--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ฮุนเซน"เผยเมียถึงร่ำไห้สงสารทักษิณ-สร้างบ้านรอต้อนรับ


คมชัดลึก : เผยฮุนเซนสร้างบ้านหรูรับเพื่อนอย่างสมเกียรติ แถมยังอุ้ม”ทักษิณ”เพราะรู้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้ง “เตียบันห์ – วิชิต ” ประสานความร่วมงานการเมือง ด้าน “ ทักษิณ ” โฟนหา “ จิ๋ว ” ทันควันถามผลถก “ ฮุน เซน ” พร้อมสั่งงานให้เดินสายประสานประเทศเพื่อนบ้าน และดูปัญหาไฟใต้

(21ต.ค.) เมื่อเวลา 07.40 น. พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผบ.ทบ. พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์ พล.ต. ศรชัย มนตริวัต ได้เดินทางไปประเทศกัมพูชา โดยมีพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา ให้การต้อนรับจากนั้นเวลา 11.00 น. คณะพล.อ.ชวลิต ได้เดินทางเข้าพบ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่บ้านพักรับรองในกรุงพนมเปญเพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และร่วมหารือถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป

จากนั้นเมื่อเวลา 14.00 น.สมเด็จฮุน เซน กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือว่า เมื่อตนรู้ว่าพล.อ.ชวลิต เข้ามาเป็นประธานพรรคเพื่อไทย จึงได้เชิญมากัมพูชา เพราะเราเคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรามีความสัมพันธ์ที่ดีโดยเฉพาะพรรคประชาชนกัมพูชากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตเป็นพรรคไทยรักไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของพรรคการเมืองทั้งสอง จึงได้แต่งตั้งพล.อ.เตียบันห์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานพรรคการเมืองทั้งสอง โดยทางพรรคเพื่อไทยจะเสนอตั้งพล.อ.วิชิต ยาทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะประสานงานของพรรคเพื่อไทย

“ผมมีความสัมพันธ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อน เรามีความรักความผูกพันกันมาตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักธุรกิจ จนกระทั่งลงมาเล่นการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองยังผูกพันเหมือนเดิมทุกอย่าง ในฐานะเพื่อน ผมรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการเมือง ประสบเคราะห์กรรม แต่ผมกับทักษิณยังเป็นเพื่อนกัน ในฐานะที่ทำประโยชน์ให้ประเทศมานาน แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ผมมีความรู้สึกเจ็บปวดในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนไทย ผมและคนในครอบครัวได้รับรู้เรื่องนี้ ภรรยาผมถึงกับร้องไห้ และมีความเห็นที่จะสร้างบ้านให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาอยู่ในกรุงพนมเปญ ในฐานะเพื่อน อย่างมีเกียรติ ” สมเด็จฮุน เซน กล่าว

สมเด็จฮุน เซน กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องท่าทีของรัฐบาลกัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ตนมีความรักในสันติภาพถึงประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากขอให้พวกเราถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่มีปัญหา เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า และขอให้คณะกรรมการประสานงานชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(เจบีซี) เป็นผู้ดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะในพื้นที่ทับซ้อน ตนเห็นว่าสามารถที่จะใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทั้งสองประเทศ ส่วนเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาให้บริษัทต่างชาติสำรวจทรัพยากรในทะเลนั้น ขอยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด และทางกัมพูชาได้เสนอรัฐบาลไทยและรออยู่เพื่อตกลง จะขุดหาผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนพล.อ.ชวลิตจะขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามพล.อ.ชวลิต ถึงการเข้าพบสมเด็จฮุนเซ็น โดยพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี นายกฯฮุน เซนมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีไม่เปลี่ยนแปลง และยังฝากบอกพ.ต.ท.ทักษิณ ให้เดินทางมาอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เพราะได้สร้างบ้านหลังใหญ่สวยหรูไว้รอต้อนรับ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวทางโทรศัพท์ว่า อยากให้พล.อ.ชวลิตเดินทางไปประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศพม่าและลงไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยพล.อ.ชวลิต กล่าวตอบกลับว่า ตนจะเดินทางลงไปในพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเร็วๆนี้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ขอทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

“พท.”ปัด”ทักษิณ”เตรียมย้ายฐานซบเขมร

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกที่เพื่อนจะสร้างบ้านให้เพื่อน สมเด็จฮุนเซ็น รักใคร่กับอดีตนายกฯเป็นอย่างดี คงเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีประโยชน์สามารถสร้างความเจริญให้ประเทศกัมพูชาได้ คงไม่ใช่อย่างที่มีการมองกันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ อาจย้ายฐานการเมืองจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อมาอยู่ประเทศกัมพูชา แต่เป็นเพราะสมเด็จฮุนเซ็นอาจอยากได้พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นที่ปรึกษาก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ไปสร้างความเจริญให้ประเทศเหล่านั้น อยู่ที่ไหนก็มีคนรัก ไม่เหมือนประเทศไทยที่ไม่รู้จักใช้ความรู้ ความสามารถของท่าน ไปให้คนไม่มีความรู้มาบริหารประเทศ เลยเป็นอย่างนี้เศรษฐกิจตกต่ำ นักลงทุนไม่กล้าลงทุน ถือเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศ ที่ไม่รู้จักใช้คนอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ

จิ๋วปะทะป๋า นี่คือเกมส์รักษา สถาบันฯ

ว่ากันว่า อัจฉริยะ คือคนที่ใกล้บ้า แต่ยังไม่บ้า ส่วนคนบ้านั้น คืออัจฉริยะที่เหนืออัจฉริยะขึ้นไปอีกหนึ่งขั้น เลยกลายเป็นคนบ้า บังเอิญว่าลุงจิ๋วแกแค่เฉียดบ้าไป ไม่ถึงเส้นยาแดงผ่าแปด จึงได้รับการยกย่องเป็นขงเบ้งแห่งกองทัพ ทหารอัจฉริยะหนึ่งเดียว ตั้งแต่ก่อตั้งกองทัพไทยนะนั่น ทำเป็นเล่นไป

จึงเป็นธรรมดาอยู่เอง ที่เราจะฟังแกพูดไม่รู้เรื่อง แต่แกพอจะฟังเราได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าแกดัดจริตพูดภาษาเทพ เพียงแต่ว่าแกพูดตามที่แกรู้ แล้วเราดันไม่รู้ตามที่แกพูด ก็เท่านั้นเอง

ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากทะเลาะกับคนบ้า พอๆกับที่ไม่มีใครอยากต่อกรกับอัจฉริยะ บังเอิญว่าป๋าแกซวยจัด ดันไปถือหางคนละฝั่งกับขงเบ้ง เรื่องของเรื่อง นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เลยต้องแต๋วแตก ออกมาบ๊งเบ๊งเป็นการใหญ่ เมื่อลุงจิ๋วแกเปิดหน้าชน ไม่มีการเกรงใจกัน

ว่ากันอีกว่า ถ้าพฤษภาทมิฬไม่ได้ลุงจิ๋วปล่อยวินมอร์ไซค์ออกมาป่วนไม่เลิก ป่านนี้ลุงสุจินดาไม่รู้ว่าเช็คบิล ไปนอนเกาพุงถึงไหนแล้ว ไม่มีทางได้ผุดได้เกิดหรอก อัศวินม้าขาวน่ะ

ในเมื่อรู้มือกันอย่างนี้แล้ว ถ้าป๋าไม่รู้สึกหนาวบ้าง ก็ให้มันรู้ไป

เมื่อตอนที่อเมริกันแตกทัพ เปิดตูดหนีจากไซง่อนอย่างหมดรูป กองทัพเหงียนก็ได้ใจ ร่ำๆจะกรีฑาทัพมายึดสารขัณฑ์ซะให้ได้ ดีว่าลุงจิ๋วแกแอบต่อสาย ให้จีนใหญ่เปิดสงครามสั่งสอน รุกพรวดเดียวถึงฮานอย ดึงกองทัพเวียตกง กลับไปต้อนรับขับสู้แทบไม่ทัน เมืองที่มีแต่ทหารที่เก่งกับชาวบ้าน เลยรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้อย่างหวุดหวิด

บำเหน็จที่ได้คือ ลุงจิ๋วเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมูนิสต์ ตามธรรมเนียมอันเลวทราม ของเมืองตอแหล

