศาลออกหมายจับแกนนำเหล่านั้น

ใครกันเป็นคนสั่งเบรก หรือนายกรัฐมนตรีจะบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้

นายอภิสิทธิ์อ้างว่าม็อบบุกเข้าไปในสภา จนการประชุมครม.ต้องหยุดกลางคันเป็นความรุนแรง

การที่ส.ส.เมืองหลวง พรรคประชาธิปัตย์ยุยงให้คนกทม.ออกมาต่อต้านม็อบ ก็ต้องถือว่าสร้างความรุนแรงได้เช่นกัน

ช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ระบุว่าแกนนำบิดเบือนข้อมูลจนทำให้เกิดความแตกแยก ยุยงให้กระทำผิดกฎหมาย

จริงๆ รัฐบาลมีหลายช่องทางที่จะทำความเข้าใจ ชี้แจง

ทั้งสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ ที่อยู่ในความดูแลของกรมประชาสัมพันธ์ และเครื่อข่ายของกองทัพ

หรือว่าชี้แจงเท่าไรก็ไม่ได้ผล ประชาชนไม่เชื่อ

สงกรานต์ปีนี้ กำลังกลายเป็นเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว ที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ยังไม่ได้ส่อเค้าว่าจะมีความรุน แรงเท่า หรือว่ารัฐบาลอยากจะให้ม็อบยุติโดยเร็ว

โดยลืมไปว่าข้อเรียกร้องคืออะไร และนายอภิสิทธิ์สามารถทำได้ทันที

ถ้าจะใช้กำลังทหารออกมาเหมือนเมื่อครั้งนั้น แล้วเกิดเหตุการณ์ปะทะถึงขั้นเสียเลือดเนื้อหรือชีวิต สุดท้ายม็อบพ่ายแพ้อีกครั้ง

แต่มั่นใจหรือว่ารัฐบาลจะชนะ


ที่มา.ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์. เหล็กใน
*************************************************

ไม่มีรัฐบาลที่เทพเจ้าแห่งธรรมใดๆ ที่ทำสิ่งชั่วร้าย นอกจากเทพอสูรเท่านั้น .

ผมก็ยังงงอยู่ว่า คนบางคนเห็นรัฐบาลขณะนี้รวมทั้งนายอภิิสิทธิ์ ทำในสิ่งชั่วร้ายมากมายชัดเจนเลยก็คือ การถือโอกาสปิดเว็บไซต์ และปิดกั้นข่าวสารต่างๆ รวมทั้ง เอาอาวุธสงครามเข้าไปในเขตรัฐสภา

ทำในสิ่งชั่วร้าย จะเป็นฝ่าย "ธรรม" หรือคนดีไปได้อย่ืางไร ทั้งผู้สนับสนุน และผู้ถูกสนับสนุน

ตรรกะง่ายๆ คนดี หรือฝ่ายดี แม้ว่าตัวเองจะเจ็บปวด แต่ก็จะไม่ยอมทำในสิ่งชั่วร้าย
แต่หากพวกเขาทำในสิ่งชั่วร้าย เพื่อต้องการสิ่งที่ดี มันจะเป็นไปได้อย่างไร

ในเกาหลีัเหนือ มีคนยกย่องบูชา คิมอิลจองราวกับเป็นเทพเจ้า คุณเชื่อหรือว่าคนเป็นเทพเจ้า หรือควรมีสิทธิำิพิเศษเหนือคนอื่น ทำในสิ่งชั่วร้ายใดๆ ก็ได้

พวกคุณได้อยู่ข้างฝ่ายธรรมจริงๆ หรือ

หากคิมจองอิล ทำในสิ่งชั่วร้ายเพื่อปกป้องอำนาจของตน คุณคิดหรือว่า "เขาเป็นคนดีของเกาหลีเหนือ" เป็นบิดาแห่งเกาหลีเหนือ คุณคิดว่า คนเกาหลีเหนือเต็มไปด้วยโมหะโง่เหงาหรือไม่

ผมพูดตัวอย่างเกาหลีเหนือ เพื่อให้เห็นภาพรัฐบาลอำมาตย์นี้

ไม่มีคนดีใดๆ ทำในสิ่งชั่วร้าย หรือเพิกเฉยเมื่อเห็นคนใต้อำนาจของตนทำในสิ่งชั่วร้าย

เปรม เห็นอภิสิทธิ์ หรือลูกป๋า ทำสิ่งชั่วร้าย แล้วเชื่อได้อย่างไรว่าเปรม เป็นคนดี



by ลูกชาวนาไทย
***********************************************

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

"จตุพร"ปูดพรุ่งนี้ทหารเคลื่อนพร้อมกันตีห้า บุกเวทีเสื้อแดงราชประสงค์สิบทิศ ใช้ทหารเกณฑ์ลุยม็อบ..

