--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

ประวิตร มั่นใจ คุมม็อบแดงอยู่

“ประวิตร”ไม่ห่วงม็อบแดงแรง มั่นใจ จนท.คุมอยู่ สั่งคุมเข้มบ้านคนสำคัญ-สถานที่ราชการ พร้อมขอบใจกำลังพลที่ปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง...

ที่กรมทหารราบที่ 11รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง

ทั้งนี้ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีได้มีการหยิบยกประเด็นการทบทวนสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคลื่อนไหวปิดล้อมบ้านนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์นำถุงเลือดปาใส่เข้าที่บ้านพักภายในซอยสุขุมวิท 31

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์การชุมนุมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเขาดูแลอยู่ ทั้งนี้การปฏิบัติหน้าที่ของทหาร และ ตำรวจ ที่มีการตั้งจุดตรวจ และเฝ้าระวังตามสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงบ้านพักบุคคลสำคัญที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตนรู้สึกพอใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่าน เพราะพวกเขาเหล่านี้ทำดีที่สุดปล้ว และต้องป้องกันสถานการณ์ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่จะมีความชัดเจน

“เท่าที่ ศอ.รส.ประเมินสถานการณ์แล้ว ยังไม่จำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานในการดูแลความเรียบร้อย เนื่องจากที่ผ่านมา ศอ.รส.ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนด้วยการเพิ่มจุดตรวจ สายตรวจ และดูแลบ้านพักคนสำคัญ และสถานที่ราชการสำคัญก็ถือว่าเพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่แม้ว่าบรรยากาศภายนอกจะร้อนอบอ้าว แต่กำลังพลก็ยังปฏิบัติหน้าที่ได้เข้มแข็งในการดูแลรักษาความปลอดภัย” พล.อ.ประวิตร ระบุ

ด้าน พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ที่ประชุม ศอ.รส. ในเช้าวันนี้ ไม่ได้หยิบยกกรณีกลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคมนี้ แต่ทาง ศอ.รส.จะติดตามว่าผู้ชุมนุมจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนกรณีที่ ศอ.รส.จะประสานแกนนำผู้ชุมนุมเพื่อขอทราบแผนการเคลื่อนย้าย จะได้อำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร ไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชนในวันหยุดนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว


ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
18 มีนาคม 2553, 15:00 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง
tags:
ประวิตร วงษ์สุวรรณ ม็อบเสื้อแดง ศอ.รส. บ้านบุคคลสำคัญ สถานที่ราชการ Share |

*************************************************

แดงบุกตลท.ย่ื่นหนังสือตรวจสอบ"กรณ์"

กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งบุกตลท.ยื่นหนังสือตรวจสอบกรณ์ ว่านำภาษีปชช.มาซื้อหุ้นช่วงนี้หรือไม่ เหตุตลาดหุ้นเขียวยกแผง ด้านจตุพร ลั่น เสื้อแดงยังอยู่ผ่านฟ้า...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มี.ค. 2553 ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อยื่นเอกสารชี้แจงแนวทางการต่อสู้กับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปิดกั้นรั้วเพื่อห้ามผู้ชุมนุมเข้ามาภายใน

แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า สาเหตุที่เดินทางมายัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเรียกร้องตรวจสอบ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ตั้งข้อสังเกตว่าสถานการณ์การเมืองร้อนแรง แต่ตลาดหุ้นกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงมารับเรื่องนอกจากนี้ ผู้ชุมนุมยังระบุว่า หลังจากแจ้งข้อเรียกร้องแล้วก็จะเดินทางกลับไปยังสถานที่ชุมนุมใหญ่ และจะเดินทางมาขอคำตอบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า ขณะนี้ เสื้อแดงยังไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน สำหรับกรณีระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงตลาดหุ้นมีการซื้อขายคึกคักและดัชนีเพิ่มขึ้นหลายจุดนั้นแสดง ให้เห็นว่า นักลงทุนเชื่อมั่นการชุมนุมเป็นไปโดยสงบและสันติ โดยไม่กระทบการลงทุนเลย

************************************************

เพื่อไทย เชียร์ เสธ.หนั่น เป็นนายกฯ กลางสภา

“เสธ.หนั่น”ตอบกระทู้กลางสภาประณาม กตร. ต้นเหตุล่าช้าจน พล.ต.อ.สมเพียรเสียชีวิต ด้าน ส.ส.เพื่อไทย เชียร์ตอบกระทู้ดี สมควรเป็นนายกฯ คนใหม่ กลางสภา ...

การประชุมสภาฯเริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาการเรียกร้องของประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ถามว่า รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องสง่างาม จึงอยากถามว่านายกรัฐมนตรีจะบริหารประเทศในลักษณะหลบไปหลบมาแบบนี้นานแค่ไหน ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีก็พูดได้อย่างไรว่า ส.ส.เพื่อไทยรับเงินคนละ 15 ล้านบาทเพื่อนำมาระดมผู้ชุมนุม จึงอยากถามว่าคนที่ออกมาเรียกร้องเกือบหนึ่งล้านเสียง นายกรัฐมนตรีจะรับฟังหรือไม่

ด้านพล.อ.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯชี้แจงแทนว่า นายกฯมีนัดหมายกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชนขณะนี้ ตนจึงตอบแทนนายกฯและรองนายกฯได้ไม่ถนัด ยืนยันว่านายกฯได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ตนเชื่อมั่นว่านายกฯพยายามรักษาประชาธิปไตยให้ดีที่สุด ฉะนั้นจะเสียงเดียวหรือล้านเสียงเชื่อว่านายกฯต้องรับฟัง

ด้านนายไพจิต ได้ถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายตำรวจ การซื้อขายตำแหน่ง จนนำมาสู่การเสียชีวิตของพล.ต.อ.สมเพียร เอกสมภาร ที่เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมด้วยน้ำตานองหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างไร

ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กรณี พล.ต.อ.สมเพียร นั้น น่าสลดใจและเสียใจอย่างยิ่งที่เขามาร้องเรียนที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยน้ำตา ขณะที่การทำงานของกตร.ก็ช้ามาก เพิ่งจะมานัดประชุมในวันที่ 16 มี.ค.ทั้งที่รับเรื่องจากนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. คนทำงานในพื้นที่มานานถึง 40 ปีแล้วต้องการออกจากพื้นที่แสดงว่ามันต้องไม่ไหวแล้วจริงๆ คนๆนี้น่ายกย่อง และพวกเราทุกคนล้วนเห็นใจ

