เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.สุรพล ใจห้าว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ รุดไปตรวจสอบพ
ที่เกิดเหตุพบประตูบานเลื่อนที่ทำการพรรคมีรอยกระสุน 1 รู ฝ้าปูน 1 รู กระจกด้านบนแตก 1 บาน ส่วนบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องแถลงข่าวพบกระจกแตกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนเอ็ม 79 กับหัวกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่ภายในห้องด้วย ส่วนด้านหน้าของพรรคบริเวณพื้นถนนพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 12 ปลอก ขณะเดียวกันพบเจ้าหน้าที่ ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาการณ์อยู่บริเวณหน้าพรรคการเมืองใหม่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อด.ต.สุพจน์ ขานพล อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ ป.อ.บรบือ จ.มหาสารคาม มีบาดแผลที่แขนและไหล่ซ้าย ถูกนำตัวส่ง รพ.วชิรพยาบาลแล้ว
สอบสวนนายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าชุด รปภ.พรรคการเมืองใหม่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีบรอนซ์ ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ได้ขับนำหน้ารถจยย.คนร้าย ยี่ห้อฮอนด้า แบบผู้หญิง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเช่นกัน โดยจำลักษณะคนร้าย 2 คนได้ว่า ทั้งสองคนไม่สวมหมวกนิรภัย สวมชุดสีดำทั้งคู่ คนซ้อนท้ายผมยาว ขณะขับผ่านหน้าพรรคคนร้ายก็ได้ชักอาวุธปืนยาวขึ้นมากราดยิงใส่และขับจยย.หลบหนีไปทางสะพานวันชาติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณพรรคว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
**************************************************
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553
กสม.เล็ง12เม.ย.ถกอดีตนายกฯ เพิ่ม "สมชาย" พผ.ชง"ทักษิณ"แจม "เติ้ง"จี้รบ.ยังซื้อเวลาขู่คิดอะไรสักอย่าง
กสม.เล็ง 12 เม.ย.ตั้งวงถกอดีตนายกฯ เพิ่ม"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อีก 1 เพื่อแผ่นดินให้"ทักษิณ"แจมด้วย "จิ๋ว"แนะเร่งหาเงื่อนเวลายุบสภาทางออก "เติ้ง"ขอหลังสงกรานต์ จี้"รัฐบาล"เดินตามโรดแมป 9 เดือน ซัด"มาร์ค"ไม่จริงใจซื้อเวลาแก้ รธน. ทำเสียความรู้สึก แย้มหากไม่ทำ"ชทพ."จะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง
กสม.เพิ่มอดีตนายกฯสมชาย
เวลา 13.00 น. วันที่ 7 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นำโดย นพ.ชูชัย ศุภวงค์ เลขาธิการ กสม. นายไพบูลย์ วรหะไพทูรย์ นางอัมรา พงศาพิชญ์ นายปริญญา ศิริสารการ นพ.แท้จริง ศิริพานิช นำกระเช้าดอกไม้มอบให้กับ พล.อ.ชวลิต จากนั้นร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย มี พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พท. นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ในฐานะคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. เป็นตัวแทนพรรคร่วมหารือด้วย
นพ.ชูชัยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่าจะเดินสายพบกับผู้นำศาสนาทุกศาสนาและผู้นำชุมชนต่างๆ โดยวันจันทร์ที่ 12 เมษายน จะพบผู้นำศาสนาอิสลาม รวมถึงอดีตนายกฯอีกหนึ่งคน แต่ยังไม่ตอบรับ ตอนนี้ที่ตอบรับคือนายบรรหาร นายชวน นายอานันท์ และ พล.อ.ชวลิต
ด้าน พล.อ.ชวลิตปฏิเสธให้สัมภาษณ์ กล่าวเพียงว่าได้เสนอให้ กสม.พบอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด โดย กสม.ได้ระบุว่าได้ติดต่อขอพูดคุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วซึ่งนายสมชายก็ตอบตกลง
"จิ๋ว"แนะเร่งหาเงื่อนเวลายุบ
เวลา 15.00 น. นางอมรากล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ พล.อ.ชวลิตสะท้อนคือ
1.การเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นสาเหตุให้มีการชุมนุม อีกทั้งเป็นเรื่องที่อำนาจต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่นายกฯต้องเข้าใจปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากแก้ไม่ได้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาธิปไตย
2.พล.อ.ชวลิตเห็นว่าการเจราจาระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาลเป็นเรื่องดีทำให้ความขัดแย้งยุติลงชั่วคราว แต่วันนี้สิ่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเรื่องเงื่อนเวลายุบสภาเท่านั้น โดยเสนอว่าควรหาคนกลาง เช่น นักวิชาการ เพราะเวลาเหลือไม่มากจะต้องเร่งทำ
3.เรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม กระบวนการยุติธรรมที่เป็นสองมาตรฐานการปฏิรูปที่ดินและการกระจายทรัพย์สินสู่ประชาชนที่เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน รวมถึงเรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
เล็งตั้งวงถกบ่าย 12 เม.ย.
