--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

นาทีสุดท้ายของชายสะพายกล้อง

เหตุใดประเทศชาติจึงมาถึงวันนี้



ที่มา.VOICE TV
******************************************************

ทห.รุกประชิดแนวนปช.แยกวิทยุ-สื่อถูกลูกหลงเจ็บ ปชช.ตาย 7


การปะทะทหาร-นปช.ที่ลุมพินี ฝั่งไนท์พลาซ่า มีผู้บาดเจ็บหลายราย ทั้งประชาชน แนวร่วมนปช.และสื่อมวลชน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทและโรงพยาบาลตำรวจ ว่าจากเหตุปะทะหลายจุดตลอดวัน ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 7 คน บาดเจ็บ 101ราย อยู่ห้อง ICU 9 ราย

หลังจากทหารยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพื่อเป็นการเริ่มมาตรการขอคืนพื้นที่แยกวิทยุที่กลุ่มคนเสื้อแดงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้และพยายามปิดล้อมเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในสวนลุมไนท์บาร์ซา พร้อมกันนั้น ยังได้เห็นกลุ่มควันดำออกมาจากภายในรั้วสวนลุมพินีในบริเวณใกล้เคียง ขณะที่ผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณแยกวิทยุได้ล่าถอยออกไปจากจุดดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรบริเวณถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกวิทยุจนถึงแยกศาลาแดง โดยสามารถผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่และเจ้าหน้าที่เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าวไว้แล้ว พร้อมทั้งกันบุคคลทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวออกจากพื้นที่ ขณะที่มีเสียงดังคล้ายปืนดังขึ้นเป็นระยะตลอดเวลา

นอกจากนั้น มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้พยายามจะปิดการจราจรทั้งขาเข้าและขาออกยนนถนนสีลม และแยกศาลาแดงถึงถนนอังรีดูนังด้วย

ส่วนควันดำที่ออกมาจากสวนลุมพินีนั้น ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ รายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีที่จอดไว้ภายในสวนลุมฯ

ล่าสุด ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้เผารถบัสของตำรวจจากต่างจังหวัดที่มาปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ โดยรถบัสคันดังกล่าวจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม สน.ลุมพินี บนถ.วิทยุ ฝั่งขาเข้า ล่าสุดหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของได้ใช้น้ำดับเพลิงแล้ว สภาพรถถูกไฟไหม้จนหลังคาด้านบนเหลือแต่โครงเหล็ก

ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณแยก ถ.วิทยุ หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารกดดันนั้น ได้ถอยร่นไปอยู่ที่แยกสารสินแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารสามารถยึดพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าวได้ ขณะที่มีการตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือโดยรอบบริเวณใกล้เคียงแล้ว
ที่มา.VOICE TV
***************************************************

เส้นทางชีวิตเสธฯแดง



ที่มา.VOICE TV
****************************************************

วีรชนแท็กซี่เสื้อแดง ชาติชาย ชาเหลา



ที่มา.VOICE TV
****************************************************

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

จาตุรนต์ ชี้ ยกเลิกวันยุบสภาผิดร้ายแรง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตยกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง การเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับนปช.เพื่อหาทางออกจากวิกฤตว่า วิกฤตการเมืองที่ดำรงอยู่ขณะนี้เกิดจากความไม่เป็นประชาธิปไตยและปัญหา 2 มาตรฐานที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงเสนอทางออกด้วยการเรียกร้องให้ยุบสภา ส่วนรัฐบาลได้เลือกใช้วิธีการการสลายการชุมนุมด้วยกำลังอาวุธภายใต้ข้ออ้างว่าขอพื้นที่คืน เหตุการณ์จึงบานปลายมาถึงทุกวันนี้

เมื่อรัฐบาลเห็นว่าไม่สามารถใช้กำลังสลายการชุมนุมได้ จึงเปลี่ยนมาเสนอแผนปรองดองตามคำเรียกร้องของหลายฝ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ สังคมต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนช่วยแก้ปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะเดียวกันการใช้กฎหมาย รักษากฎหมายต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ต้องทำให้ระบบยุติธรรมของประเทศไม่เป็นสองมาตรฐาน แล้วให้ทุกฝ่ายเข้าสู่ระบบยุติธรรมอย่างเท่าเทียม