“ผมขอประณามกตร.ชุดนี้ ต้องปรับโครงสร้างตำรวจใหม่ทั้งหมดได้แล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้หัวโตอย่างนี้ กรณีการซื้อขายตำแหน่งที่มีข่าวมากกว่ายุคใดๆเป็นเรื่องที่ผมมีความเห็นตรงกับคุณไพจิต ที่จำเป็นต้องมีการแก้ไข”

ส่วนกรณีที่ไม่สามารถทำศพของ พล.ต.อ.สมเพียร ที่ จ.ยะลา ได้เป็นเพราะในพื้นที่มีอันตราย จึงต้องให้มาทำที่ จ.สงขลาเพื่อให้ทุกคนได้มาร่วมงานได้ ส่วนกรณีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อขอให้มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภานั้น ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีพร้อมเดินทางมารับฟังความเห็นจากสมาชิกแน่นอน เพียงแต่ขอเวลาให้เหตุการณ์สงบก่อน

เมื่อพล.ต.สนั่น ชี้แจงเสร็จสิ้น นายไพจิต ถึงกับเอ่ยปากชมว่า สมควรที่พล.ต.สนั่นจะเป็นนายกฯตัวจริงได้แล้ว เพราะมีวิสัยทัศน์ดีกว่านายกฯขณะนี้หรือไม่ ขณะที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ถามกระทู้สดเรื่องการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมของประชาชนโดยทหาร ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ทำหนังสือขอเลื่อนการชี้แจงกระทู้นี้ออกไปก่อน แต่นายสุนัย ก็พยายามจะขอให้ พล.ต.สนั่นตอบแทน ซึ่งพล.ต.สนั่น ระบุว่าพร้อมตอบเช่นกัน แต่ประธานสภาฯแจ้งว่าอาจผิดข้อบังคับเนื่องจากเจ้าของกระทู้ทำหนังสือขอเลื่อนการชี้แจงในสัปดาห์หน้า

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการเมือง
18 มีนาคม 2553, 13:00 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง
tags:
สนั่น ขจรประศาสน์ ไพจิต ศรีวรขาน ประชุมสภา ตอบกระทู้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ สมเพียร เอกสมภาร ​ทุจริตซื้อขายตำแหน่ง Share |
**********************************************

‘การเมืองห่วย’ ตายได้ ‘ประเทศ’ ตายไม่ได้

นับถอยหลังไป 6-7 ปีที่แล้ว ไทยเรามีเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับ “ประชาธิปไตย” มากมายก่ายกอง...จอมปลอมบ้าง-เท็จจริงบ้างตาม “คำสั่งอีแอบ” ทั้งพธม.-นปช.ผลัดกันเปิดเวที..ใช้สิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เหตุการณ์ทั้งสองจึงเกี่ยวข้องกับความเชื่อในลัทธิ “ประชาธิปไตย” โดยตรง นักการเมืองพยายามตีความประชาธิปไตยเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง ทั้งที่ประชาธิปไตยเป็นสิ่งสากลและมีมาตรฐานในตัวเองประชาธิปไตยเป็นสิ่งสากล ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่วนการนำหลักการประชาธิปไตยไปปฏิบัติได้ผลมากน้อย

ขนาดไหนเป็นอีกเรื่อง แต่บางคนก็ตีความประชาธิปไตยในทางที่ผิดเพี้ยนไปเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง บางประเทศใช้คำว่า “ประชาธิปไตย” นำหน้าชื่อประเทศ แต่การปกครองแท้จริงกลับกลายเป็นเผด็จการ ในเมืองไทยเราประชาชนก็สับสนกับคำว่าประชาธิปไตย เพราะนักการเมืองต่างก็อ้างว่าตนเป็นเองเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยถูกบิดเบือนหลักการประชาธิปไตยแปลง่ายๆ คือ หัวใจ 3 ดวง คือ หลักการตรวจสอบและถ่วงดุล

เสรีภาพ รวมทั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนซึ่งถือว่าเป็นตัววัดว่า ประเทศนั้นมีการปกครองแบบประชาธิปไตยหรือไม่อย่างไร ส่วนการเลือกตั้งนั้นเป็นเพียงวิธีการหนึ่งเพราะไม่ว่าประเทศคอมมิวนิสต์หรือเผด็จการต่างก็มีการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยต้องเป็นไปอย่างเสรี ยุติธรรม ไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงจนทำให้เจตนารมณ์ของประชาชนถูกบิดเบือน นักประชาธิปไตยต้องมีความอดทน อดกลั้นต่อความเห็นต่างทางการเมือง และต้อง ไม่ใช้ความรุนแรง

ในการแก้ไขปัญหา ดร.ปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษ อธิบานยความหมาย ของคำว่า”ประชาธิปไตย” ไว้เมื่อวันเปิดประชุมสภาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2489 ว่า การใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักการประชาธิปไตยต้องใช้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่บิดเบือนเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มหรือเพื่อตัวบุคคล ไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วน วุ่นวายต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเวลานี้ “การเมืองไทย” ถูกผ่าครึ่งออกเป็น 2 ฝั่ง...การเรียกร้องประชาธิปไตยถูกเปิดเวที

โดยกลุ่ม นปช.ผู้นำต้องเสียสละ นี่เป็นการอธิบายหลักการประชาธิปไตยได้ดีที่สุด สั้นที่สุด วันนี้เมื่อความคิดเห็นสวนทางกัน กลุ่มคนที่ต้องการแสดงออกซึ่งความเห็นและใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ควรยึดหลักประชาธิปไตยให้มั่นคงจะทำอะไรต้องคิดถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองมากกว่าประโยชน์ของตัวบุคคล เพราะชาติบ้านเมืองตายไม่ได้ส่วน “นักการเมืองห่วย” ต้องจัดการให้ “สิ้นซาก”