ด้าน นพ.ชูชัยกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตเห็นว่าเป็นไปได้ยากที่จะแก้รัฐธรรมนูญเวลานี้ แต่เรื่องเร่งด่วนคือเงื่อนเวลายุบสภา ต้องหาข้อตกลงกันให้ได้ และอยู่ระหว่างคำยืนยันจากนายอานันท์ ซึ่งได้ประสานไว้ในช่วงบ่ายวันที่ 12 เมษายน
นายอานันท์ ปันยารชุน กล่าวว่า นพ.ชูชัยติดต่อเชิญพูดคุยทางออกของประเทศ โดยหลักการไม่ได้ขัดข้อง ให้นัดมาว่าจะร่วมหารือกันภายในวันไหน แต่ยังไม่ทราบเรื่องการนัดวันที่ 12 เมษายนนี้ แม้จะเป็นอดีตนายกฯ แต่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง และพัวพันกับการเมือง แต่ตนไม่ได้มีบทบาท อำนาจ และหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และว่า รู้สึกเป็นห่วงและกังวลในสถานการณ์ขณะนี้ เพราะสถานการณ์เริ่มเลยเถิดแล้ว
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลยุบสภา ปัญหาจะจบลงหรือไม่ นายอานันท์กล่าวว่า ปัญหาการเมืองเกิดก่อนที่จะตั้งรัฐบาลชุดนี้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่การยุบสภา แต่อยู่ที่การเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินไปอย่างอิสระและเป็นธรรม ที่สำคัญอย่าเรียกยุบสภาเลย เรียกว่าเปลี่ยนสมัยการประชุมจะดีกว่าแล้วถึงจะเกิดการเลือกตั้ง
"เติ้ง"ให้คุยหลังสงกรานต์
เวลา 16.45 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา แถลงที่บ้านศิลปอาชา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 55 มีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง กรรมการที่ปรึกษาพรรค ชทพ. ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า (วันที่ 7 เมษายน) เป็นเหตุการณ์ใหญ่พอสมควร ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเองจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ และเมื่อช่วงเช้า กสม.โทรศัพท์ติดต่อมาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ได้บอกไปว่าไว้หลังสงกรานต์แล้วค่อยคุยกัน การเจรจาระหว่างรัฐบาลและเสื้อแดง หนักใจแทนใจอยากจะให้เจรจาได้ ให้เสื้อแดงผ่อนปรนบ้างยืดหยุ่นบ้าง ควรจะมีเจรจารอบ 3 หากจุดกึ่งกลางที่เป็นไปได้ แต่ดูแล้วไม่ง่ายยากมาก
จี้"รัฐบาล"เดินตามโรดแมป9เดือน
"ผมอยากเรียนว่าคำพูดคนสำคัญ จะทำอะไรสำเร็จก็อยู่ที่คำพูดคนจะทำก็ต้องทำไม่ทำก็ไม่ทำ อย่าวนไปวนมาอย่างนี้ผมไม่ชอบ ผมเป็นคนตรงไปตรงมาเอาก็เอาไม่เอาก็ไม่เอาหรือจะอยู่ให้ครบเทอมก็เอา จะอยู่ 1 ปี 8 เดือนก็ทำไปเลย แต่ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาในปลายปีนี้ก็ต้องทำ แต่นี่ก็เลยมา 20 กว่าวันแล้ว" นายบรรหารกล่าว และว่า ถ้าจะทำตามโรดแมป 9 เดือนก็ต้องเริ่มดำเนินการแล้วอยากให้ทำตามนี้ อย่าไปปิ้งปลาประชดแมวว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เอา ก็จะอยู่ครบเทอมเลย
นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าทำตามนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ แต่ถ้าไม่ทำแล้วบอกว่าฝ่ายค้านไม่เอา อย่างนี้ก็ไม่ต้องไปแก้ ถ้าทำจริงก็จะลดความขัดแย้งได้และสังคมจะออกมาช่วยกันด้วย ดังนั้น การแก้ไขต้องยึดตาม 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ช่วยหาทางออกได้ และถ้าไม่ทำประชามติก็ดียิ่งเร็ว
ซัด"มาร์ค"ไม่จริงใจซื้อเวลา
"ผมไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะจริงใจแก้ปัญหาหรือไม่ เพราะเห็นนายกฯให้สัมภาษณ์ว่าจะเชิญเสื้อเหลือง ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มา อย่างนี้มันไม่ได้แก้ เป็นการหลอกกันมากกว่า ผมเองในฐานะผู้สังเกตการณ์เสียความรู้สึก แก้แค่สองมาตรา ก็เสียความรู้สึกมาแล้ว อย่าให้เสียความรู้สึกไปมากกว่านี้เลย ควรจะทำให้พรรคร่วมมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำอย่างจริงใจ หากไม่ทำอะไร พรรค ชทพ.จะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง" นายบรรหารกล่าว และว่า ยังเคียงข้างรัฐบาลแต่รัฐบาลต้องจริงใจ แต่ถ้าไม่จริงใจก็ค่อยว่ากัน ทั้งนี้ หากจัดตั้งรัฐบาลแล้วพรรคประชาธิปัตย์มาชวนก็ยังมีเชื้ออยู่บ้าง
"ชวน"รับร่วมวงถกอดีตนายกฯ