และก็เป็นคอมมูนิสต์จิ๋วคนนี้ ที่ทำการสลายพรรคคอมมูนิสต์แห่งประเทศไทยด้วยคำสั่ง 66/23 ซึ่งคนเซ็นต์คือป๋า จัดการงุบงิบรับชอบไปแต่เพียงผู้เดียว แถมยังได้รับยกย่องว่าฉลาดล้ำลึกซะไม่มี ที่รู้จักใช้การเมืองนำการทหาร

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี ก็เป็นป๋าคนเดียวกันนี้ ที่กำลังใช้การทหารมานำการเมืองอย่างเข้มข้น ด้วยการสั่งทหารให้ไล่ฟัดคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ จนบ้านเมืองฉิบหายวายวอด ไม่มีชิ้นดี

อะไรไม่ว่า มันพาเอาสถาบันอะไรต่อมิอะไร เป๋กันไปหมด เล่นกันจนชาติไม่เป็นชาติ ทำให้ทุกจังหวัดต้องเวียนกันออกมาร้องเพลงชาติจนคอโป่ง ยังไม่รู้ว่าจะเอาอยู่หรือเปล่า

ถ้าเปรียบสถาบันฯเป็นกระบี่อาญาสิ ทธื์ ก็ถูกป๋าลากเอามาฟาดฟันศัตรูทางการเมือง ที่ถูกป๋าตราหน้าว่าเป็นศัตรูของชาติ เป็นอันตรายต่อสถาบันฯ จนกระทั่งกระบี่บิดงอยับยู่ยี่ ยากที่จะเยียวยาแก้ไข ให้กลับดีดังเดิม

ที่สำคัญ ศัตรูของป๋า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือประชาชนทั้งนั้น เป็นรากฐานสำคัญของชาติ เป็นเกราะคุ้มครองสถาบันฯ ที่แข็งแกร่งเหลือกำลังลาก แต่ป๋าดันลากมาเผชิญหน้ากันซะฉิบ

ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงไม่สิ้นชาติก็คงไม่มีอะไรเหลืออยู่ดี ดังนั้น จึงถึงเวลาที่พ่อใหญ่จิ๋วต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อรักษาสถาบันฯเอาไว้ ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างสง่างาม

แล้วคนระดับขงเบ้ง มีหรือที่จะไม่รู้ว่า ถ้าจะแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจริงๆ ก็มีแต่นำพาสถาบันฯเข้าไปอิงแอบกับประชาชนเท่านั้น ถึงจะอยู่ได้อย่างยั่งยืน

นั่นคือเหตุผลที่ ถึงยังไงลุงจิ๋วก็ต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ไปซุกหว่างขาประชาธิปัติย์ หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ให้มันแตกร้าวหนักเข้าไปอิก เพราะต่อให้สิบบิ๊กจิ๋วไปเติมพลังให้ฝ่ายอำมาตย์ ก็ไม่สามารถเอาชนะประชาชนได้อยู่ดี

มีแต่จะลากยาว ให้สงครามมันยืดเยื้อออกไป ให้่บรรลัยวายวอดหนักเข้าไปอีก ทั้งๆที่ผลบั้นปลาย ยังไงประชาชนก็เป็นฝ่ายชนะ

ถ้าขืนปล่อยให้พรรคเพื่อไทย ภายใต้การหนุนหลังของมหาชน ยืนซดกับอำมาตย์ตัวต่อตัว เกรงว่าถ้าเลือดเข้าตา จะยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ เกิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินขึ้นมา มันจะดูไม่จืด

เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่สี่เหล่าทัพ ต้องกรีฑามาเข้าพรรคเพื่อไทย จนป๋าถึงกับชักดิ้นชักงอ ด่ายัดลุงจิ๋วไม่มีชิ้นดี

แต่คนอย่างป๋านั้นแพ้ไม่เป็นอยู่แล้ว ต่อไปนี้คงได้เห็นลูกกะแป๋งป๋า ดาหน้าออกมาแหกปากด่าทักษิณไปตามระเบียบ..พูดถึงผีผีก็มา เมื่อนายแพทย์สังเวช บัดสีบัดเถลิง ออกมาเปิดจุกเป็นคนแรก สวดชยันโตทักษิณว่าเล่นไม่เลิก ไม่มีจิตสำนึกใหม่ อะไรของแกก็ไม่รู้

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เป็นครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหา นับหน้าถือตามากมาย แต่ไหงเปิดกะโหลกออกมา มันกลวงโบ๋ไม่มีรอยหยักแม้แต่น้อย มิน่าล่ะ ถึงเก็บได้แค่ข้อมูลเกี่ยวกับทักษิณ เลยย้ำคิดย้ำทำแต่เรื่องทักษิณ ไม่รู้จักเลิก

ไปเปรียบอะไรกับท่านปรีดี หรือนายกฯชาติชาย ที่พอถูกปฏิวัติก็เงียบหายไปเลย ทำไมไม่นึกบ้างว่า พวกกะโหลกกะลาทั้งหลาย ตอนนั้นทำไมไม่ออกมาปกป้องกติกาบ้านเมือง เหมือนที่ประชาชนกำลังทำอยู่ตอนนี้

ซึ่งถ้าประชาชนลุกขึ้นมาสู้ มีหรือที่ท่านเหล่านั้น จะไม่ออกมาร่วม

แล้วถ้าประชาชนตั้งป้อมสู้อย่างทุกวันนี้ จะมีทหารเลวหน้าไหน ยังกล้าลุกขึ้นมาทำรัฐประหารอีก ถ้าพวกแก่ๆในวันนี้ ลุกขึ้นมาสู้ซะตั้งแต่วันนั้น มันจะมีการทำรัฐประหารทำลายสถิติโลกถึงเกือบ 20 ครั้งได้ยังไง

ในเมื่อหน้าที่ตัวยังไม่ทำ ก็อย่าได้มาใส่เกือกขัดขวางคนอื่น ถ้าทำเป็นแค่อ่านหนังสือต่างประเทศ แล้วเก็บเอาขี้ปากเขา มาเหน็บคนในชาติที่เป็นศัตรูอำมาตย์ ก็สู้รีบๆตายไปซะ ลูกหลานจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อน ให้คนเขาด่า

แล้วจำใส่กะโหลกหนาๆไปถึงปรโลกด้วยว่า สงครามวันนี้ มันเป็นเรื่องของประชาชนล้วนๆ อย่ามาแหลดูถูกประชาชน ว่าถูกบงการโดยทักษิณ คนที่เล่นไม่เลิกจริงๆ ก็คือประชาชนต่างหาก ไม่ใช่ทักษิณ

ทักษิณอาจจะเลิกได้ แต่ประชาชนไม่มีทางเลิกแน่

วโรทาห์: 21 ต.ค. 52

ควานหาตัวผู้ทรยศ

ที่มา – Political Prisoners in Thailand
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

แต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป เรื่องยิ่งพิสดารหนักขี้นเรื่อยๆ จากบางกอกโพสต์ (วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒: “นายก แจ้งเบาะแสพวกปากพล่อย”) รายงานว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เรียกชุมนุม “บุคคลใดก็ตาม ที่ทราบว่าใครเป็นตัวกระพือข่าวลืออัปมงคลเกี่ยวกับพระพลานามัยของกษัตริย์ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้วให้ก้าวออกมา” และสั่งให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำการสืบสวนในเรื่องนี้ อภิสิทธิ์อ้างเหตุผลที่น่าเวทนาว่า ตัวปล่อยข่าวลือ “เป็นผู้คุกคามความมั่นคงของประเทศ..”