"จตุพร"อ้างทหารเตรียมลุยเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ ตอนตีห้า นปช.ปัดเจรจารอบ3 ฉุนถูกมัดมือมัดเท้า เคลื่อนทัพใหญ่ 9 เม.ย.10จุดทั่วกรุง

"จตุพร"บอกพรุ่งนี้ทหารเคลื่อนพร้อมกันตีห้า

นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)- แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวว่า ในวันนี้ (8เม.ย.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ได้มีการซ้อมสลายการชุมนุม ซึ่งในวันนี้ ก็ได้มีการเตรียมกำลังไว้ที่ กระทรวงกลาโหม กรมรักษาดินแดน พล.ม.2. และวัดเสมียนนารี โดยจะมีการเคลื่อนกำลังพร้อมกันในเวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (9เม.ย.) โดยเคลื่อนพร้อมกันทุกทางสิบด้านอาทิ ที่ประตูน้ำ ศรีอยุธยา ราชดำริ สยามพารากอน มาบุญครอง แยกปทุมวัน ถ.พระรามสี่ และในการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ จะใช้กำลังทหารเกณฑ์เป็นหลัก

นายจตุพรกล่าวต่อว่า การปิดสถานีดาวเทียมไทยคมของรัฐบาลในวันนี้ ที่ใช้กำลังทหารนั้น ถือว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เสียเอง ซึ่งการไปปิดต้องขอหมายจากอธิบดีศาลอาญา และการตัดสัญญาณยังเป็นการผิดกฎหมายสากลระหว่างประเทศอีกด้วย

นปช.เคลื่อนทัพใหญ่ 9เม.ย.9โมง10จุดทั่วกรุง เล็งบุกบ้าน"มาร์ค-สุเทพ"

ที่สี่แยกราชประสงค์ ในช่วงเย็น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)- แดงทั้งแผ่นดิน แถลงที่บริเวณหลังเวทีใหญ่ว่า อย่าถามเจรจาในสถานการณ์นี้ จะเจรจาได้อย่างไรเมื่อรัฐตัดการสื่อสารทุกช่องทางคนเสื้อแดง เปิดพีทีวี เพราะรัฐจะจับคนเสื้อแดงมัดมือมัดเท้า แล้วจะพาไปเจรจา และขอให้สื่อหยุดถามเรื่องการเจรจาได้แล้ว ทั้งนี้ หากจะให้เจรจากันได้ทุกฝ่ายต้องเท่าเทียมกันไม่ใช่ริดรอนกดขี่เสรีภาพคนเสื้อแดง

ที่สี่แยกราชประสงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)- แดงทั้งแผ่นดิน แถลงเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่บริเวณหลังเวทีใหญ่ ว่า หลังจากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงอยากถามว่า เป็นการประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินของใคร ทั้งนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะปักหลักการชุมนุมอยู่ที่นี่โดยไม่หวั่นไหว ขอยืนยันไม่ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้จะบังคับใช้กี่วันคนเสื้อแดงจะต่อต้านโดยสันติวิธีไม่ยอมรับพ.ร.ก.นี้ และจะคงชุมนุมอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธที่สะพานผ่านฟ้า และราชประสงค์ต่อไป

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะถือกฤษ์ ในเวลา 09.00 น. วันที่ 9 เมษายน คนเสื้อแดงจะระดมพลคนเสื้อแดงทั้งประเทศ ยกระดับการต่อสู้ครั้งใหญ่ และจะประกาศแผนการในวันดังกล่าวให้ทราบ โดยจะเคลื่อนไหวใน 10 จุด ทั่วกทม. พร้อมๆกัน โดยจุดที่น่าจะไปด้วย คือ บ้านพักของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และบ้านของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี

"ถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คิดว่าการประกาศพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินจะจัดการคนเสื้อแดงได้ตามอำเภอใจ คนเสื้อแดงจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อจัดการรัฐบาลอภิสิทธิ์ในวันที่ 9 เมษายนนี้ และขอให้นายอภิสิทธิ์อยู่ประเทศไทยอย่าไปไหน เพราะคนเสื้อแดงจะเคลื่อนพลครั้งใหญ่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะไม่มีผลต่อคนเสื้อแดง ส่วนการชุมนุมในวันนี้ คนเสื้อแดงจะกระดิกเท้านั่งผิวปากรอนายอภิสิทธิ์อยู่ที่นี่ และในวันที่ 9 เมษายนนี้ขอให้นายอภิสิทธิ์ผิวปากรอคนเสื้อแดงในประเทศไทยและอย่าเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศเวียดนาม"

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในวันที่ 9 เมษายนหากรัฐบาลจะใช้กำลังปราบคนเสื้อแดงคิดกวาดล้างการที่ประชาชนรวมพลครั้งใหญ่ ผมขอเตือนในวันดังกล่าวจะได้เห็นทหารแตงโมและตำรวจมะเขือเทศแสดงตัวยืนข้างประชาชน เพราะถ้ามีการใช้กำลังเกิดขึ้นจะได้เห็นทหารผ่าเนื้อแดงให้เห็นแน่ หากนายอภิสิทธิ์ยังคิดว่าตัวเองใหญ่คุมกองทัพได้จริงก็ขอเดิมพันการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้

" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังให้กำลังใจคนเสื้อแดงอยู่ตลอด ขอปฏิเสธที่ทางการยูเออี ไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ วิดีโอลิงก์มายังการชุมนุมคนเสื้อแดง แต่ที่พักวิดีโอลิงก์เพื่อให้การขับเคลื่อนการชุมนุมของคนเสื้อแดงเป็นการขับเคลื่อนของประชาชน หากต้องการปิดกั้นพ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลนี้คงทำไปนานแล้ว และยืนยันพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ป่วยแต่ประเทศไทยต่างหากที่ป่วย อีกทั้งพ.ต.ท.ทักษิณสามารถวิดีโอลิงก์มาได้ตลอด " นายณัฐวุฒิ กล่าว

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
************************************************

แดงทยอยเข้ากรุงสู้รัฐ หลังประกาศพรก.ฉุกเฉิน.

หลังได้ประกาศพรก.ฉุกเฉินรัฐบาลได้เริ่มการประชุมกำหนดมาตรการต่าง ๆ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า รัฐบาลได้เริ่มกำหนดมาตรการต่าง ๆ และถือโอกาสประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจในการทำงานของคณะกรรมการในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในขั้นต้นต้องส่งข่าวไปถึงประชาชนที่ร่วมชุมนุมให้ได้ทราบว่า เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย จึงจะขอความร่วมมือให้ประชาชนได้รับข่าวนี้ ได้แจ้งความบอกกล่าวไปยังญาติ มิตร ที่ยังร่วมชุมนุมในสถานที่ได้ประกาศห้ามการชุมนุม ให้ได้เดินทางออกจากบริเวณการชุมนุมโดยทันที ทางราชการจะจัดรถบริการรับส่งสำหรับผู้ที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัด โปรดได้บอกกับเจ้าหน้าที่ที่ได้ดูแลรักษาการณ์ในบริเวณรอบ ๆ อยู่แล้ว

ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจบัตรประชาชน อาวุธ และทำการสกัดกั้นไม่ให้คนที่จะนำผู้ชุมนุมเข้ามาเพิ่มเติมได้เข้ามาในพื้นที่กทม. ทาง ศอฉ. ได้แจ้งไปยังหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนได้ร่วมมือกันกวดขันดูแลความรักษาความปลอดภัยของสถานที่ราชการทุกแห่งให้แข็งแรง และถ้าประชาชนได้ทราบเบาะแสเห็นเหตุการณ์ผิดปกติทั้งหลายขอให้โปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ

สำหรับบรรยากาศของกลุ่มคนเสื้อแดง ล่าสุด ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทยอยเข้าสู่ กทม.เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสายอีสาน และภาคเหนือมีการจราจรติดขัดมาก เพราะมีรถกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเดินทางมาสบทบ ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ในเส้นทางอยุธยา - กทม สระบุรี - กทม. มีกลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้าร่วมชุมนุมอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบข่าวจากคนเสื้อแดงในที่ชุมนุมว่า รัฐบาลมีมาตรการเป็นเช่นไร โดยมีการระบุว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้แกนนำเคยมีการสูญเสียหรือไม่ ผู้ที่บาดเจ็บเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นใคร ขอให้ใคร่ครวญเองควรจะดำเนินการเช่นไรต่อไปในการต่อสู้ครั้งนี้



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*************************************************

"ปลอดประสพ"เตือนทหารอย่าใช้กำลังทำร้ายประชาชน

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยเสียใจที่รัฐบาลเลือกแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิธีรุนแรง ใช้ช่องว่างทางกฎหมายมาควบคุม ลิดรอนสิทธิประชาชนเจ้าของประเทศ วันนี้พรรคเพื่อไทยได้รับการติดต่อจากราษฎรจำนวนมาก โดยเฉพาะจากเขตปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเขาไม่เกี่ยวข้อง และมีความคับแค้นใจ เช่นเรื่องห้ามชุมนุมเกิน 5 คน พรรคเพื่อไทยขอเตือนเจ้าหน้าที่ทหารอย่าใช้กำลังรุนแรงทำร้ายประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารถูกฝึกมาเพื่อสู้รบกับศัตรู แต่ไม่ใช่ประชาชนในประเทศ ซึ่งการประกาศ พรก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้องตามตามกฎหมาย พรรคเพื่อไทยขอย้ำเตือนว่าหากสั่งการให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังปราบปราบผู้ชุมนุม ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำสั่งที่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษร อย่าฟังด้วยวาจา หรือมีคำสั่งบอกผ่านกันมา เนื่องจากอาจมีข่าวล่วงทำให้ลงมือความผิดพลาดขึ้นได้

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยกำลังจัดระบบและรวบรวมภาพบันทึกจากเหตุการณ์การชุมนุม ทางพรรคขอให้ประชาชนช่วยส่งภาพที่บันทึกไว้ โดยเฉพาะภาพที่สร้างความเสียหายแก่ตัวท่าน และสถานที่ราชการ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยได้ติดตั้งวงจรปิดในทุกพื้นที่ที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว และสถานการณ์ตลอด 24 ช.ม. เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพ และผลประโยชน์ประชาชน หากวันหน้าเกิดเหตุการณ์ใด จะได้คุ้มครองสิทธิได้




ที่มา.เนชั่นทันข่าว
**************************************************

"จตุพร"กร้าวพรุ่งนี้วันสุดท้ายรบ. "ไพจิตร"เล็งขอมติเยี่ยม"เอเอสทีวี" "ณัฐวุฒิ"จี้รบ.คืนสัญญาณทีวีแดง

"ณัฐวุฒิ"ขีดเส้นตายรัฐบาลคืนสัญญาณทีวีเสื้อแดงเย็นนี้ ขู่ยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด ผู้บริหารไทยยังไม่ชี้แจงเหตุปิดช่องแดง "ไพจิตร"คุยแกนนำขอมตินำเสื้อแดงเยี่ยมเอเอสทีวี "ตู่"กร้าวพรุ่งนี้วันสุดท้ายของรัฐบาล

"จตุพร"กร้าวพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของ รบ. แดงเคลื่อนไหวใหญ่ที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงา ว่า บรรยากาศบริเวณราชประสงค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่มแนวมร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ ได้ขึ้นปราศรัย ถึงกรณีที่รัฐบาลตัดสัญญาณทีสีช่อง พีเพิลชาแนลว่า การกระทำครั้งนี้ทำให้กลุ่มคนเสื้อประกาศการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุด และยังประกาศให้ผู้ชุมนุมเตรียมมือถือไว้ เพื่อให้ถ่ายเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ไว้

นายจตุพร กล่าวว่า ยังคงไม่ความเคลื่อนไหวใด ๆ ในขณะนี้และวันที่ 9 เมษายนนี้ จะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุด และจะเป็นวันสุดท้ายของรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน

"ไพจิตร อักษรณรงค์"คุย"ณัฐวุฒิ"ขอมตินำเสื้อแดงเยี่ยมเอเอสทีวี

นางไพจิตร อักษรณรงค์ แกนนำคนเสื้อแดง ขึ้นปราศรัยที่เวทีปราศรัยคนเสื้อแดงที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล ได้จอดำไปแล้วทั้งในระบบที่ยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยและ ที่ยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมเอ็นเอสเฮชซิกซ์ (NSH6) ของต่างประเทศ แต่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ยังออกอากาศได้อย่างชัดเจน จึงจะไปปรึกษากับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) เพื่อดาวกระจายไปเยี่ยมสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่ท่าพระอาทิตย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเวทีการชุมนุมที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาส เพื่อขอมติแกนนำให้นำผู้ชุมนุมดาวกระจายไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเที่ยง ผู้ชุมนุมได้นำศิลปกรรมรูปสัตว์ 4 เท้าสีเหลือง 3 หัว ที่ปั้นโดยนายไม้หนึ่ง ก.กุณที ที่มีรูปบุคคลหน้าคล้าย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ใส่เสื้อสีเหลืองนั่งคุมบังเหียนอยู่บนหลัง ส่วนหัวทั้ง 3 หัวนั้นมีหัวด้านซ้าย หน้าตาคล้ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตารี หัวตรงกลาง หน้าคล้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวด้านขวา หน้าคล้ายนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

"เสื้อแดง"ตั้งเวทีหน้าไทยคม ผู้บริหารยังไม่ชี้แจงเหตุปิดช่องแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมบริเวณสถานีดาวเทียมไทยคม กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้จัดตั้งเวทีปราศรัยขึ้น รวมถึงได้รวมพลคนเสื้อแดงเพิ่มขึ้นอีก ในบริเวณสถานีดาวเทียมไทยคม เพื่อปักหลักเรียกร้องให้มีการเปิดสัญญาช่อง พีเพิล เชแนล อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารสถานีดาวเทียมไทยคมก็ยังคงไม่ได้ออกมาชี้แจงในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

"ณัฐวุฒิ"ลั่นรบ.คืนสัญญาณพีเพิลชาแนลเย็นนี้มิฉะนั้นยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยว่าขอให้รัฐบาลคืนสัญญาณออกอากาศพีเพิลชาแนลพีทีวีภายในเย็นวันที่ 8 เมษายน หากไม่คืนจะประกาศยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด และในเวลา 09.00 น.วันที่ 9 เมษายนจะมีการชุมนุมต้านพ.ร.ก.ฉุกเฉินและถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดเช่นกัน

"การที่รัฐบาลปิดสัญญาณครั้งนี้อาจมีการเตรียมสลายการชุมนุมภายในเช้าพรุ่งนี้และหากเป็นเช่นนั้นวันพรุ่งนี้ก็จะแสดงพลังครั้งสูงสุดและการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 11.00 น.วันที่ 8 เมษายน เวทีเสื้อแดงคึกคักแม้ว่าแดดจะร้อนหลังแกนนำประกาศว่ามีความพยายามตัดสัญญาณ ไทยคมและปิดพีเพิลชาแนล โดยแกนนำบอกว่าอย่างไรขอให้ผนึกกำลังอย่าไปไหนให้ยึดบริเวณราชประสงค์เป็นฐานที่ตั้งห้ามทิ้ง

"ณัฐวุฒิ"ยื่นคำขาดรัฐบาลคืนสัญญาณถ่ายทอดพีเพิลชาแนล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังรัฐบาลได้มีการตัดสัญญาณดาวเทียม ทำให้พีเพิลแชนแนล เป็นจอดำนั้น 10.30น. วันที่ 8 เมษายน นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมรับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และจะมีการระดมพลครั้งใหญ่ใน วันที่ 9 เมษายน ที่สี่แยกราชประสงค์ และจะมีการประกาศมาตรการในการเคลื่อนไหวในเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน

ส่วนการชุมนุมทั้งสองเวทีจะยังคงมีตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือยุบรวมเวทีแต่อย่างใด พวกเราขอประณามการกระทำของรัฐบาล ในการพยายามที่จะปิดสถานีโทรทัศน์ พัเพิลแชนแนล (พีทีวี) รวมไปถึงการบุกยึดสถานีดาวเทียมไทยคม ถือเป็นรัฐบาลเผด็จการ ตรงกันข้าม ที่ผ่านมาการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่มีรัฐบาลไหนที่จะคิดจะปิด เอเอสทีวี ทั้งๆที่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจทราบมาว่าบ่ายรัฐบาลจะมีการเรียกผู้ประกอบการ โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ เคยู แบนด์ เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศของพัเพิลแชนแนล ในระบบนี้หลังจากที่ได้ตัดระบบ ซี แบนด์ ไปแล้ว ในระบบ เคยู แบนด์ เป็นช่องทางการออกอากาศของเอเอสทีวีด้วย ดังนั้ จะต้องรอดูว่า ถ้ามีการตัดระบบ เคยู แบนด์ จริงเอเอสทีวสีจะจอดำหรือไม่