ในช่วงวันสองวันนี้มีแนวโน้มว่าสังคมไทยอาจจะถลำลึกสู่วิกฤตที่รุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเพราะการแก้ปัญหาที่ถูกทางและการเจรจาประนีประนอมที่มีมาอย่างต่อเนื่องกำลังจะสะดุดหยุดลงเสียแล้ว

สิ่งที่นายกฯอภิสิทธิ์กำลังทำอยู่จะเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงชนิดที่จะเสียใจตลอดไป อยากเสนอให้นายกฯทบทวนท่าทีล่าสุดของตนเสียใหม่ นายกฯต้องแสดงความเป็นผู้ใหญ่และจริงใจ เลิกตุกติกและทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับการปรองดอง นายกฯต้องเลิกล้มความคิดที่จะซื้อเวลาให้นานออกไปกว่าที่พูดไว้ โดยควรจะประกาศให้ชัดเจนว่าจะยุบสภาตามที่ได้ประกาศไว้อย่าโยกโย้ บิดพลิ้วต่อไป เลิกล้มแผนตัดน้ำตัดไฟ และการใช้รถถังยานเกราะกับกองกำลังอาวุธเข้าคุกคามหรือสลายการชุมนุม รวมทั้งการเตรียมที่คุมขังแกนนำนปช.ทั้งๆที่ได้รับปากไว้แล้วในการเจรจาว่าจะไม่คัดค้านการประกันตัว สิ่งที่รัฐบาลและศอฉ.กำลังทำอยู่ มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ที่มา.เนชั่น
*****************************************************

'เสธ.แดง'แถลง จวกแกนนำ หากินกับซากศพ


พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง

"สายอหิงสา-สายฮาร์ดคอร์" แตก "เสธ.แดง" ร่อนแถลงการณ์จวกแกนนำ นปช.หากินกับซากศพ 10 เม.ย. ระบุรู้กันกับคนในรัฐบาล ยื่นเงื่อนไขให้ "เทพเทือก" มอบตัว ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเจตนารมณ์ของคนเสื้อแดงที่ให้รัฐบาลยุบสภา..

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ต่อการชุมนุมของเสื้อแดง โดยแถลงการณ์ระบุว่า เรียนพี่น้อง นปช.แดงทั้งแผ่นดินทุกท่าน ตามที่พี่น้องเสื้อแดงทุกจังหวัด ได้เดินทางมาชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ร่วมกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ที่หน้าเวทีผ่านฟ้าฯถนนราชดำเนินเพื่อเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรียุบสภาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2553 นั้น

ต่อมาวันที่ 10 เม.ย.เวลากลางวันต่อเนื่องกลางคืน นายกรัฐมนนตรี รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) คุมทหาร ตำรวจ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งขณะนั้นได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) บางเขน เพื่อติดตามสถานการณ์ม็อบเสื้อแดง แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ นายกรัฐมนตรีได้สั่งใช้กำลังทหารประจำการ 4 กองพล รวม 50 กองร้อย ไม่มีตำรวจ เข้ากวาดล้างประชาชนด้วยอาวุธสงคราม โดยไม่ทำจากเบาไปหาหนัก ไม่มีการแจ้งเตือน ประชาชนเสื้อแดง ไม่ได้ก่อจลาจล เผาระเบิด ทำลาย ยิงปืนขึ้นฟ้า แม้แต่สักนัด ยังคงนั่งฟังปราศัยอย่างสงบ