ฝ่ายต่อต้านทักษิณ และ “กลุ่ม ส.ว. ๔๐ คน” ที่ส่วนใหญ่มาจากการสรรหา ออกแถลงการณ์ว่า “ผู้ที่มีชื่อเริ่มด้วยตัวย่อ “ย” และ “ว” หรือ “ว” เป็นผู้อยู่เบื้องหลังข่าวลือนี้” ผู้นิยมทักษิณบางคนขอให้มีการแสดงหลักฐาน เพราะชื่อย่อทั้งหมด ดูเหมือนจะเป็นคนในครอบครัวของทักษิณและผู้สนับสนุนเขา เนื่องจากมีการ “กล่าวหาว่าต้นตอของข่าวลือเป็นนักลงทุนกลุ่มใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อมโยงกับญาติสนิทของอดีตผู้นำประเทศ”

จากข่าวบางกอกโพสต์ “นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวนของ ก.ล.ต.” จากนั้น กรณ์ จาติกวณิช “กล่าวว่า เขาได้สั่งให้ ก.ล.ต. ทำรายงานผลการสอบสวนในอาทิตย์นี้” กรณ์กล่าวต่อว่า “ถ้า ก.ล.ต.ไม่สามารถตามหาต้นตอข่าวลือได้ ก.ล.ต.จะต้องหาคำอธิบายว่าทำไม…” ฟังดูเหมือนไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเลยนะ ก็แค่ขู่ใช่ไหม

อย่างไรก็ดี กรณ์คิดว่า “คำอธิบายเกี่ยวกับต้นตอข่าวลือ” จะ “ช่วยเรียกความมั่นใจจากนักลงทุนกลับคืนมา” กรณ์ควรจะขอบคุณเสียด้วยซ้ำที่ว่า ขณะนี้ทางการไทยจะได้รับรู้เสียทีว่าอะไรจะเกิดขี้นเมื่อสิ้นกษัตริย์ และพวกเขาจะได้เตรียมรับมือในเรื่องนี้ แทนที่จะแสดงความโง่เมื่อเวลานั้นมาถึง และไม่น่าเป็นไปได้ที่นักลงทุนต่างชาติจะมีความมั่นใจกับ การสั่งการของรัฐบาลให้พวกคลั่งเจ้าควานหาตัวต้นตอปล่อยข่าว

แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง การโจมตีทักษิณ และใครก็ตามที่สนับสนุนเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เวลาประจวบเหมาะเลยนะ ที่รัฐบาลแสดงการโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ส.ส.ปประชาธิปัตย์ชี้พรรคศาสดาโกเต๊กซ์ ชักใยสหภาพรถไฟหยุดเดินรถสายใต้

มติชน : นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ปัญหาสหภาพการรถไฟหยุดงานประท้วงว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบ ก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่โยนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นผู้แก้ปัญหาเพียงคนเดียว ตนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ดูได้จากความสัมพันธ์ระหว่างนาย สาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจึงมองได้ว่ามีกระบวนการบีบคั้นให้รัฐบาลไม่มีความชอบธรรม ให้คนมองว่าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ เพื่อให้เกิดการยุบสภา และพรรคการเมืองใหม่จะได้ลงรับเลือกตั้ง
“สาวิทย์”เรียกถกด่วนสหภาพฯ รฟท.ขอมติเปิดเดินรถสายใต้

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมสมาชิกสหภาพการรถไฟฯ ที่อยู่ในส่วนกลางเป็นการเร่งด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์และขอมติที่ประชุมว่า จะยอมเปิดเดินรถไฟสายใต้และยอมเจรจากับ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่ โดยจะเปิดแถลงข่าวในช่วงนี้

นายสาวิทย์ กล่าวว่า แม้ว่าเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟฯ ได้เดินทางลงพื้นที่และพบกับพนักงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ยังไม่มีการเจรจากับพนักงาน เนื่องจากถูกโห่ขับไล่ โดยพนักงานรถไฟหาดใหญ่ กล่าวว่า จะไม่เปิดเดินรถในช่วงนี้อย่างแน่นอน เพราะยังไม่มีข้อสรุปและตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นที่เรียกร้องไป อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่า หัวรถจักรจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งทำให้สถานีรถไฟหาดใหญ่ยังคงเงียบเหงา และมีประชาชนเดินทางไปสอบถามการเปิดเดินรถ แต่ไม่ได้รับคำตอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งหาดใหญ่ได้สำรองรถบัสไว้ 20 คัน เพื่อรับ-ส่งผู้โดยสาร ทั้งที่ต้องการเดินทางระหว่างอำเภอ ระหว่างจังหวัด และเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครด้วย เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และยังตกค้างอยู่ ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช บขส.ได้เพิ่มเที่ยวรถโดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีก 10 เที่ยว จากวันละ 20 เที่ยว เป็น 30 เที่ยว ซึ่งนายสถานียืนยันว่าจะไม่มีปัญหา แม้จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เพราะมีการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี

ทักษิณโชว์ปกหนังสือเล่มใหม่ “คนไทยหายจน (เสียดาย..ถูกปล้นเสียก่อน)”

แค่ทวงฏีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน

แค่จะทวงฎีกา ยังออกมา มืดฟ้ามัวดิน
นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ในจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่เสื้อแดงริอ่านจัดชุมนุมเป็นต้นมา เมื่อจะทวงถามฎีกากันทั้งที มันก็ต้องมีแสดงอิทธิฤทธิ์กันนิดหน่อย เพื่อที่ว่าคนแก่จะได้เลือดลมสูบฉีด หูตาสว่างโร่เป็นตาตั๊กแตน นี่ขนาดว่า ไม่มีการตีฆ้องร้องป่าว

แค่สะกิดเบาๆ ยังแห่กันมามืดฟ้ามัวดิน

เหมือนจะกระชากอารมณ์อิจฉา ของคนแก่ที่ไม่รู้จักคำว่าปล่อยวาง ให้พุ่งปรี๊ดฉีดกระฉูดจนหน้าแดงก่ำ แถมยังตอกย้ำด้วยคำพูดเรียบๆ ของนายกฯขวัญใจประชาชนว่า เสียดายที่ไม่ได้วิดีโอลิ้งค์เข้ามาดูความยิ่งใหญ่

เพราะต้องรีบขึ้นเครื่องไปดูเพชรเม็ดใหม่ ที่เพิ่งขุดขึ้นมา

แต่ถึงยังไง งานนี้ก็ต้องให้เครดิตป๋าไปเต็มๆ ที่อุตส่าห์ช่วยฟูมฟักเสื้อแดงจนเติบใหญ่มา จวบจนเท่าทุกวันนี้ เพราะป๋าแท้ๆที่ช่วยเสือกไสไล่ส่ง ประชาชนทั้งหลายให้มากองรวมกัน ที่ฝั่งฟากเสื้อแดง ด้วยการตอกย้ำระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน จนชาวบ้านเขาเหลืออด ต้องตะโกนออกมาดังๆว่า

พวกมึงทำอะไรไม่เคยผิด แต่พวกกูทำอะไรไม่เคยถูก

ล่าสุดนี้ ยังอุตส่าห์พ่นดอกอุตพิตออกมาจากรูทวารจู๋ๆว่า "การเข้าพรรคเพื่อไทย เป็นการทรยศต่อชาติ" แปลไทยเป็นไทยให้เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากว่าพรรคเพื่อไทยคือศัตรูของชาติ คนที่จะเข้าพรรคนี้ ถึงต้องระวังว่าจะเป็นการทรยศต่อชาติ

เลยทำให้ศัตรูของชาติ ต้องออกมากันเต็มถนน เมื่อวันที่ 17 ตุลา

ก่อนที่จะมาพลิกลิ้นแผล็บ เมื่อนักข่าวดันไปถามเรื่องด่าลุงจิ๋ว ป๋าบอกไม่ได้พูดว่าทรยศชาติ แต่เตือนว่า จะทำอะไรคิดให้รอบคอบ เพราะอาจจะเป็นการทรยศชาติ

ใครฟังก็ได้แต่นั่งงง ว่ามันต่างกันยังไงหรือป๋า

คนอะไรก็ไม่รู้ ไม่พูดก็ไม่พูด แต่ถ้าพูดออกมาทีไร เป็นต้องได้ฮากันท้องคัดท้องแข็ง อย่างเช่นเรื่องม้ากับจ๊อคกี้ ที่เล่นเอาฮาตรึมสมัยน้าแม้ว จนกระทั่งป่านนี้ ผ่านไปกว่า 3 ปี ยังฮากันไม่เสร็จ

ยังมีวลีเด็ดที่ป๋าฝากเอาไว้เยอะแยะ ถ้าขุดคุ้ยขึ้นมาเดี๋ยวมีฮาอีก อย่างเช่นว่า "ป๋าไม่พูดเรื่องการเมือง" แต่ไม่รู้เป็นไง

ไม่ว่าป๋าจะพูดอหิวาต์อะไรออกมา การเมืองเป็นได้เดือดปุดๆ ไปซะทุกที

มิน่าล่ะ ใครๆเขาถึงว่า อาการของโรคที่ป๋าเป็นนั้น มันมีพัฒนาการน่าเป็นห่วง สังเกตุว่าแรกๆป๋าก็แค่ออกมาแหล่ แต่แหล่ไปแหล่มาชักจะเริ่มแหล แล้วแทนที่จะรีบรักษา กลับออกมาแหลเป็นรายวัน