ดังนั้นเราขอยื่นคำขาดให้กับรัฐบาลว่า ต้องคืนสัญญาณการออกอากาศให้กับพีเพิลแชนแนล ทันที หากรัฐบาลยังไม่คืนจะมีการประกาศมาตรการในการเคลื่อนไหวต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลจะล้อมปราบเราได้ หรือจะสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้า หรือราชประสงค์ได้ ยืนยันว่ามันไม่จบ เพราะคนเสื้อแดงมีทั้งประเทศ ตรงกันข้ามจะเป็นการเพิ่มความโกรธแค้นและชิงชัง และจะนำไปสู่ภาวะ การไร้รูปแบบในการต่อสู้

"ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่พกอาวุธสงครามในรัฐสภา การเจรจา ยืนยันว่า พวกเรายังไม่ปิดทาง หรือโอกาสในการตั้งโต๊ะเจรจา แต่สถานการณ์แบบนี้อยากถามว่าจะเจรจากันอย่างไร เพราะรัฐบาล กำลังมัดมือเท้าคนเสื้อแดง และบีบบังคับเรา แบบนี้จะเจรจากันได้อย่างไร สื่อมวลชน ควรยุติคำถามเรื่องนี้ได้เแล้ว หากสถานการณ์เป็นแบบนี้"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากสัญญาณพีเพิลถูกตัดได้มีการระดมคนเสื้อแดงให้ออกมารวมตัวกันทั่วประเทศที่ศาลากลางจังหวัดและจุดต่างๆพร้อมกับให้เดินทางมากรุงเทพที่สี่แยกราชประสงค์

เสื้อแดงประกาศภาวะฉุกเฉิน ควบคุมรัฐบาล หารือเคลื่อนไหวต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศบนเวทีว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน คนเสื้อแดงขอประกาศภาวะฉุกเฉินควบคุมรัฐบาลอีกที ส่วนการเคลื่อนไหวจะมีการหารือและประกาศเป็นระยะ ๆ ต่อไป

พีเพิล แชลแนล สัญญาณหาย กลายเป็นจอมืด

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แกนนำคนเสื้อแดง จะขึ้นแถลงข่าวถึงทิศทางการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เวทีบริเวณ แยกราชประสงค์ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีพีเพิล แชลแนล ผลปรากฎว่า อยู่ ๆสัญญาณการออกอากาศก็ได้ขาดหายไป กลายเป็นจอสีดำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากสิ่งใด

"จตุพร"ท้าสลายม็อบ ลั่นสู้เมือเปล่าจนชนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยพูดถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงว่าตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การที่รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงทำให้รัฐบาลมีอำนาจเต็ม ทหารมีอาวุธ แต่ประชาชนจะสู้มือเปล่าและจะไม่ยอมถอยจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ผู้ชุมนุมที่ต่างจังหวัดพร้อมมาสมทบ แม้มีการสกัด และหากถูกสลายเมื่อไหร่ ประชาชนจะหลั่งไหลมากทม. ตนขอท้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะสลายการชุมนุม จะทำก็ทำอย่าช้า รัฐบาลมีพฤติกรรมสองมาตรฐานเรื่องตัดสัญญาณและขอประกาศว่า การเจรจาจะไม่มีอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นรอบสามรอบสี่หรือรอบไหน ๆ ก็ไม่มี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา การดูแลความเรียบร้อยของการ์ด นปช.ไม่ค่อนเข้มงวดเท่าที่ควร และปล่อยให้รถที่วิ่งจากถนนสุขุมวิทเลี้ยวซ้ายไปถนนสีลม ส่วนผู้ชุมนุมเสื้อแดงขณะนี้หางแถวอยู่ประตูน้ำ ส่วนที่ด้านหน้าเวทีเต็มไปด้วยเสื้อแดงที่ล้อมทีอยู่