ที่มา.บางกอกทูเดย์
*************************************************

อมาตย์เอ๋ย..กรรมเริ่ม start แล้วนะจ๊ะ ..ลูกชายคนเดียวของ ปีย์ มาลากุลฯ หกล้มตาย

ยังจำข่าวนี้กันได้ไม๊คะ
ขู่มีแผลให้เปิดอีก แต่ขออุบไว้ก่อน

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผอ.รมน. กล่าวว่า การที่ นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา ระบุว่า ตนออกมาโวยวายเพราะไม่ได้รับตำแหน่ง ขอยืนยันว่าตนเป็นคนที่รักษาสัจจะเมื่อตกลงกันว่า การทำครั้งนี้ทุกคนต้องไม่หวังตำแหน่งและลาภยศใด ๆตนก็ถือตามนี้ สำหรับเรื่องนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ถ้าตนต้องการตำแหน่งตนก็ออกมาโวยวายในช่วงนั้นแล้วจะปล่อยให้เนินนานมาถึง 3 ปีได้อย่างไร และถ้ามาพูดตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ถ้าใครไม่พูดพาดพิงถึงตน ตนจะหลีกเลี่ยงในการพูดถึงบุคคลอื่น เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ตนจะไม่เคยพูดถึงชื่อนายปีย์ มาลากุลเจ้าของบ้านแม้แต่คำเดียว และวันนี้นายปีย์ มาพูดถึงตนทำให้ตนเสียหายจึงต้องพูดบ้างว่า นายปีย์ คิดอย่างไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ และยังมีเรื่องอีกเยอะเกี่ยวกับตัว นายปีย์ ที่ตนจะนำมาเปิดเผย ทุกอย่างที่เขาทำนั้นเป็นลักษณะเจ้ากี้เจ้าการเชิญ คนนั้นคนนี้ไปกินข้าว ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ พูดถูกว่าไม่ได้เชิญตนไปกินข้าว แต่นายปีย์ เป็นคนเชิญในฐานะเจ้าของบ้าน แม้แต่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปีย์ ก็เป็นคนเชิญมา

พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่า ครั้งหนึ่งก่อนการประชุมหารือกันที่บ้านสุขุมวิท ซึ่งมีตนกับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายปีย์ นั่งอยูที่โต๊ะรับแขกภายในบ้าน ปรากฏว่า นายปีย์ ได้ถามตนว่า ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายไปได้ไหม ตนก็เลยตอบไปว่า เป็นการยากทำไม่ได้ เพราะท่านมี รปภ.จำนวนมากคงจะต้องยิงกันเละจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่สามารถทำให้ตายได้ ทุกคนก็เงียบไม่พูดอะไร ซึ่งขณะนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ นิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแต่นั่งเฉยๆไม่ได้ออกความเห็นอะไร ตนคิดว่าเราสามารถโกหกคนได้ทั้งโลก แต่ไม่สามารถโกหกตัวเองได้ นายปีย์ คงรู้ในใจตัวเองดี ตนยังมีเรื่องที่จะพูดอีกมาก ถึงคนชื่อปีย์ มาลากุล ที่ยังไม่อยากนำมาเปิดเผยในขณะนี้

เมื่อถามว่า ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างปฏิเสธ แต่มีการหารือในการล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ จริงใช่หรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น ตนจะมาพูดเล่นๆได้อย่างไร เพราะมีการกินข้าวหารือกันถึง 7 คน มีการพูดกันว่า จะต้องเล่นพ.ต.ท.ทักษิณ ทางกฎหมายโดยมีนักกฏหมายเข้ามาร่วมประชุมด้วยในเรื่องของ กกต. ซึ่งเมื่อ กกต.ล้มการเลือกตั้งไม่สำเร็จ ก็มีการพูดถึงการรัฐประหาร มิเช่นนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ จะมาพูดได้อย่างไรว่า การทำครั้งนี้เราทำเพื่อประเทศชาติและสถาบัน คนที่มีตำแหน่งเป็นองคมนตรีจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะตัวเองมีตำแหน่งองคมนตรี โดยเฉพาะไปล็อบบี้ให้ กกต.ลาออก

เมื่อถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโฟนอินเปิดเผยข้อเท็จจริง พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดา เรื่องแบบนี้ ถ้าเขาออกมารับว่าจริง เขาคงต้องไปโรงพยาบาลประสาท เพราะฉะนั้นเขารับไม่ได้ต้องปฏิเสธ แต่การปฏิเสธของพล.อ.สุรยุทธ์ มันขัดกันโดยตลอดจากการประมวลข่าวอะไรต่างๆทุกคนก็รู้ดีว่าเป็นข้อเท็จจริง ดังนั้นคนที่มีความคิดทุกคนสามารถคิดได้ เรื่องแบบนี้ถ้าเขารับเขาต้องเป็นโรคประสาท ต้องไปโรงพยาบาลประสาท และการที่นายปีย์ บอกว่ามีการประชุมครั้งเดียวก็ไม่จริง ซึ่งจริงๆแล้วประชุมกัน 4 ครั้งและกินข้าวร่วมกันทุกครั้ง ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จะมาถึงก่อนเสมอมานั่งรอ จากนั้นก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะกินข้าวในลักษณะกินข้าวไปคุยกันไป ตอนแรกเห็นปฏิเสธว่าไม่ได้ประชุม ก็ใช่เป็นการพูดกันไปกินกับไป เพราะการประชุมต้องมีวาระประชุม

http://tnews.teenee.com/politic/33930.html

ในวันนี้ ..ผลกรรมที่พ่อทำ มันได้มาตกกับลูกชายคนเดียวซะแล้ว

"เสียใจกับครอบครัว ปีย์-ท่านผู้หญิงอารียา มาลากุลฯ ที่สูญเสียบุตรชายคนเดียว ธรรมา ด้วยอุบัติเหตุหกล้มในห้องน้ำ จากภรรยา ทญ.อตินุช และลูกชาย ปราณ ไปด้วยวัยเพียง 40 ปี"

http://www.thairath.co.th/column/life/chaba/71001

ด้วยหัวใจของคนที่มีลูก..บาปกรรมถ้าตกอยู่กับตัวเอง..ยังไม่เสียใจเท่าเกิดกับลูก ..น่าสงสารนายธรรมา ..จนวันนี้ นายกทักษิณ คนที่พ่อคุณอยากทำให้หายไป.งก็ยังอยู่ แต่ในวันนี้ ตัวคุณไม่ได้มีโอกาสอยู่ดูแลลูกและเมียคุณอีกต่อไปแล้ว..ถ้าในวันนี้..ดวงวิญญาณคุณอยากจะโทษอะไร..ให้โทษความซวยที่เกิดมาเป็นลูกคนเลวๆ อย่างพ่อของคุณละกัน