กว่าจะมารู้ตัวอีกที ก็แหลลงตับไปซะแล้ว

คนอย่างลุงจิ๋ว ดีชั่วยังไงแกก็ยังเป็นทหารประชาธิปไตย ขณะที่ทหารประชาธิปไตยครึ่งใบ มันกอดเก้าอี้ผบ.ทบ.แน่น จนกระทั่งเกษียณแล้วยังมีขอต่อวีซ่า แต่ลุงจิ๋วแกกล้าลาออกมันดื้อๆ เพื่อลงมาเล่นการเมือง

เสียอยู่อย่างเดียวว่า แกเป็นทหารที่ซ้ายหันขวาหันไม่เป็น เล่นเอาป๋าเสียวสยองกับแกอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าป๋าสั่งซ้ายแกจะไปขวา แต่ถ้าป๋าสั่งขวาแกจะออกซ้าย พอป๋าถามว่าจิ๋วจะหันไปทางไหนเอาให้แน่ ป๋าจะได้สั่งได้ถูก แกกลับปากหวานบอกว่า

แล้วแต่ป๋า สั่งมาได้เลย

ควันหลงจาก 17 ตุลา กระแสคลื่นประชาธิปไตย ที่จะพัดไล่คลื่นเผด็จการ ไปลงนรก มาถึงวันนี้ ชักจะแรงจัด ถึงขนาดเด็กๆยังออกแถลงการณ์ ไม่ให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับม็อบเสื้อแดง เรียกว่าย้อนเกล็ดพวกเฒ่ากะโหลกกะลา จนหน้าม้านไปตามๆกัน

เพราะขนาดรัฐบาลเด็กดื้อประกาศใช้พรบ.ฉุกเฉินอยู่โครมๆ พวกที่เคยดิ้นพราดๆ ห้ามลุงหมักจัดการกับพันธมิตร ยังนั่งอมสากกันหน้าตาเฉย ขนาดโดนเด็กมันส่งอีเมล์ไปลากคอมาร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ ยังทำเป็นหน้ามึน

เลยโดนแฉชื่อออกมาประจานซะเจ็บแสบ ใครเป็นใครคงไปหาดูได้ไม่ยาก แต่ที่แน่ๆแค่เปิดชื่อโคทม อารียา กับสมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ ก็เรียกเสียงฮือฮากันอื้ออึง

ส่วนพวกม.นกเขานั้นไม่ต้องไปพูดถึง ขนาดลูกศิษย์ลูกหามาออกแถลงการณ์กันอยู่เหย็งๆ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัว ไม่รู้ว่าพวกอาจารย์มันไปเลี้ยงนกเขาอยู่ที่ไหน

ต้องฝากบอกไปยัง อธิการบ่ดี คนที่ปากว่าตาขยิบปริ๊บๆคนนั้นว่า อย่าคิดว่าเป็นครูบาอาจารย์แล้ว จะพาชาวบ้านไปลงนรกขุมไหนก็ได้ เพราะประชาชนที่โง่เขลานั้น ถึงจะยังมีอยู่ ก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว

ส่วนใหญ่เขาหูตาสว่างโร่ รู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำเนียนเป็นพวกประชาธิปไตย แต่ใจเป็นทาสเผด็จการ ทรยศต่ออุดมการณ์ วิ่งโร่ไปรับใช้อำมาตย์ เพื่อที่จะได้เป็นกรรมการโน่นนี่ ไม่รู้กี่สิบตำแหน่ง สวาปามกันจนพุงปลิ้น

ส่วนคนเฒ่าคนแก่ ที่กำลังใกล้ตาย เจียนอยู่เจียนไปทุกขณะ ถ้ารู้ว่าพลังของประชาชนนั้น เข้มแข็งขนาดไหน ก็อย่าเพิ่งตกใจจนช็อคตายไปซะก่อน ขอให้ท่องเอาไว้ว่า

แม้วจ้างมา..แม้วจ้างมา จะได้นอนตายตาหลับ

วโรทาห์

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เสื้อแดงยื่นฟ้อง'ป๋าเปรม'กล่าวหาเพื่อไทยทรยศชาติ

คมชัดลึก : ทนายนปช.ยื่นฟ้องหมิ่น”ป๋าเปรมกล่าวหา”เพื่อไทย”ทรยศชาติ ทำถูกเกลียดชังเสียหาย

(19ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา10.00น.สถานีภูธรอำเภอเมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดี กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 จากกรณีที พล.อ.เปรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนง มีการกระจายเสียงไปทั่วประเทศว่าการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการทรยศต่อชาติ

โดยนายคารม ระบุว่า การพูดของ พล.อ.เปรม เป็นการใส่ความไม่เฉพาะแต่พล.อ.ชวลิต เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการใส่ความพรรคเพื่อไทย และสมาชิกของพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ทรยศต่อชาติ ซึ่งผู้ร้องทุกข์ก็เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ที่ทรยศต่อประเทศชาติ ซึ่งทำให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังและได้รับความเสียหายด้วย

อย่างไรก็ตาม นายคารม กล่าวต่อว่า การแสดงความคิดเห็นของ พล.อ.เปรม ยังเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 14 ที่ห้ามไม่ให้องคมนตรีแสดงการฝักใฝ่พรรคการเมืองอีกด้วย

จตุพร แฉ รมว.คลัง ถือหุ้นบริษัทที่เกาะเคร์แมน


จตุพร ประกาศเคลื่อนไหวต่อ 31 ต.ค. เดินสายนอกเขตพ.ร.บ.มั่นคง ตีปี๊บปมร้อนถล่มนอกสภา แฉ รมว.คลัง ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนเกาะเคย์แมน

"แดง"ตีปี๊บปมร้อนถล่มนอกสภา

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) นั้น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า หลังจากวันที่ 24 ตุลาคม จะจัดอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาที่ห้องประชุมใหญ่อิมพิเรียล ลาดพร้าว จุได้ 2,000 คน มี ส.ส.พท.มาร่วมอภิปรายด้วย เนื้อหาแต่ละเรื่องน่าสนใจ จะพูดถึงเรื่องทุจริตต่างๆ ของรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น. ถ้าเนื้อหาเยอะก็จะขยายไปถึงเช้าและอาจยาวจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม

"มีทั้งประเด็นโครงการของรัฐบาลทั้งชุมชนพอเพียง คุรุภัณฑ์สาธารณสุข การปลอมปนพันธุ์ข้าว เรื่องในกระทรวงศึกษาธิการ โครงการโดยพรรคภูมิใจไทยที่กระทำผิดรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อผลประโยชน์ที่คนไทยนึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำ รวมถึงอีกหลายประเด็นที่เป็นข้อมูลที่ไม่เคยนำมาใช้ในที่ใดมาก่อน อย่างกรณีซาอุดิอาระเบียที่ยังมีหลายมุมที่ไม่ได้พูดกันฟังแล้วน่าตกใจทั้งนั้น" นายจตุพร กล่าว


แฉขุนคลังถือหุ้น บ.เคย์แมน

นายจตุพร กล่าวว่า มุมทุจริตเป็นปัญหาระยะยาวของรัฐบาลไปแล้ว และเมื่อรัฐบาลนี้พ้นไป ยังจะทิ้งปัญหาให้ประเทศไว้มาก ข่าวทุจริตจึงไปกลบเรื่องราวที่รัฐบาลนำเสนอ ทำให้ภาพพจน์ซื่อสัตย์ของนายอภิสิทธิ์หมดไปแล้ว

"มีข้อมูลที่น่าสนใจที่จะอภิปรายคือ กรณีรัฐมนตรีคลังถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนในเกาะเคแมน ที่เป็นเกาะฟอกเงิน แล้วประเทศจะยุ่งแค่ไหน หากรัฐมนตรีคลังมีหุ้นเสียเอง แล้วยังมีการให้พี่ชายเป็นผู้เข้ามาบริหารจัดการในบริษัทดังกล่าวอีกด้วย โดยเป็นการไปจดทะเบียนที่เกาะเคแมน แล้วมาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เมื่อรัฐมนตรีคลังมีพฤติกรรมการอย่างนี้ ต้องมาชำแหละ" นายจุตพร กล่าวและว่าช่วงท้ายอภิปราย จะให้พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิงค์เข้ามาพูดวิพากษ์รัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม ถึงความล้มเหลวในมุมมองต่างๆ ที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถนำพาแก้ปัญหาได้