ก่อนหน้านี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันตอบรับกรณี นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทาบทาม 4 อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายชวน นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายอานันท์ ปันยารชุน มาร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เมษายน ว่า นพ.ชูชัยมีการทาบทามมาจริง โดยโทรศัพท์มาเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ขัดข้อง แต่ยังไม่ทราบใครบ้าง ส่วนจะช่วยหาทางออกให้ประเทศได้หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ น่าจะมีความชัดเจนหลังเทศกาลสงกรานต์
ยันมาร์คมาถูกทาง-ค้าน"ยุบ"
เมื่อถามว่า ขณะที่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แต่ท่าทีรัฐบาลแก้ปัญหารัฐบาลกลับไม่ถูกใจคน กทม. นายชวนกล่าวว่า มีคนหวังดีกับประเทศโทรศัพท์มาเยอะมาก แต่มองว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว ส่วนข้อเสนอให้เจรจาอีกครั้ง มองว่าผู้ชุมนุมขณะนี้ต้องการยุบสภา และตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ยุบสภาในขณะนี้ ส่วนแนวปฏิบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ถูกต้องไม่ออกนอกกฎหมาย แม้จะไม่ถูกใจคนก็ตาม เพราะต้องอย่าลืมว่าเรามีตัวอย่างการใช้ความรุนแรงมาแล้ว เมื่อครั้งการจัดการปัญหาภาคใต้ ซึ่งในที่สุดก็เป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้
ปชป.ทำสติ๊กเกอร์ต้านยุบ
ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้ร่นกรอบเวลาในการยุบสภาลงจาก 9 เดือน ว่า อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อรองค้าขาย แต่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ถ้าคิดเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไปสร้างปัญหาใหม่ในอนาคตก็จะไม่พ้น
เวลา 10.30 น. ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พร้อม น.ส.พจนาถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี ร่วมแถลงจัดทำสติ๊กเกอร์ รณรงค์ต่อต้านการยุบสภาจำนวน 4 แบบ จัดพิมพ์จำนวนแบบละ 1 แสนใบ โดยจะเริ่มแจกจ่ายให้คนทั่ว กทม.และอาจจะนำไปแจกให้ประชาชนทั่วประเทศด้วย
มท.1-ภท.หนุน4อดีตนายกฯคุย
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เตรียมเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คน เจรจาหาทางออกประเทศว่า เป็นเรื่องดี เพราะอดีตนายกฯเป็นผู้มีประสบการณ์ ทางที่ดีควรจะทำให้เสร็จภายในเดือนเมษายน ตนพูดก่อนใครว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยหลังคนละก้าว หันหน้ามาเจรจากัน ที่มีเสียงเรียกร้องให้ลดเวลายุบสภาจาก 9 เดือนลงมา ต้องพูดคุยกัน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการวอร์รูมพรรคร่วมรัฐบาลจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า อดีตนายกฯ 4 คน มาพูดคุยกันถือเป็นแนวทางหนึ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องให้ฏิบัติได้ ถ้าเงื่อนไขที่เสนอมาปฏิบัติไม่ได้ ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
"สนั่น"เสนอ"จิ๋ว"โซ่ข้อกลาง
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงข้อเสนอของ กสม. ที่ให้อดีตนายกฯ 4 คนมาพูดคุยกัน ว่า หากมีการเจรจาในรอบที่ 3 เชื่อว่าน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น มองว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่ประสานงานให้เกิดการพูดคุยได้น่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ก่อนจะถึงการเจรจาขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานมาพูดคุยกันในเบื้องต้นก่อน ต้องยอมรับว่าที่ผ่านรัฐบาลกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยังเห็นขัดแย้งกันเรื่องกรอบเวลาในการยุบสภา ทั้งที่ปัจจัยเรื่องเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ก่อน หากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เชื่อว่า ปชป.จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ หรือให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นสักขีพยานด้วยจะได้เบี้ยวกันไม่ได้