RIP ค่ะ

ที่มา.ไทยฟรีนิวส์
**************************************************

วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

เต็นท์พยาบาลภาคสนาม RSR

ขอเชิญพี่น้องเสื้อแดง หากไม่สบายหรือ เหน็ดเหนื่อย ร้อนแดด แวะมาได้แล้วครับ
เต็นท์พยาบาลภาคสนามRSR อยู่บนถนนราชดำเนิน บริเวณด้านหน้าพลับพลารับแขกเมือง(ศาลาเฉลิมไทย)











"เสื้อแดง"ประชิดบ้านนายกฯแล้วขอ "มือปราบหูดำ"เปิดทางสาดเลือดสด ม็อบประจันหน้าจนท.กลางสายฝน

แกนนำย้ำกับผู้ชุมนุมให้อดทนต่อการยั่วยุและคำด่าให้ยึดไว้ว่า ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้ เสริมกำลังอารักขาบ้านนายกฯ 10 กองร้อยรับม็อบเทเลือดหน้าบ้าน "เสื้อแดง"ยังคึกไม่หลับไม่นอน-ขยะเกลื่อนถนน ฝนเทสองฝ่ายเปียกปอน

เสื้อแดงประชิดบ้านนายกฯห่างแค่ 200 เมตร

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ปากซอยสุขุมวิท 31 กลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางประชิดบ้านนายกฯ ห่างจากบ้านพักเพียง 200 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังมีรถคุมขัง และรั้วลวดนามคอยสกัดกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ให้เข้ามาถึงหน้าบ้านนายกฯได้ โดยแกนนำได้พยายามเจรจาขอเปิดทาง นอกจากนี้ ได้เกิดฝนตกลงมาค่อนข้างหนักทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำโล่มาบังศีรษะ ส่วนผู้ชุมนุมต้องหาที่หลบฝนกันอลหม่าน

ขณะที่แกนนำพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ให้เปิดทางเข้าไปใกล้บ้านนายกฯ มากที่สุด

แดงผ่าน"พร้อมพงศ์" ขอ"มือปราบหูดำ"เข้าซอยบ้านนายกฯ

เมื่อเวลา 10.45 น. แกนนำเสื้อแดงซึ่งเดินทางโดยรถบรรทุกเดินทางถึงซอยพร้อมพงศ์ ซึ่งเป็นเส้นทางทะลุไปยังบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) ได้ แต่มีรถตำรวจนครบาลจอดและเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งกำแพงมนุษย์ยืนขวางอยู่ แกนนำจึงได้เจรจาต่อรองผ่านเครื่องเสียงกับพล.ต.ต.วิชัย สิงห์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 (ฉายามือปราบหูดำ) เพื่อขอเข้าซอยสวัสดี

"ณัฐวุฒิ"อ้างวอร์รูมรบ.ไม่พอใจคนหนุนแดง เชื่อจ้องยั่วยุ

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน แถลงข่าวว่า ได้รับข้อมูลและงานด้านการข่าวว่ารัฐบาลรู้สึกเสียหายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเสื้อแดงเคลื่อนขบวนไปกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ทำเนียบฯและพรรคประชาธิปัตย์ และมีประชาชนออกมาให้การต้อนรับและสนับสนุนจำนวนมาก วอร์รูมของรัฐบาลไม่สบายใจไม่อยากให้ประชาชนเห็นภาพแสดงการยอมรับเหมือนเป็นการต้านรัฐบาล วันนี้รัฐบาลได้เตรียมจัดตั้งกลุ่มบุคคลออกมาเพื่อยั่วยุเสื้อแดงระหว่างทางไปบ้านนายกฯ และหวังผล 1.ทำลายภาพความสำเร็จของคนเสื้อแดงพยายามทำให้เห็นว่าคนกทม.ไม่สนับสนุนการชุมนุม 2.ยั่วให้เกิดการปะทะระหว่างคนเสื้อแดงและประชาชนที่เป็นคนในพื้นที่

ทัพแดงเริ่มเคลื่อนขบวนไปบ้านนายกฯเแล้ว

เมื่อเวลา 09.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานการบรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เคลื่อนขบวนออกจากที่ตั้งเพื่อเดินทางไป เทเลือดหน้าบ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ซอยสุขุมวิท 31 โดยได้เตรียมเลือดประมาณ 10 แกลลลอนแช็งน้ำแข็ง และ ห่อถุงดำไว้เป็นอย่างดี และเช้าวันนี้ยังไม่มีการรับบริจาคเลือดเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08.30 น.กองทัพเลือดชุดแรกได้เคลื่อนขบวนไปบ้านายกฯก่อนแล้ว โดยใช้เส้นทางหลานหลวง ยมราช อุรุพงษ์ เพชรบุรี สุขุมวิท

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดงขึ้นกล่าวบนเวทีเสื้อแดงก่อนเคลื่อนขบวนไปบ้านนายกฯว่า 2 ข้างทางที่กำลังจะไปเต็มไปด้วยศัตรู อาจจะทำให้เราโกรธได้เพราะอำมาตย์มีการจัดตั้งม็อบมายั่วยุด่าพวกเราให้โมโห ต้องยึดไว้ว่า "ไม่โกรธ ไม่รุนแรง ไม่ตอบโต้" ทุกคนต้องท่องให้ขึ้นใจ

"เสื้อแดง"ยังคึกไม่หลับไม่นอน-ขยะเกลื่อนถนน

บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่พากันเข้าไปนอนในเต็นท์ มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคนยังพากันร้องรำทำเพลงอยู่บริเวณหน้าเวทีปราศรัยเพื่อรอเวลาที่แกนนำได้นัดหมายเอาไว้ว่าจะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเวลา 09.00 น. ขณะที่บางส่วนพากันนอนตามพื้นถนนและบนฟุตบาท โดยมีขยะจำนวนมากกระจัดกระจายเกลื่อนถนน มีบางคนเริ่มตื่นนอนแล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำภายในรถสุขาที่ทาง กทม.จัดมาให้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจยังคงให้การดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ที่มา.มติชนออนไลน์
*************************************************

เสื้อแดงหลั่งเลือด ทักษิณซึ้ง สัญลักษณ์สันติวิธี

ทักษิณ" วิดีโอลิงก์ เวทีเสื้อแดง ขอบคุณที่สละเลือด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกโดยสันติวิธี ลั่น เตรียมกระเป๋ากลับไทยแล้ว เชื่อเสื้อแดงไม่ยอมแพ้ แม้จะเหนื่อย...

เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. วันที่ 16 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์ มาที่เวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยกล่าวว่า "พี่น้องยังทนไหวอยู่มั้ยครับ ได้ข่าวว่ามีคนมาชวนกลับบ้าน ทั้งโฆษณา และมีวิชามารมาจ้างกลับบ้าน แล้วทำไมยังไม่กลับล่ะครับ รอผมกลับก่อนใช่มั้ยครับ" พร้อมทั้งบอกว่า "ผมเตรียมกระเป๋าแล้วนะ" โดยผู้ชุนนุมต่างตะโกนตอบรับ และปรบมือเสียงดัง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเปรียบรัฐบาลเหมือนต้นไม้ผุที่มีไม้คำ้พิเศษ

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า วันนี้มีการเจาะเลือด ตนได้รับโทรศัพท์ ว่ามีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บริจาคส่วนบริจาค บริจาคเลือดต้อง 300 ซีซี เอา 10 ซีซี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ เมื่อวานพอตนได้รับโทรศัพท์ ก็ส่งทวิตเตอร์ออกไป ว่ามีข้อห่วงใยอย่างนี้ ตนจะไปสั่งการ ไม่ใช่ ตนเป็นคนร่วมให้ความคิด แต่ไม่ได้สั่งการ แต่ขอขอบคุณพี่น้องที่รักชาติบ้านเมือง ยอมสละเลือดเป็นสัญลักษณ์วันนี้ อย่างชัดเจน ท่านที่วิตกกังวล ถ้าไม่เห็นด้วยก็ขออภัยด้วย เพราะทุกคนมีอุดมการณ์ วันนี้เป็นการแสดงออกของคนที่พร้อมเสียเลือดเนื้อโดยสันติวิธี

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาในมาดนักวิเคราะห์ เชื่อว่าผู้ที่เข้ามาวุ่นวายในบ้านเมืองขณะนี้เป็นผู้มีปัญหาทางจิต สมัยอดีตที่การแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า ฮิตเลอร์เป็นผู้ที่ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัวไม่ไปไหนและไม่พบใคร นายอภิสิทธิ์ เกิดที่เมืองนอก พ่อเป็นหมอ เรียนหนังสือดี ตนวิเคราะห์ได้เลยจากการเรียนจิตวิทยาว่า นายอภิสิทธิ์ป่วยแน่นอน ขอวิเคราะห์อีกหนึ่งเรื่อง ทำไมถึงมีเสื้อแดงเสื้อเหลือง นอกจากปัญหาทางจิต ยังต้องวิเคราะห์เรื่องประชาธิปไตยด้วยว่า วันนี้ประชาธิปไตยเดินมาถึงทางแยก จะเดินหน้าหรือถอยหลัง คนทั่วไป คนรุ่นใหม่ คนสู้ชีวิต คนแสวงหาโอกาส คนรักห่วงลูก คนเหล่านี้อยากให้เป็นประชาธิปไตยที่เดินหน้าอย่างแท้จริง แต่คนอีกประเภทหนึ่งที่มีความคิดเก่า มีความสุขและอิ่มหมีพีมัน กับสถานภาพของตนเองในปัจจุบัน ได้แก่ พวกอำมาตย์ เศรษฐีเก่าที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทำให้ประเทศถอยหลังไปสู่ยุคศตวรรษที่ 19 ต้องนึกถึงคำพูดของไอสไตน์ที่บอกว่า โลกไม่น่าอยู่ไม่ใช่เพราะมีสิ่งแย่เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่เป็นเพราะคนดีไม่สนใจกับสิ่งแย่ๆ เหล่านี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าชวนให้ผู้รักประชาธิปไตยและพี่น้องเสื้อแดงมาร่วมกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเปรียบเทียบระหว่างเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ว่า สีเหลืองดูดี บริจาคกันทีละหลายสิบล้าน แต่ฝั่งสีแดงที่เป็นพี่น้องเกษตรกรบริจาคครั้งละ 200 50 รือ 20 บาท จึงถูกมองเป็นชนชั้นต่ำ แต่จิตสำนึกของผู้ที่ต้องการประชาธิปไตยเป็นจิตสำนึกชั้นสูงแม้จะไม่มีเงิน และเมื่อประชาธิปไตยเบ่งบานขึ้นเมื่อไหร่ก็จะมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ตอนนี้ประชาชนคนไทยมีสำนึกทางการเมืองสูงขึ้น สื่อสารเทคโนโลยีทำให้พี่น้องคนไทยแม้กระทั่งถูกปิดข่าวมอมเมาอยู่ด้านเดียว พี่น้องก็ยังอุตส่าห์เข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้ง ความพยายามที่ต้องการสื่อว่าตนจ้างพี่น้องมา ในที่สุดก็ได้รู้ว่าทุกคนเสียสละ จึงถึงกับพูดไม่ออก การเสียสละในครั้งนี้ถือเป็นการบอกว่าเรามีวิธีคิดที่แตกต่างกัน พวกเราสีแดงเป็นผู้ที่ยอมเสียสละ แต่เราอยากได้โอกาสและความทัดเทียมในสังคม