เดินสายจัดงานนอกเขต"มั่นคง"

นายจตุพร กล่าวว่า กิจกรรมต่อไปวันที่ 31 ตุลาคมกลุ่มเสื้อแดงจะจัดทำบุญให้กับนายนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท๊กซี่ที่เสียชีวิต บริเวณหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐซึ่งเป็นจุดที่เสียชีวิต การประกาศพร.บ.ความมั่นคงของรัฐบาลจะไม่กระทบการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในช่วงหลังจากนี้ เพราะใช้เพียงแค่เขตดุสิต แต่ตารางกิจกรรมต่างๆ อยู่นอกเขตดุสิตทั้งสิ้น อาทิ เขตวังทองหลาง เขตจตุจักร จึงไม่มีผล

นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนการประชุมสุดยอดอาเซียนที่หัวหิน ที่นายอริสมันต์ พูดบนเวทีว่าเตรียมไปยื่นหนังสือแก่ผู้นำอาเซียนที่หัวหินนั้น นายอริสมันต์คุยลักษณะว่าในวันที่ 21 ตุลาคมนี้จะมีการประชุมแกนนำนปช.อีกครั้งว่าจะเห็นอย่างไร ถ้าจะไปก็จะเป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือเพียงไม่กี่คน แต่จุดยืนคงเดิมไม่ขวางการประชุม และไม่มีการชุมนุมใดๆในเขตหัวหินและในพื้นที่ประชุม


พท.ยกย่อง"จิ๋ว"นักการเมืองดี

นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พท. กล่าวถึงผลสำรวจสวนดุสิตโพลระบุว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการที่ พล.อ.เปรม เตือน พล.อ.ชวลิต จะจุดกระแสทางการเมืองให้คุกรุ่นขึ้นมาอีกว่า "ที่จริงแล้วเรื่องของการเมืองก็ควรให้นักการเมืองคุยกับนักการเมืองด้วยกัน ท่านเองไม่ควรลงมาเล่นอย่างนี้ และการที่พล.อ.ชวลิตเข้าพท.ก็เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ ไม่ใช่เป็นการทรยศต่อชาติ"

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีปชป.หวังว่าพล.อ.ชวลิตจะสำนึกแล้วออกจากพท.นั้นคิดว่าพล.อ.ชวลิตเป็นนักการเมืองที่ดีคนหนึ่ง เป็นคนรับผิดชอบ เมื่อรู้ว่าทำอะไรที่ไม่ดี ก็ลาออกจากตำแหน่งเอง เหมือนสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่รู้ว่าไม่สามารถบริหารต่อไปได้ก็ลาออก ต่อไปนักการเมืองไทยควรจะมีลักษณะอย่างนี้เหมือนพล.อ.ชวลิต ซึ่งยกระดับการเมืองและนักการเมืองของไทยขึ้น


"สมชาย"ปลุกแดงชม.สู้2ปม

วันเดียวกัน เวลา 10.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานทอดกฐินที่วัดเมืองสาตร ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยบริษัท เอ็มลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และคณะกฐินสามัคคีกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ พร้อมสมาชิกเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 100 คน นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล และนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม รวมทั้งนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ได้ยอดเงินกฐินกว่า 4 แสนบาท ซึ่งนายสมชายกล่าวหลังทำพิธีทอดกฐินว่า ตั้งอธิษฐานจิตขอให้บ้านเมืองมีทิศทางไปในทางที่ดี และให้บ้านเมืองสงบสุข

นายเพชรวรรต กล่าวว่า นายสมชายกำชับให้กลุ่มเสื้อแดงกลมเกลียวเคลื่อนไหว มุ่งเน้นเดินหน้าสู้ 2 เรื่อง คือ เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเอาฉบับปี 2540 มาใช้ และนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาให้ได้


กลุ่ม51ต้านแดงเทียมจับมือพธม.

"นอกจากนี้ กลุ่มเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 ไม่เห็นด้วยกรณีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จ.เชียงใหม่ ตกลงจับมือกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่ม นำโดยนายมหวรรณ กะวัง ประธานชมรมคนรักทักษิณแห่งประเทศไทย และนายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ์ ประธานสมาพันธ์รากหญ้าภาคเหนือ และเตรียมออกแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์ลดความขัดแย้งในพื้นที่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ และลดผลกระทบด้านลบต่อการท่องเที่ยวปลายปี เพราะเห็นว่าไม่ใช่กลุ่มเสื้อแดงแท้จึงขอร้องให้ยุติ อย่าไปทำอะไร หากเกิดยังดื้อดึงแล้วเกิดมีกลุ่มเสื้อแดงที่ไม่เห็นด้วยอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่วุ่นวายขึ้นได้ จึงขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าเอาแดงไปหากิน" นายเพชรวรรต ระบุ


ออกหมายเรียกส.ส.พท.พะเยา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภ.เมืองพะเยา ได้อนุมัติหมายเรียก นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กับพวก 12 คน ซึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงพะเยาที่นำคนมาชุมนุมประท้วงการจัดเวทีทางการเมืองของกลุ่ม พธม.พะเยา ที่ร้านอาหารศรีสกุล เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2552 โดยนายชุมพล ลีลานนท์ ผู้ประสานงานตัวแทนกลุ่ม พธม.พะเยา เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความ ในข้อหาความผิดตามกฎหมายอาญา พ.ศ.2477 มาตรา 52 ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการเป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นแกนนำเสื้อแดงพะเยาบางคนได้รับหมายเรียกตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ในส่วนของนายวิสุทธิ์ทางตำรวจต้องทำเรื่องถึงสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเชิญตัวมาให้ปากคำต่อไป

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหมายเรียก แต่ทราบว่า พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 เร่งรัดให้ดำเนินคดีโดยเร็ว ยินดีต่อสู้ทุกข้อกล่าวหา

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณ บอกเงินถูกยึดหมด ไร้หนุนเสื้อแดงโจมตี


ไอเอ็นเอ็น : ‘ทักษิณ’ ให้สัมภาษณ์สื่อของอังกฤษ โจมตีกล่าวหาองคมนตรีแทรกแซงการเมือง พร้อมระบุไร้เงินหนุนกลุ่มเสื้อแดง

“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ให้สัมภาษณ์ สื่อต่างประเทศระบุ วิจารณ์องคมนตรีเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เข้าแทรกแทรงทางการเมือง ขณะที่ยืนยัน ไม่มีเงินมากพอหนุนกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมทางการเมือง

สื่อต่างประเทศเผยแพร่ถ้อยคำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตร โดยบางช่วงบางตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้ ถึงเวลาที่จะต้องประนีประนอมและยอมรับประชาธิปไตยมากกว่านี้ โดยบรรดาผู้อยู่เบื้องหลังก็ควรจะวางมือและปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการปกครองในประเทศไทยนั้น ส่วนการวิพากย์ วิจารณ์ องคมนตรี ว่าควรลาออกนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนเองโจมตีพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม เพราะสภาองคมนตรีเข้าแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งตนเองเพียงแต่ต้องการทำทุกอย่างให้เคลียร์เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าตนเองไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะไปสนับสนุนให้เกิดการชุมนุมเนื่องจากทรัพย์สินส่วนใหญ่นั้นถูกยึดอยู่ในประเทศ

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พท.รุมถล่ม ป๋า จี้วางตัวเป็นกลาง โต้เข้าพรรคไม่ใช่ผู้ทรยศชาติ ฟื้นฉายานักฆ่าเจ้าพระยา

พท.ข่มเปิดตัว "พล.อ.-พล.ต.ต."ซบอีก ชักแถวโต้"เปรม"คนร่วมงานเพื่อไทย ไม่ใช่ผู้ทรยศชาติ ซัดเป็นผู้ใหญ่วางตัวไม่เป็นกลาง ชอบชี้นำ ตท.10 เพื่อน"แม้ว"ไม่แปลกใจฉายา นักฆ่าลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชี้หากใครไม่เอาด้วยจะทำทุกอย่างเพื่อดิสเครดิต

พท.โต้คนร่วม"ไม่ใช่ทรยศชาติ"