ด้านนายนิสิต สินธุไพร แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ประชาชนที่อยู่เวทีราชประสงค์มีประมาณ 2 หมื่นคน รัฐบาลจะมาสลายคงยากเพราะเมื่อคืนนี้ก็ปักหลักชุมนุมเพราะรู้ว่ารัฐบาลจะมาสลาย ก็ขอให้มา และการที่รัฐบาลประกาศพรก.ฉุกเฉินรัฐบาลตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ยังเป็นไปอย่างไม่ค่อยคึกคักนักในการนั่งฟังปปราศรัย เนื่องจาก คนเสื้อแดงบางส่วนต้องทำกิจวัตรประจำวัน ส่วนแกนนำคนอื่นๆ อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง มีการปราศรัยบนเวที สลับกับการร้องเพลง โดยเนื้อหาบนเวทีนั้น ยังเป็นการปราศรัยโจมตีรัฐบาล ที่ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้ง ยังเร่งให้มีการยุบสภาโดยเร็ว

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ติดตั้งลำโพงเพิ่มเติมบนสะพานเฉลิมโลก เพื่อปลุกระดมมวลชนให้เข้ามาร่วมชุมนุม

สำหรับ ประชาชนที่ทำงานในละแวกนี้ ยังคงเดินทางมาทำงาน ย่านราชประสงค์ เพลินจิต และ ชิดลม ตามปกติ ส่วนการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บริเวณกลุ่มผู้ชุมนุม ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ตามจุดต่างๆ กระจายโดยรอบพื้นที่ พร้อมมี การ์ด นปช. คอยตรวจตราความเรียบร้อย โดยยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทหาร อยู่ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมแต่อย่างใด

แบ่งกลุ่มเฝ้า"ห้างอิมพีเรียล-ไทยคม" หวั่นพีเพิลชาแนลจอดำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งไปชุมนุมเฝ้าระวังสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว ภายหลังมีข่าวการปิดโทรทัศน์คนเสื้อแดงแพร่สะพัด ขณะที่สถานีดาวเทียมไทยคม พบว่าคนเสื้อแดงประมาณ 100 คนปักหลักอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเวทีปราศรัย ส่งผลให้การจราจรย่านแครายติดขัดอย่างหนัก ขณะที่พนักงานบางส่วนขอหยุดงาน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย


ที่มา.มติชนออนไลน์
**********************************************

นี่แหละ"ฮุนเซน"

ท่าทีที่ สมเด็จฮุนเซน แสดงต่อนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่หัวหิน กลายเป็นภาพข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือ พิมพ์ทุกฉบับ

เพราะก่อนหน้านี้แค่วันเดียว นายกฯ ไทยเองยังไม่มีวาระอะไรพิเศษกับสมเด็จฮุนเซน

สืบเนื่องจากการขัดแย้งระหว่างนายกฯ ไทยกับกัมพูชา ซึ่งครั้งล่าสุดที่เป็นข่าวออกมา ก็เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง

ทุกคนก็คาดเดากันว่า ทั้งสองคงจับมือพอเป็นพิธี แล้วก็แยกย้ายไปคนละมุม เหมือนที่ฮุนเซนเคยแสดงออกให้เห็นมาแล้วหนหนึ่ง

แต่คราวนี้กลายเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ "ฮุนเซน" จับมือ "มาร์ค" เขย่าแรงๆ นานๆ

เห็นได้ชัดว่าฮุนเซนต้องการสื่อให้ฝ่ายไทยเอง รวมถึงสื่อมวลชนทั่วโลก ได้เห็นเจตนาของตน

จับมือกันเสร็จ ฮุนเซนก็ไม่ไปไหนไกล ยืนข้างๆ นายกฯ อภิสิทธิ์ คอยรับแขกเมืองรายอื่นๆ อีกต่างหาก!