ทหารโดยคำสั่งของ ศอฉ.ได้ใช้กำลังพร้อมอาวุธสงครามเต็มอัตราศึกเข้ากวาดล้างประชาชน เคลื่อนกำลังบรรจบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกอบด้วย กองพลทหารราบที่ 1 ฯ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ มีหน้าที่เข้าตีถนนข้าวสาร มุ่งหน้าคอกวัว กองพลทหารม้าที่ 2 ฯ.ใช้รถลำเลียงสายพานที่ 85 เข้าตีทางถนนดินสอ มุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กองพลหารราบที่ 9 ฯ เข้าทางสะพานพระปิ่นเกล้าฯ มุ่งหน้าเข้าตีสะพานผ่านฟ้าฯ แต่ประชาชนมือเปล่าเข้าต่อต้าน ประชาชนไม่รู้เรื่อง แกนนำ นปช.ยังสั่งให้คืนผ่านฟ้าฯ ไปอยู่ราชประสงค์อย่างเดียว แต่การสู้รบยังดำเนินการต่อไป จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นทหาร 6 คน พลเรือน 20 คน บาดเจ็บ 230 คน ทหารล่าถอยเข้ากองบัญชาการกองทัพบก

การที่กองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาช่วยเสื้อแดงรบกับทหาร ไม่เกี่ยวกับประชาชนเสื้อแดงใดๆ เพราะอยู่นอกพื้นที่ชุมนุม ไม่มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย คนเสื้อแดงก็สู้อยู่แล้ว กองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาเอง ไม่มีใครเชิญ ซึ่งรัฐบาลทหารต้องไปตามหากันเอง

แถลงการณ์ พล.ต.ขัตติยะ ระบุต่อว่า ต้นเดือน พ.ค. รัฐบาลได้เสนอโรดแม็ปแผนปรองดอง 5 ข้อ ปรากฏว่าแกนนำยอมรับรีบขึ้นเวทีเฮกันลั่น แต่เสธ.แดงฟังแล้วไม่ขำ ไม่ตลก ซึ่งมีการซูเอี๋ยรู้กันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับแกนนำ นปช.บางคนที่ไปเจรจากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ จนเป็นข่าวใหญ่ "เห็นคนเสื้อแดง เป็นควายหลอกให้มานอนกลางถนน เพื่อยุบสภา แผนปรองดอง 5 ข้อไม่มีข้อไหนที่บอกว่ายุบสภา" แถลงการณ์ระบุ

แถลงการณ์ของ พล.ต.ขัตติยะ ยังบอกว่า หลังจากนั้น พล.ต.ขัตติยะ จึงเริ่มแถลงข่าวครั้งแรกให้แกนนำยื่นเงื่อนไข 4 ข้อกับรัฐฐาลคือ 1. ต้องยุบสภา ปราศจากเงื่อนไข 2. นายสุเทพ ต้องโดนหมายจับกรณีฆ่าคนตาย 26 ศพ เจ็บ 685 คน 3. ต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที ทหารกลับเข้ากรมกอง และ 4. รัฐบาลต้องเปิดพีเพิล ชาแนล เว็บไซต์ วิทยุของประชาชน ต่อมานายสุเทพ ตอบรับว่าจะไปมอบตัวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แกนนำ นปช.ก็บอกจะพาคนเสื้อแดงกลับบ้านทันที ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง รวมถึงการที่แกนนำบางคนบอกให้นายสุเทพ ไปมอบตัวที่กองปราบปรามแล้วเสื้อแดงจะกลับบ้าน ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการชุมนุม นายสุเทพ มีคดีฆ่าประชาชน ส่วนประชาชนเสื้อแดงมาเรียกร้องให้ยุบสภา