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะผู้บริหารพรรค ร่วมให้การต้อนรับพร้อมแถลงข่าวเปิดตัว พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) เข้าสมัครเป็นสมาชิก พท. เมื่อช่วงสายวันที่ 16 ตุลาคม ณ ที่ทำการ พท. ในการเปิดตัวครั้งนี้ คำพูดของนายยงยุทธคล้ายเป็นการตอบโต้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกลายๆ โดยระบุ ผู้เข้าร่วมงานกับ พท.ไม่ใช่คนทรยศชาติ ภายหลังจากที่ พล.อ.เปรมระบุ เคยส่งคนไปเตือน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก่อนเข้าร่วมงานกับ พท.ให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ

นายยงยุทธกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ พล.อ.จิรเดชมาร่วมงาน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าพรรครักชาติ รักสถาบัน ไม่มีใครคิดทรยศต่อชาติแม้ผงธุลีเดียว และยืนยันว่าผู้เข้ามาร่วมงานกับ พท.ไม่ใช่ผู้ทรยศต่อชาติ

พล.อ.จิรเดชกล่าวว่า ตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเพราะอยากใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยเหลือบ้านเมือง เหตุผลที่เลือก พท.เนื่องจากมีเพื่อนสนิทและผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในพรรคหลายคน และได้สัมผัสว่าประชาชนให้การยอมรับนโยบายและพรรคสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น อีกทั้งญาติพี่น้องส่วนใหญ่ก็อยากให้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยและจะนำความรู้ความสามารถมาทำประโยชน์ให้ดีที่สุด

"จิรเดช"ขอเป็นกาวใจกองทัพ-พท.

"การที่ผมเป็นทหารที่อยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดคงจะเป็นประโยชน์ ผมจะนำความรู้สึกของทหารมาแลกเปลี่ยนสร้างความเข้าใจกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย และจะนำสิ่งที่ได้สัมผัสจากพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับน้องๆ ทหารที่ยังรับราชการอยู่ให้เขาได้เข้าใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างความสมานฉันท์ เรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ผมยืนยันว่าผมมีความจงรักภักดี ชีวิตการทำงานของผมมีภารกิจเกี่ยวกับสถาบันมาโดยตลอด" พล.อ.จิรเดชกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอยู่ร่วมคณะปฏิวัติและมาสมัครเป็นสมาชิก พท.เหมือนกับว่าได้กลับลำ 180 องศา พล.อ.จิรเดชกล่าวว่า ช่วงนั้นรับราชการเป็นรองแม่ทัพน้อย ไม่ได้เป็นผู้นำปฏิวัติ เมื่อเป็นข้าราชการทหารก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย

พล.อ.จิรเดชกล่าวตอบคำถามถึงคำพูด พล.อ.เปรม ที่เคยเตือน พล.อ.ชวลิต ว่า "ถึงแค่ท่าน ไม่ถึงผม" เมื่อถามว่า ที่บอกว่าต้องการสร้างความเข้าใจระหว่างทหารและ พท.นั้นหมายถึงเรื่องใด พล.อ.จิรเดชกล่าวว่า ทหารบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจและต้องการคำอธิบาย เพราะบางเรื่องเมื่อได้รับฟังต่อๆ กันมาก็คิดว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็อยากจะเป็นผู้ทำความเข้าใจ เมื่อถามย้ำว่า ทหารมองพรรคเพื่อไทยอย่างไร พล.อ.จิรเดชนิ่งไปสักพักก่อนตอบว่า บางครั้งก็มองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่หมิ่นเหม่ต่อบางเรื่อง ซึ่งไม่ได้หมายถึงนโยบายพรรค แต่หมายถึงตัวบุคคลหรือสมาชิกที่เกี่ยวข้อง ก็อยากจะช่วยทำความเข้าใจ

เมื่อถามว่า ก่อนตัดสินใจได้ปรึกษา พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. และแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเคยเป็นผู้บังคับบัญชาก่อนหรือไม่ พล.อ.จิรเดชกล่าวว่า ได้พูดคุยสอบถามสารทุกข์ทั่วไปบ้าง ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

พล.ต.ต.ซบพท.ท่อง"ไม่ทรยศชาติ"

ต่อมาเวลา 10.30 น. คณะผู้บริหาร พท. แถลงเปิดตัวนายวิเชียร รัตนะพีระพงศ์ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน และ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเป็นสมาชิกพรรค

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า เป็นคนใต้แต่กำเนิด แต่ไม่ยอมรับการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ดังนั้น จึงเลือกมาสมัคร พท.เพื่อทำงานให้บ้านเมือง และยืนยันว่าไม่ได้ทรยศชาติบ้านเมืองแต่รักชาติ โดยเฉพาะได้ยึดสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันอันสูงสุดตลอดไป อย่างไรก็ตาม จะขอเป็นหัวหอกในการทาบทามเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ในสายตำรวจให้เข้ามาร่วมงานกับ พท. โดยจะใช้งานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ที่ จ.กาญจนบุรี

เด็กจิ๋วเผยคำ"ลูกป๋า"เตือนซบพท.

แหล่งข่าวจากแกนนำ พท.ใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต แจ้งว่า ก่อนที่ พล.อ.ชวลิตแถลงข่าวเปิดตัวเข้าเป็นสมาชิก พท. เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม เวลา 09.00 น. ได้มีโทรศัพท์นายทหารใกล้ชิดกับ พล.อ.เปรม หรือที่เรียกกันว่า ลูกป๋าคนหนึ่ง และมีความสนิทสนมกับ พล.อ.ชวลิต ได้โทร.พูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต เพื่อขอให้ทบทวนการสมัครเข้าเป็นสมาชิก พท. โดยระบุว่า "คุณทำอย่างนี้คุณจะทรยศชาติหรือ"โดย พล.อ.ชวลิตได้ตอบกลับไปว่า "ฝากไปบอกด้วยว่าผมรับทราบ" จากนั้นก็วางโทรศัพท์และเดินหน้าไปสมัครเข้าเป็นสมาชิก พท.

พท.ซัดชี้นำ-จี้ทำตัวเป็นกลาง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. แถลงว่า ขอกราบเรียนไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานองคมนตรีโดยตามกฎหมายเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองไม่ได้ แต่ภาพที่เห็นวันนี้ประกอบกับบุคคลที่ยืนเป็นวอลเปเปอร์อยู่เบื้องหลัง พล.อ.เปรมวันแถลงข่าว เป็นบุคคลทั้งที่เป็นอดีตผู้นำและผู้นำของกองทัพในปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สังคมประชาธิปไตยมีความกังวลจากการที่ระบอบประชาธิปไตยถูกแทรกแซง ขอเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรทำตัวเป็นกลางไม่ชี้นำทางการเมือง

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พท. กล่าวว่า เป็นมุมมองของ พล.อ.เปรมคงเห็นว่า พท.ทรยศต่อชาติ ซึ่งตนไม่สามารถไปว่ากล่าวได้ เพราะ พล.อ.เปรมอาจจะได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องคิดว่า พท.เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ดี ทั้งนี้ ยืนยันได้ว่าการที่ พล.อ.ชวลิตมองว่าการที่มาสังกัด พท.นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อชาติ ซึ่งสมาชิก พท.ทุกคนมีความจงรักภักดี

เพื่อนตท.10ไม่แปลกใจฉายา"ป๋า"

พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี พท. เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เมื่อ พล.อ.เปรม พูดเช่นนี้ตนมองว่า พล.อ.เปรมได้ปิดทางเจรจาแล้ว ขนาด พล.อ.ชวลิตไปขอขมาก่อนบวชยังไม่ให้เข้าพบ
พล.ท.มะยังกล่าวอ้างถึงบุคคลบางคนที่มีฉายา "นักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา" เพราะหากลูกน้องคนไหนไม่ไปด้วยก็จะทำทุกอย่างเพื่อดิสเครดิต แต่วันนี้ ต้องถามว่า คำว่า "รัฐบุรุษ" มีคนเชื่อถือแค่ไหน

เมื่อถามว่า เหตุใดอดีตนายทหารและนายตำรวจจึงเลือกสังกัด พท.มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ พล.ท.มะกล่าวว่า แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์และทหารคนละแนวทางกัน เพราะทหารมีความจริงใจแต่พรรคเก่าแก่มีความจริงใจหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะขนาด พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีต ส.ส.สัดส่วน ยังลาออกจากพรรคเพราะอยู่ประชาธิปัตย์ไปไม่ได้แสดงความสามารถจึงกระโดดออกมาดีกว่า วันนี้ พท.เปิดรับนายทหารและนายตำรวจไม่จำกัดจำนวน ซึ่งทุกคนมาทำงานด้วยหัวใจไม่ต้องการลาภยศสรรเสริญใดๆ เพราะเห็นแก่บ้านเมือง