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า อยากบอกว่า พวกเราไม่เป็นอันตรายหรอก เราไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับท่าน แต่เราไม่อยากให้ขวางความเจริญของประเทศ ลูกหลานเรายังหิวเราต้องการให้ลูกหลานเรามีโอกาส มีการศึกษาที่ดี ไม่ติดยาเสพติด เมื่อจบมาก็ได้อยู่ในตลาดเสรีที่ให้ลูกเราได้มี เป็นเศรษฐี เปิดโอกาสให้คนไทยได้เท่าเทียมกันแล้วประเทศไทยจะมั่งคั่ง ไม่ต้องมีรัฐบาลที่ผลัดกันมากู้เงินเหมือนอย่างทุกวันนี้ ทัศนคติสองแนวทางนี้เป็นวิธีมอง และเป็นความสะดวกสบายของชีวิตที่ต่างกัน ถ้าหันหน้าเข้าหากันและบอกว่าต่อไปนี้จะเป็นประชาธิปไตย เราไม่ต้องการล้มล้างใคร พวกเราต้องการต่อสู้กับโลกทั้งโลก เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่ลำพังเพียวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน บ้านเมืองมีความเชื่อมโยงกันแล้ว ขอประชาธิปไตยเราคืน

"พี่น้องก็สู้กันมา แกนนำของพรรค 3 เกลอก็สู้กันมา ถามว่าเหนื่อยมั้ยเหนื่อย แต่ถามว่ายอมแพ้มั้ยผมเชื่อว่าพี่น้องไม่ยอมแพ้ หายเหนื่อยเราก็สู้ใหม่ เราจะพยายามทำให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์ทีละขั้นทีละตอน บ้านเมืองจะไปได้ดี ผมเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองมั่งคั่งแค่ไหนก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ถ้าระบบไม่ถ่วงแข้งถ่วงขากันเหมือนทุกวันนี้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การกระจายความเจริญสู่ประเทศเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแต่ยังทำไม่ได้ ยิ่งเมื่อได้มาเห็นแนวทางการทำมาหากินสมัยใหม่ของเมืองนอก บอกได้แล้วว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมาก แต่ติดปัญหาชักคะเย่อระหว่างสองฝ่าย ถ้าวันนี้มีการปลดปล่อยประชาชนสู่โลกเศรษฐกิจ โลกประชาธิปไตย โลกที่มีสิทธิเสรีภาพ และมีความยุติธรรมอย่างแท้จริง ตนสามารถนำความร่ำรวยสู่พี่น้องทั้งประเทศได้ง่ายมาก

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ไทยรัฐออนไลน์
tags:ทักษิณ ชินวัตร เสื้อแดง วิดีโอลิงก์ ผ่านฟ้า เจาะเลือด Share |
*****************************************************

ตร.บุกตรวจระเบิดเวทีแดงแต่ไม่เจอ

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ

ผบก.น.1 รุดตรวจระเบิดเวทีเสื้อแดง หลังได้รับข่าวจะมีการลอบวางระเบิด แต่ไร้วัตถุต้องสงสัย คุยแกนนำเคลื่อนทัพเทเลือดบ้านนายกฯ สั่ง ปะฉะดะ จนท.นอกเครื่องแบบตรวจเข้ม ขณะมีคนเมาโดดขึ้นเวที การ์ดลากคอลง...

เมื่อเวลา 22.00 วันที่ 16 มี.ค. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณใต้เวทีชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งมี นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้การต้อนรับ หลังจากนั้น พล.ต.ต.วิชัย ได้ประชุมหารือเรื่องเส้นทางการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะเดินทางไปเทเลือดบริเวณบ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถนนสุขุมวิท ร่วมกับ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง (การ์ด นปช.) นายจตุพร พรหมพันธ์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.

ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติว่า จะมีเหตุลักลอบวางระเบิด และ ก่อวินาศกรรมบริเวณพื้นที่เวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เครื่องมือในการตรวจสอบ และ เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบครั้งนี้ แต่การตรวจนั้นขณะนี้ยังไม่ได้พบเจอสิ่งผิดปกติ แต่เราคงจะต้องเฝ้าระวังและเข้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง วางใจไม่ได้

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ทราบว่ากลุ่ม นปช. จะเคลื่อพลจากถนนหลานหลวง มุ่งสู่พญาไท สยามและมุ่งสู่ถนนสุขุมวิท ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งให้กับประชาชนทราบอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเทเลือดหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ ได้หรือไม่นั้น คงต้องหารือกับแกนนำอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่หารือกันวันนี้ยืนยันเบื้องต้นว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามหาจุดลงตัวกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งจะต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ จะสั่งการให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วปะฉะดะ จำนวน 26 คัน หรือจำนวน 54 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกจำนวน กว่า 20 คน เข้าดูแลกลุ่มผู่ชุมนุมอย่างใกล้ชิด และ หากมีข่าวลักษณะนี้ก็พร้อมที่จะเข้าตรวจสอบ และหากกลุ่ม นปช.ต้องการให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะเข้ามาทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย หารืออยู่กับแกนนำ นปช. ถึงการรักษาความปลอดภัย และเส้นทางเดินไปเทเลือดที่บ้านนายกรัฐมนตรี ได้มีชายฉกรรจ์วัยกลางคน อยู่ในอาการเมาสุรา ได้เดินทางเข้าบริเวณหลังเวทีบริเวณสะพานผ่านผ้าลีลาศ พยายามเดินไปบนเวทีปราศรัย แต่ไม่ได้เดินทางขี้นไป เพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ล็อกตัวพร้อมให้กักตัวไปบริเวณข้างเวที ท่ามกลางความสงสัยของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การ์ด นปช. ปล่อยให้เดินทางเข้ามาบริเวณหลังเวทีได้อย่างไร

ขณะที่ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงวันที่ 4 ประชาชนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุม ซึ่งสังเกตได้ว่ามีจำนวนมากกว่าคืนที่ 3 หรือ คืนวันที่ 15 มี.ค.เนื่องจากบางคนได้เดินทางกลับมาจากบ้านญาติที่อยู่บริเวณใกล้เคยมาชุมนุมอีกครั้ง ทั้งนี้ มีกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ อดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ปรากฏตัวบริเวณหลังเวทีจำนวนไม่มากนัก

จากนั้น เมื่อเวลา 23.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า มีคนฝั่งรัฐบาลบอกว่าที่สาดและเทเลือดที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นไม่ใช่เลือดคน น่าจะเป็นเลือดวัวเลือดควาย พูดอย่างนี้เป็นการดูถูกประชาชนคนเสื้อแดง ส่วนกรณีมีกลุ่มคนที่ตั้งเวทีที่สนามหลวงนั้นไม่ใช่กลุ่มพวกเดียวกัน ดังนั้นที่มีข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงแตกกันนั้น บอกได้เลยว่าไม่ได้แตกคออะไรกันเพราะไม่ได้ร่วมกันตั้งแต่ต้นแล้ว มาวันนี้หลายคนอึดอัดว่า จะชนะเมื่อไหร่ เราต้องกดดันพวกเขาให้เป็นจำเลยของสังคม ทุกคนที่มาวันนี้ข้ามพ้นความกลัวและความตายแล้ว แต่เราต้องกำความชอบธรรมเอาไว้ ไม่ต้องไปต่อสู้แบบหยาบๆ