"แกนนำใช้ซากศพของพี่น้องประชาชนเสื้อแดงที่ถูกฆ่าตายมาหลอกคนเสื้อแดงให้กลับบ้านมือเปล่าว่าสุเทพมอบตัวกองปราบปรามพิมพ์มือแล้วเราจะกลับบ้าน เรามาเพื่อยุบสภา ล้มระบบอำมาตย์ ทำลายระบบความยุติธรรมสองมาตรฐานและเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องสุเทพมอบตัว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ยังโจมตีแกนนำ นปช.อย่างดุเดือด ว่า แค่ 2 เดือน แกนนำบางคนเจอผลประโยชน์เข้าไปทำให้ลืมสิ้น เคลื่อนออกจากผ่านฟ้าฯ ก็เพราะสะดุดเงินล็อตเตอรี่ ซึ่งยังไม่ทันเผาศพผู้กล้าเสื้อแดงบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เสธ.แดงจึงขอบอกมายังคนเสื้อแดงว่าแม้ นายสุเทพมอบตัว คนเสื้อแดงก็ไม่กลับบ้าน เพราะไม่เกี่ยวกับการยุบสภา จะอยู่กันไปแบบนี้ ดูว่ารัฐบาลกับคนเสื้อแดงใครจะอึดกว่ากัน เรามีที่มั่นแข็งแรง การ์ดเข้มแข็ง มีความสามัคคี เชื่อว่าอีกแค่เดือนเดียวรัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้ว วันนี้ประชาชนสู้เกิน หน้า นปช. ที่เคยบอกว่าแกนนำ นปช. สู้เกินหน้าทักษิณ เหมือนคนลืมตัว ทุกคนออกมาเพราะนายกฯ ทักษิณ ไม่ใช่ออกมาเพราะแกนนำ แต่วันนี้ประชาชนไปไกลเกินกว่าแกนนำ นปช. ขี้โกงแล้ว
ที่มา.ไทยรัฐออนไลน์
********************************************************

"เหวง"เผยผู้เชี่ยวชาญกม.ระบุ"สุเทพ"ไม่ได้เข้ากระบวนยุติธรรม

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มนปช. กล่าวถึงความคืบหน้าในการหารือของแกนนำกลุ่มนปช.เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานนี้(12 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีการถกเถียงกันว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เดินทางไปรายงานตัวกับดีเอสไอนั้น ถือเป็นการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือไม่ แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เนื่องจากแกนนำแต่ละคนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย จึงมีการเชิญอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา อดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และฝ่ายกฎหมาย มาให้ข้อคิดเห็น จึงได้ข้อสรุปตรงกันว่า การไปรายงานตัวกับดีเอสไอของนายสุเทพนั้น ไม่ใช่การไปรับทราบข้อกล่าวหา ดังนั้นจึงไม่ใช่การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังยืนยันว่าแกนนำกลุ่มนปช.ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน นพ.เหวง กล่าวว่า ยืนยันว่าแกนนำไม่ได้มีความขัดแย้ง แต่ที่มีการถกเถียงกันนั้นเพราะแต่ละคนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และในการประชุมครั้งล่าสุดมติก็ออกมาเป็นเอกฉันท์ ส่วนกรณีที่หากมีการเปลี่ยนให้แกนนำสายฮาร์ตคอร์ขึ้นมานำมวลชนเสื้อแดงแทน แนวทางการต่อสู้ต่อไปอาจจะไม่ใช่สันติวิธีนั้น นพ.เหวงกล่าวว่า ถือเป็นเพียงความเห็นของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานกลุ่มนปช. ซึ่งนายวีระรับปากว่าจะมาที่แยกราชประสงค์ในช่วงบ่ายของวันนี้ด้วย สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าแกนนำในระดับภูมิภาคมีการประชุมกันที่พรรคเพื่อไทยนั้น นพ.เหวงกล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าขณะนี้แกนนำทุกคนทุกระดับยังยอมรับมติของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน แต่ส่วนตัวของตนแล้วเลือกสันติภาพ ไม่เลือกสงคราม เพราะตนทนเห็นความสูญเสียไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ล้มแผนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.แล้วนั้น นพ.เหวง กล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ต้องรับผิดชอบคำพูดดังกล่าวด้วย เพราะนายกรัฐมนตรีประกาศวันเลือกตั้งทางโทรทัศน์ออกสู่สาธารณะ ดังนั้นหากนายกรัฐมนตรีจะยกเลิกก็ต้องประกาศผ่านโทรทัศน์ออกสู่สาธารณะด้วยเช่นกัน

ที่มา.เนชั่น
-------------------------------------------------------