"วันนี้มีนายตำรวจและนายทหารติดต่อผ่านมายังผมเป็นจำนวนมากว่าต้องการเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เฉพาะ ตท.10 เท่านั้น มีแสดงความจำนงตั้งแต่ ตท.5 ตท.6 จนถึง ตท.10 ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการกัน" พล.ท.มะกล่าว

แกนแดงจี้พท.ประณาม"เปรม"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พท. แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวว่า การที่ พล.อ.เปรมออกมาพูดแบบนี้แสดงว่าหาก พล.อ.ชวลิตไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นๆ พล.อ.เปรมจะไม่ออกมาพูดเช่นนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งวันนี้ พล.อ.เปรม คงคิดว่าชาติคือ พล.อ.เปรม ซึ่งคนอื่นไม่สามารถไปอยู่ฝ่ายตรงข้ามได้ ถ้าอย่างนี้ พท.จะบอกบ้าง คนที่จะเข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์นั้นจะต้องพิจารณาให้ดีเช่นกัน พล.อ.เปรมควรเคารพประชาชนที่เลือกพท.มา และพรรคก็เป็นพรรคใหญ่ที่มีประชาชนเลือกเข้ามามากที่สุดในขณะนี้ การที่ พล.อ.เปรมพูดอย่างนี้เท่ากับเป็นการกระทำที่เกินหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ในวันอังคารที่ 20 ตุลาคม พรรคควรขอมติ ส.ส.ของพรรคออกแถลงการณ์ประณามการออกมาเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม เพราะการออกมาเคลื่อนไหวโดยมีขุนทหารล้อมรอบ ทำตัวเหมือนเป็นจอมทัพเสียเอง

ปชป.ได้ทียกคำพูด"ป๋า"แขวะ"จิ๋ว"

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.เปรมคิดว่าเป็นเรื่องที่เหลืออดเหลือทนต่อบุคคลบางกลุ่มที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง โดยออกมาบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.เปรมนั้น อยากให้สังคมได้ไปอ่านและไตร่ตรองดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องพระสยามเทวาธิราช คิดว่าทุกคนที่เป็นคนไทยก็เชื่อ และคิดว่าผลการกระทำของคนบางกลุ่มที่ทำลายชาติบ้านเมืองในวันนี้ พระสยามเทวาธิราชคงจะจัดการ

"สิ่งที่ พล.อ.เปรมได้พูดถึง พล.อ.ชวลิต ผมคิดว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ที่ให้เกียรติ พล.อ.ชวลิตเป็นอย่างยิ่ง โดยยกให้ พล.อ.ชวลิตในฐานะที่เคยเป็นลูกน้องเก่าเหมือนเพื่อน และคำพูดของ พล.อ.เปรมก็ไม่ได้ทำให้ พล.อ.ชวลิตเสียหายแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ พล.อ.ชวลิตควรที่จะนำคำเตือน พล.อ.เปรมไปไตร่ตรองดู เพราะ พล.อ.ชวลิตมีวันนี้มาได้ และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จนได้รับตำแหน่งสูงสุดทางทหาร ก็เพราะอาศัยใบบุญของ พล.อ.เปรม และเมื่อ พล.อ.ชวลิตเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย ก็อยากให้ใช้ความเป็นผู้นำพรรค เตือนสติคนรอบข้องและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่กล่าวพาดพิงทำให้ พล.อ.เปรมเสียหาย" นายเทพไทกล่าว

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เพื่อไทยเปิดตัว พล.อ.จิรเดช อดีดรอง ผบ.ทบ.ยุค คมช.


มติชน : เพื่อไทยเปิดตัวเพื่อนร่วม ตท.10 -พล.อ.จิรเดช อดีตรองผบ.ทบ.ยุค คมช.เข้าพรรค เมินคำพูด “ป๋าเปรม” ไม่ถึงตัว ยืนยันจงรักภักดี พร้อมรับงานสร้างความเข้าใจระหว่างกองทัพและพรรคเพื่อไทย “ยงยุทธ” กร้าวคนเข้าพรรคเพื่อไทยไม่มีใครคิดทรยศชาติแม้ผงธุลี ชี้ปักหลักมั่นคงได้

ส.ส.ปชป.ไม่หวั่น”คนดัง”ตบเท้าเข้า พท.เย้ยเป็นตัวของตัวเองแค่ไหน

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ข้าราชการเกษียณอายุ และคนบันเทิง สมัครเข้าพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก ว่า เป็นเรื่องดีและเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ที่ต้องหาคนมาช่วยงานพรรค ซึ่งคนที่สมัครคงพิจารณาแล้วว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม แต่อยากถามว่าเร็วไปหรือไม่เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงเลือกตั้ง และไม่รู้สึกหนักใจ ถึงอย่างไรก็อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และคงต้องดูว่าคนที่มาสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย จะเป็นตัวของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน กล้าต่อสู้กับความไม่ถูกต้องไม่อยุติธรรมได้หรือไม่ หรือต้องทำตามพรรคโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม ทุกคนที่ไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ก็คงรู้กันอยู่ว่าพรรคนี้ประกาศชัดเจนว่า ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษชายหนีคดี

ด้านนายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. กล่าวถึงกรณีที่นายสมบัติ เมทะนี ประกาศจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดียวกับนายธนา ว่า ยินดีที่มีคนเสนอตัวมาเป็นนักการเมือง จะได้เป็นตัวเลือกให้ประชาชนได้พิจารณา ส่วนนายสมบัติเป็นอดีตนักแสดงจะสามารถดึงคะแนนเสียงมาให้พรรคเพื่อไทย เพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าการเป็นดารา เป็นคนที่ประชาชนรู้จัก และได้รับความนิยมจากประชาชนมาก่อน แต่งานการเมืองไม่เหมือนกับงานแสดง เพราะต้องทุ่มเททำงาน ดูแลผลประโยชน์ให้ประชาชนและทำหน้าที่นิติบัญญัติ ท้ายที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับการาตัดสินใจของประชาชน

เปิดตัว พล.อ.จิรเดช เข้าพรรคเพื่อไทย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรค น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่และคนสนิทนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ร่วมให้การต้อนรับพร้อมแถลงข่าวเปิดตัว พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีตรองผบ.ทบ.ในยุค คมช.และอดีตแม่ทัพภาค 3 เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย

หน.พรรคชี้เพื่อไทยเป็นบ้านปักหลักมั่นคง

นายยงยุทธ กล่าวว่า ช่วงเวลานี้พรรคเพื่อไทยเป็นบ้านที่ลงหลักปักฐานมั่นคง ใครมาอยู่อาศัยก็รู้สึกอบอุ่น มั่นคงและเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่งไม่ใช่แค่ผู้อยู่อาศัย โดยพรรคเพื่อไทยรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่พล.อ.จิรเดชมาร่วมงาน ทั้งนี้ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยรักชาติ รักสถาบัน ไม่มีใครคิดทรยศต่อชาติแม้ผงธุลีเดียว และยืนยันว่าท่านผู้เข้ามาร่วมงานพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ผู้ทรยศต่อชาติ

จากนั้นพล.อ.จิรเดช กล่าวเปิดใจว่า เหตุผลของการเข้าสู่การเมือง เพราะคิดว่า 30 ปีที่รับราชการมานั้นยาวนานพอสมควร ในช่วงที่คนไทยใช้กำลังต่อสู้กันเองเพราะขัดแย้งทางอุดมการณ์ตนก็เริ่มชีวิตราชการพอดีแต่สุดท้ายก็จบลงด้วยการให้อภัยกัน และเมื่อทหารเข้ามาเกี่ยวข้องทางการเมืองก็ได้รู้ได้เห็นหลายครั้ง จนเมื่อเกษียณอายุราชการได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนฝูงจากพรรคเพื่อไทยหลายคน แต่การพูดคุยกันอยู่เพียงข้างนอกก็ช่วยอะไรไมได้ จึงตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเพราะอยากได้ใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยเหลือบ้านเมือง สำหรับเหตุผลที่เลือกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีเพื่อนสนิทและผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ในพรรคเพื่อไทยหลายคน และได้สัมผัสว่าประชาชนให้การยอมรับนโยบายและพรรคสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น อีกทั้งญาติพี่น้องของตนส่วนใหญ่ก็อยากให้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยและจะนำความรู้ความสามารถมาทำประโยชน์ให้ดีที่สุด