แล้วเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เผยเบื้องหลังของการสนทนากัน

ฮุนเซนแยกแยะออกแล้ว ระหว่างเรื่องบ้านเมืองกับเรื่องส่วนตัว

ถึงขนาดจะไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อนซี้ เข้ากัมพูชาเพื่อเป็นฐานโจมตีไทยอีก

ย้อนรอยความบาดหมางระหว่างรัฐบาลอภิสิทธิ์กับฮุนเซน มาจากเรื่องเขาพระวิหาร

ประกอบกับฮุนเซนรู้ว่าโดนรมว.ต่างประเทศไทย ด่าบนเวทีพันธมิตรฯ เสียๆ หายๆ

เลยปรากฏเกมทักษิณโฉบเข้าเขมร

ครั้งนั้น บ้างมองว่าทักษิณยืมมือฮุนเซน แต่บางคนก็มองว่าฮุนเซนต่างหาก ยืมมือทักษิณ

มีการสั่งจับวิศวกรไทย ในลักษณะแค่ตบหน้าให้แสบๆ คันๆ

ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เสื่อมทรุดลงอย่างรวดเร็ว

สมเด็จฮุนเซนยังปฏิบัติการจิตวิทยากับรัฐบาลไทยอีกรอบ แต่งชุดลายพรางมาตรวจชายแดน

แต่คราวนี้ ฝ่ายนายอภิสิทธิ์ไม่ตกหลุมพราง ไม่ยอมต่อปากต่อคำใดๆ ด้วย ส่งแต่ทหารไปตรึงไม่ให้ข้ามแดนเด็ดขาด

เล่นเอาฮุนเซนนอตหลุด ด่านายอภิสิทธิ์ยาวเหยียดชุดใหญ่ หาว่าเป็นคนไม่มีสกุลรุนชาติ

เยาะเย้ยนายอภิสิทธิ์ว่าถูกปาขี้ใส่บ้านก็แล้ว ยังไม่ลาออกอีก

ว่าแล้วก็แช่ง "ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หักคอคุณ ถูกยิง รถชน ไฟชอร์ต ปืนลั่นใส่"

เกมของฝ่ายอภิสิทธิ์ตอบโต้กลับอย่างเหนือชั้น โดยปล่อยคนระดับ "เทพไท เสนพงศ์" ที่เป็นมวยคนละเกรดกับฮุนเซนมาลุยแทน

ขุดภาษาเขมรมาด่าตอบ "จะแกคำ จะไมกำพร็อบ"

แปลว่า "หมากัดอย่ากัดตอบ"

หลังจากหนนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างคนต่างอยู่ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เอง แม้จะมีข่าวลือว่าจะกลับมาที่กัมพูชาอีก แต่ก็ไม่ได้มาอีกเลย

จนกระทั่งฮุนเซนมาแสดงบท "หวานเจี๊ยบ" ต่อหน้าชาวโลกที่หัวหิน

จะจริงใจแค่ไหน ใครจะรู้?


ที่มา.ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์. เหล็กใน
***********************************************

M 79,16 ยิงถล่มตึกทีพีไอ ไร้คนเจ็บ

เมื่อเวลา 01.30 น.ร.ต.ท.จักรพันธุ์ เหมือนแก้ว พนักสอบสวน สบ.1 ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ตึกทีพีไอ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.น.5 ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงห่างตึกทีพีไอประมาณ 10 เมตร พบปลอกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ที่ขอบทางจำนวน 1 ปลอก ห่างกันประมาณ 5 เมตรพบหัวกระสุนเอ็ม 79 จำนวน 1 หัวตกอยู่

สอบสวน รปภ.ของตึกทีพีไอให้การว่า คนร้ายขับจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวบ จำรุ่นและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ แต่งกายชุดสีดำ คนร้ายนั่งซ้อนท้ายผมยาวชักปืนออกมาเล็งใส่ตน จึงรีบหลบก่อนที่คนร้ายจะขับหลบหนีไป ขณะเดียวกัน รปภ.ปั๊มน้ำมันใกล้เคียงกันให้การว่า เห็นคนร้ายใส่ชุดดำจอดรถก่อนถึงสี่แยกไฟแดงแล้วคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนเล็งแล้วยิงไปที่ตึกทีพีไอก่อนจะขับหลบหนี

พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบก.น.5 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากรปภ.ว่ามีวัยรุ่น 2 คน สวมชุดสีดำ สวมหมวกไหมพรหมขับจยย.ฮอนด้าเวบ ไม่แน่ใจว่าเสีดำหรือสีน้ำเงินใช้อาวุธปืนยิงใส่ตึกทีพีไอจำนวน 2 นัด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตระเวณหาพยานบุคคลและภาพวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามจับคนร้ายต่อไป



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
******************************************