“สถานการณ์เวลานี้ต่างฝ่ายต่างกดดัน 10 โมงตรง เราจะไปบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยผ่านถนนหลานหลวง ผ่านถนนพญาไท เข้าสู่สยามสแควร์ ผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน รพ.ตำรวจ เข้าสู่ถนนสุขุมวิท แวะ สถานทูตอังกฤษ ขากลับจะแวะสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อทวงขอความเป็นธรรมให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงขอความกรุณาคนแถวสยามแสคว แถวถนนสุขุมวิทเพราะอาจจะไม่สะดวกบ้าง”นายจตุพร กล่าว

โดย.thaitiger
ที่มา.konthaiuk
***********************************************

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

ระทึกฮ.คณะนายกจอมหน้าด้านน้ำมันหมดซ้ำเจอพายุลูกเห็บ

หวาดเสียวเฮลิคอปเตอร์คณะนายกรัฐมนตรี ที่บินตรวจภัยแล้งภาคเหนือน้ำมันหมด ซ้ำเจออากาศแปรปวน

คณะของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ของกองทัพภาคที่ 3 เตรียมเปลี่ยนเป็นเครื่องบินเจ็ต กองทัพบกที่สนามบินพิษณุโลก เพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงเทพ หลังจากเดินสายตรวจสถานการณ์ภัยแล้ง เมื่อช่วงบ่ายวันของวันเดียวกัน ซึ่งมีพลโททนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 พาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทำการบินตรงไปยังเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อดูระดับน้ำที่กักเก็บว่า สามารถบรรเทาภัยแล้งในปีนี้ได้หรือไม่

โดยมีนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรเเละสหกรณ์ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ร่วมเดินทางโดยมีเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมด 3 ตัวและอีกเครื่องบิน 1 ตัวบรรทุกคณะนักข่าว

ทั้งนี้ เหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมีลูกเห็บ ทำให้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้คณะของนายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถนำเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่เขื่อนสิริกิติ์ได้ โดยเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 3 ลำ บินอ้อมผ่านสภาพอากาศไม่ดี แต่เฮลิคอปเตอร์ของสื่อมวลชนติดสภาพอากาศแปรปวน บินวนจนน้ำมันเครื่อง ฮ.หมด ทำให้ต้องเสียเวลา มาเติมน้ำมันที่ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก ห่างจากเขื่อน 70 กิโลเมตร ทำให้ ฮ. ทั้ง 3 ลำของคณะนายกฯกลับมาลงจอดที่สนามบินกองบิน 46 ก่อน โดยต้องรอเครื่องบินของคณะนักข่าว ทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะต้องพักผ่อนคลายอิริยาบถที่ห้องพักรับรอง กองบิน 46 นานกว่า 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังรับรายงานว่า กลุ่มมวลชนเสื้อแดงที่จังหวัดอุตรดิตถ์ถูกเกณฑ์จำนวน 2 คันรถบรรทุก 10 ล้อ เพื่อต้อนรับนายอภิสิทธิ์ แต่ถูกสกัดไว้ ประกอบกับนายอภิสิทธิ์ยกเลิก ภารกิจที่เขื่อนสิริกิติ์ เพราะสภาพอากาศไม่ดี ทำให้ล่าสุด 18.30 น.ของวันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์ยังคงนั่งอยู่ห้องรับรองที่กองบิน 46 โดยมีแม่ทัพภาคที่ 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดพิษณุโลกฯลฯให้การต้อนรับ โดยไม่มีกลุ่มมวลชนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 18.40 น. ฮ.คณะสื่อมวลชน ได้บินกลับมาสนามบินพิษณุโลกอย่างปลอดภัยแล้วและเดินทางกลับ กทม.ต่อไป

โดย.thaitiger
ที่มา.konthaiuk
*************************************************

เลือด ไหลหลั่ง ถั่งโถม ชะโลมดิน

เลือดไหลหลั่ง ถั่งโถม ชะโลมดิน
เลือดของไทย ไหลริน ไม่ขาดสาย
หน้าทำเนียบ คาวเลือด กระจัดจาย
เลือดหญิงชาย สีแดง ร้อนแรงจริง

วันนี้เรา จะขอ จารึกไว้
อยู่ก้นบึ้ง ของใจ ทุกสรรพสิ่ง
วันสิบหก มีนา อย่าประวิง
ถึงเวลา โลกหยุดนิ่ง จับตามอง

หากแม้นมี จิตใจ ดั่งหินผา
อีกเย็นชา ไม่สนใจ ใครทั้งผอง
นั่งมองดู เลือดไทย ไหลหลั่งนอง
เสียงเรียกร้อง ผู้คน ไม่สนใจ

ก็เพราะมี จิตใจ ไร้เมตตา
นี่หรือคน จะมา นำเราได้
ยุติธรรม สูญหาย สลายไป
โอ้..เมืองไทย ยุคมืดมน อนธกาล

ฟังบทสวด สาปซ้ำ คำบวงสรวง
ใจทุกดวง ปวงประชา มหาศาล
พร้อมตั้งจิต สวดนำ คำโองการ
แช่งหมู่มาร ทั้งเลือดสาด ราดแผ่นดิน

วันนี้จะ เป็นวันแห่ง ประวัติศาสตร์
เหล่าคนไทย ทั้งชาติ จำได้สิ้น
เลือดสีแดง คนไทย ที่ไหลริน
แม้นฟ้าดิน คงได้เห็น เป็นพยาน