ยอมรับเป็นแม่ทัพน้อยต้องปฏิบัติตามคำสั่ง

“การที่ผมเป็นทหารที่อยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดคงจะเป็นประโยชน์ ผมจะนำความรู้สึกของทหารมาแลกเปลี่ยนสร้างความเข้าใจกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย และจะนำสิ่งที่ได้สัมผัสจากพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกับน้องๆ ทหารที่ยังรับราชการอยู่ให้เขาได้เข้าใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างความสมานฉันท์ เรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ผมยืนยันว่าผมมีความจงรักภักดี ชีวิตการทำงานของผมมีภารกิจเกี่ยวกับสถาบันมาโดยตลอด ” พล.อ.จิรเดช กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการอยู่ร่วมคณะปฏิวัติและมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเหมือนกับว่าได้กลับลำ 180 องศา พล.อ.จิรเดช กล่าวว่า ช่วงนั้นตนรับราชการเป็นรองแม่ทัพน้อย ไม่ได้เป็นผู้นำปฏิวัติ เมื่อเป็นข้าราชการทหารก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย

ยอมรับบางคนในพรรคเพื่อไทยหมิ่นเหม่ต่อบางเรื่อง

เมื่อถามว่าคำพูดที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษฝากถึงพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีจะกระทบถึงตัวท่านด้วยหรือไม่ พล.อ.จิรเดช กล่าวว่า ถึงแค่ท่าน ไม่ถึงผม เมื่อถามว่าที่บอกว่าต้องการสร้างความเข้าใจระหว่างทหารและพรรคเพื่อไทยนั้นหมายถึงเรื่องใด พล.อ.จริเดช กล่าวว่า ทหารบางคนก็อาจจะไม่เข้าใจและต้องการคำอธิบาย เพราะบางเรื่องเมื่อได้รับฟังต่อๆกันมาก็คิดว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ตนก็อยากจะเป็นผู้ทำความเข้าใจ เมื่อถามย้ำว่าทหารมองพรรคเพื่อไทยอย่างไร พล.อ.จิรเดช นิ่งไปสักพักก่อนตอบว่า บางครั้งก็มองว่าพรรคพื่อไทยเป็นพรรคที่หมิ่นเหม่ต่อบางเรื่อง ซึ่งไม่ได้หมายถึงนโยบายพรรค แต่หมายถึงตัวบุคคลหรือสมาชิกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็อยากจะช่วยทำความเข้าใจ

เมื่อถามว่าก่อนตัดสินใจได้ปรึกษาพล.อ.สะพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช.และแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งเคยเป็นผู้บังคับบัญชาก่อนหรือไม่ พล.อ.จิรเดช กล่าวว่า ได้พูดคุยสอบถามสารทุกข์ทั่วไปบ้าง ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว และยังไม่ได้พูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ประกาศตัวหัวหอกประสานตท.10 ร่วมงานพท.

ต่อมาเวลา 10.30 น.คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทยได้เปิดแถลงเปิดตัวนายวิเชียร รัตนะพีระพงศ์ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน และพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง อดีตรองผู้บัญชาการภูธรภาค 8 เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเป็นสมาชิกพรรค ทั้งนี้พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า ตนเป็นคนใต้แต่กำเนิด แต่ไม่ยอมรับการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ดังนั้นจึงเลือกมาสมัครพรรคเพื่อไทยเพื่อทำงานให้บ้านเมือง และยืนยันว่าไม่ได้ทรยศชาติบ้านเมืองแต่รักชาติ โดยเฉพาะตนได้ยึดสภาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันอันสูงสุดตลอดไป อย่างไรก็ตามตนจะเป็นหัวหอกในการทาบทามเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 ในสายตำรวจให้เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยจะใช้งานเลี้ยงเกษียณอายุราชการ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ที่ จ.กาญจนบุรี

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"ป๋าเปรม"เปิดใจยังเป็นเพื่อน"บิ๊กจิ๋ว"ปัดว่าเป็นคนทรยศชาติ แจงแนะ'ไตร่ตรองให้รอบคอบ'เข้าเพื่อไทย

มติชน : เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สโมสรทหารบกถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่ 13 ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีโอกาสเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตครอบครัวมุสลิมในกรุงเทพ ซึ่งรุ่นนี้มีเยาวชนเข้าร่วมจำนวน 239 คน ทั้งนี้ บรรยากาศการเปิดโครงการเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และคณธผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมพิธีพร้อมเพียง อาทิ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาเข้าร่วมพิธีตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก

จากนั้น พล.อ.เปรม เปิดใจถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ กล่าวพาดพิงถึงตัวพล.อ.เปรม ว่า ” จิ๋ว กับผม เป็นเพื่อนรักกันมานานหลายปีแล้ว และต่างคนก็ต่างทำงานให้กันและกันมาดังนั้นความเป็นเพื่อนระหว่าง ผมกับจิ๋วคงยังอยู่ ฉะนั้นที่มีคนพูดว่า ผมก็ไม่รู้ว่าใครพูดก็ไม่ทราบ อาจจะเป็นจิ๋วพูดเองก็ได้ ว่าเขาไปลาบวช แล้วผมก็ไม่ให้ลา อันนั้นมันไม่ใช่เพื่อนแล้วหละ เมื่อเพื่อนจะไปลาบวชก็จะต้องให้อโหสิกรรม เรื่องจริงๆ ผมไม่ทราบ ว่าเขาจะบวชจนปัจจุบันยังไม่รู้ว่า เขาบวชที่ไหนเมื่อไหร่

ดังนั้น ผมขอจะเรียนความจริงให้ทราบว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ส่วนเรื่องที่มีคนไปเขียนลงในหนังสือพิมพ์ในทำนองว่า ผมไปว่าเขาเป็นคนทรยศต่อชาติอันนี้ มันก็ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ถูกต้องคือ วันนั้นก่อนที่ จิ๋ว จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยผมก็ให้คน ไปบอกเขาว่า จะทำอะไรก็ขอให้คิดให้รอบคอบ ไตร่ตรองให้รอบคอบ ซึ่งผมใช้คำว่า “ไตร่ตรองให้รอบคอบ” ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นการกระทำที่เป็นการทรยศต่อชาติ นี่เป็นข้อความที่ผมสื่อไป ไปถึงจิ๋ว ในตอนเช้าวันนั้น และผู้สื่อข่าวนี้ เขาก็มายืนยันว่า เขาสื่ออย่างที่ผมพูด เพราะว่าเขาจดที่ผมขอให้เขาสื่อ เพราะฉะนั้นผมไม่ได้กล่าวหาว่า เขาเป็นคนไม่ดีทรยศต่อชาติบ้านเมือง มันไม่ใช่

พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า มีเรื่องที่เกี่ยวกับ จิ๋ว ที่สำคัญมีอยู่แค่นี้ ผมขอย้ำว่า ความเป็นเพื่อนมันยังเป็นอยู่ตลอดไป คุณ(สื่อมวลชน) เข้าใจของความเป็นเพื่อนแค่ไหน ก็โปรดคิดเอาเอง เราเป็นเพื่อนกัน เคยทำงานด้วยกัน งานสำคัญ ๆ ก็เคยทำด้วยกัน และก็จบจากสถาบันเดียวกัน ที่เคยให้คำสัตย์ปฏิญาณเหมือนกันด้วย เมื่อเพื่อนจะทำอะไรผมก็เตือน เพราะผมคิดว่า มีสิทธิ์ที่จะเตือนได้ ก็เตือนเขาไปด้วยความเป็นเพื่อน ด้วยความปรารถนาดี ไม่ได้มีความต้องการที่ตำหนิ จิ๋ว เลย ซึ่งวันนี้ผมอยากพูดแค่นี้

เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ชวลิตมาพบในฐานะเพื่อน และมาพูดคุยกันสามารถเข้ามาพบได้ใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า ” อ้าว ! ได้แน่นอน แต่ต้องเวลาที่เหมาะ และต้องไม่พูดเรื่องการเมือง เพราะผมจะไม่พูดเรื่องการเมือง