เกียรติมุข ๚ ๛
ที่มา.konthaiuk

*******************************

ท่านผู้หญิงเสื้อแดงขึ้นเวทีไพร่การันตีพลังบริสุทธิ์


เมื่อเวลาประมาณ 21.35น. วันที่ 15 มีนาคม ภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินแล้ว ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล กรรมการมูลนิธิสายใจไทย และประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ได้ขึ้นเวทีคนเสื้อแดงโดยมีแกนนำคนเสื้อแดงจำนวนมากให้การต้อนรับ โดยได้กล่าวให้กำลังใจ คนเสื้อแดงเป็นเวลาประมาณ 10 นาที พร้อมกล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้ชุมนุมเสื้อแดง มาชุมนุมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์

“พี่ปลื้มใจมากนะคะที่ได้รับการต้อนรับอบอุ่นแบบนี้ พี่เป็นนักสังคมสงเคราะห์ทำแต่การกุศล แต่ก็ยังโดนลูกหลง วันนี้หลายคนคงเห็นข่าวที่ออกเกี่ยวกับพี่ มีคนโทรมาบอก พี่ไม่สนใจ ไม่อยากรับทราบ เชื่อว่าถ้าใครชอบพี่เขาก็ไม่เชื่อ ถ้าใครไม่ชอบก็เชื่อก็ช่างเขา พี่มาวันนี้อยากมาเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน ปลื้มใจที่เห็นทุกคนรักกัน มีความเสียสละ ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ทุกคนที่มาเชื่อว่าทำด้วยใจสมัคร ทำเพื่อประเทศชาติราชบัลลังก์เท่านั้น พี่โดนกล่าวหาว่าได้รับผลประโยชน์ร่วมกับทักษิณ จริงๆ แล้วพี่รวยกว่าคุณทักษิณนะคะ ลูกก็ไม่มี สามีก็ไม่มี ไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไร"

“มาวันนี้เพราะเห็นภาพในโทรทัศน์ วันนี้เห็นว่าเป็นการรวมตัวที่ยิ่งใหญ่ ขอแสดงความยินดีกับแกนนำที่สามารถทำให้ทุกคยมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่มาเพื่อตัวเอง มาเพื่อเรียกร้อง ประชาธิปไตยจริงๆ” ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดนกล่าว

ท่านผู้หญิงกล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศไทยขาดเวลานี้คือความถูกต้องและความเป็นธรรม ส่วนตนขอการันตีตนเองว่ามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตรย์ เกินล้าน

“คนที่กล่าวหาพี่ พี่อยากถามว่าได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทเท่าเศษหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของพี่หรือเปล่า พี่เชื่อว่าถ้าการมารวมตัวของพวกเราไม่จงรักภักดี พี่จะไม่มายืนตรงนี้เด็ดขาด คนกลุ่มเล็กไม่ถึงสิบคนกล่าวหาคนเป็นล้านว่าไม่จงรักภักดี พี่ไม่รับค่ะ พี่เชื่อว่าน้องทุกคนจงรักภักดี” ท่านผู้หญิงวิระยา กล่าวการันตีคนเสื้อแดง

ในตอนท้ายของการปราศรัย ท่านผู้หญิงวิระยากล่าวว่า อยากขอให้สื่อมวลชนนำข้อความที่ตนพูดนี้ไปลงอย่างถูกต้องและอย่าบิดเบือน ก่อนจะกล่าวอวยพรคนเสื้อแดง และลงจากเวทีไป

สายสัมพันธ์-ท่านผู้หญิง ม.ร.ว.บุษบา สธนพงศ์ และ น.อ.สุรยุทธ์ สธนพงศ์ เลี้ยงปลอบขวัญ ท่านผู้หญิง วิระยา ชวกุล โดยมี ไพโรจน์-ท่านผู้หญิง อรสา ล่ำซำ พล.ร.ต.จุลปรีชา วารุณประภา และภริยา มาร่วมให้กำลังใจ ที่ห้องอาหารโรงแรมเจดับบลิวแมริออท เมื่อวันที่ 14พ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงที่สนธิ ลิ้มทองกุล กำลังกล่าวหาว่าท่านผู้หญิงวิระยาอาจเกี่ยวพันกับการลอบสังหารเขา

ก่อนหน้านั้นเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 24.00 น. ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล กรรมการมูลนิธิสายใจไทย ได้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมที่เวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ของกลุ่มเสื้อแดง โดยมีนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช.ให้การต้อนรับ โดยใช้เวลาไม่นานก็เดินทางกลับ

จากนั้น นายวีระ เปิดเผยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ท่านประกาศตัวเป็นเสื้อแดงสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ นปช.มานานแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาที่ชุมนุมด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้มีการโทรศัพท์สอบถามกันเป็นระยะ โดยท่านประสงค์จะช่วยเหลือค่าอาหารแต่ไม่เปิดเผยจำนวนเงิน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีแต่ไพร่ แต่มีหลากหลายชนชั้น

ทั้งนี้ ท่านผู้หญิงวิระยา เคยถูกนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับเหตุการณ์ลอบสังหารเขา หลังจากที่ออกมาปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ และท่านผู้หญิงม.ร.ว.บุษบาได้เลี้ยงปลอบขวัญท่านผู้หญิงวิระยาท่ามกลางกระแสข่าวโจมตี

ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงศ์ เป็นพระขนิษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีธิดา 1 คน คือ ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย ภริยาของ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ(รายละเอียดเพิ่มเติมในวิกิพีเดีย)

สหภาพไฟฟ้านครหลวงเปิดตัวเข้าร่วมเสื้อแดงหากทหารใช้กำลังปราบ

นอกจากบุคคลในแวดวงชั้นสูง(ไฮโซ)อย่างท่านผู้หญิงวิระยาแล้ว ก็ปรากฎว่ามีสหภาพแรงงานที่เคยร่วมกับพันธมิตรประกาศจะเข้าร่วมกับเสื้อแดงด้วย หากทหารใช้กำลังปราบปราม

โดยนายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า กองทัพต้องวางบทบาทอยู่บนหลักความถูกต้อง ยึดถือความยุติธรรม เพื่อเป็นที่พึ่งพาของประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตย และทางสหภาพฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ให้นำกองกำลังทหารหลายกองร้อยออกปฏิบัติการ เพื่อควบคุมฝูงชน และยุติการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง เพราะเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน และหากมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง ทางสหภาพแรงงานฯ จะเข้าร่วมต่อสู้กับประชาชนทันที

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
*****************************************************