ส่วนที่มีมองกันว่าขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการ์ฉุกเฉินนั้น พล.ต.สนั่นกล่าวว่า "ถ้ามันอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบสภาเท่านั้นเอง ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบหรือลาออกไป"
พผ.ให้เพิ่ม"ทักษิณ"ร่วมวง
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ แต่เพียง 4 คนคงยังไม่พอ เพราะต้องพิจารณาด้วยว่าควรจะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมด้วยหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนสั่งการให้คนเสื้อแดงออกมาแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้ แล้วที่ประชุมจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวสำหรับประเทศไทยที่หาเหตุผลมากันได้
นายชาญชัยกล่าวถึงกรณี พผ.ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าไม่ได้เป็นมติพรรค เพราะในช่วงนั้นไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา เข้าใจว่าเรื่องนี้ นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษก พผ. ออกมาพูดเอง ไม่เกี่ยวกับมติพรรค เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัยกล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ต้องหาตัวกลาง
สป.พร้อมให้ใช้สถานที่คุย
ที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) จัดสัมมนา "ทางออกประเทศไทยจากภาวะวิกฤต" นายโอกาส เตรพละกุล ประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง โดยเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเห็นด้วยกับการให้อดีต 4 นายกรัฐมนตรีเป็นตัวกลางเจรจา ซึ่ง สป.จะเสนอให้ใช้สถานที่ของ สป.เป็นสถานที่การเจรจาด้วย
"ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ได้จากที่ประชุมเห็นว่า ต้นตอของปัญหาเกิดจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้ ขณะเดียวกันยังมีช่องว่างระหว่างชนชั้นทั้งด้านรายได้ การศึกษา และการบริโภคข่าวสาร ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที สป.จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุม สป.ในวันที่ 8 เมษายน ก่อนจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 เมษายนนี้" นายโอภาสกล่าว
หนุนกรอบยุบสภา4-5เดือน
นายโอกาสกล่าวว่า ภายใน 1 สัปดาห์นี้จะต้องหาข้อยุติถึงทางออกปัญหาการเมือง และเห็นว่ามีการเจรจารอบ 3 เกิดขึ้นจะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยจะต้องมีกรอบการเจรจาใน 2 ประเด็น คือ
1.ต้องผ่านงบประมาณประจำปี 2554 ให้แล้วเสร็จ และ
2.พิจารณาร่วมกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากได้ข้อตกลงร่วมกันแล้วก็ควรจะจัดทำปฏิญญาร่วมกันจนกว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ส่วนตัวมองว่าการพิจารณาผ่านงบประมาณฯ 2554 มีความจำเป็นเร่งด่วนกว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้
น.ส.ภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมส่วนใหญ่มองว่าควรมีการยุบสภาภายในกรอบ 4-5 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คำนวณจากกรอบระยะเวลาของทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องกับข้อเสนอของนักวิชาการ เพราะปกติหากมีการยุบสภาจะต้องรัฐบาลรักษาการอีก 45 วัน รวมถึงใช้เวลาในการเลือกตั้งอีก 3 เดือน จึงจะได้รัฐบาลชุดใหม่
ใช้ฉุกเฉินกระทบท่องเที่ยว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ขณะนี้ คาดจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 30% และมีความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวมากถึง 1-2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะหดตัว 10-20% จึงจำเป็นต้องเปิดประตูเจรจาทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว ส่วนตัวมองว่าการยุบสภาไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ที่มา.มติชนออนไลน์
*************************************************
************************************************
กสม.เพิ่มอดีตนายกฯสมชาย
เวลา 13.00 น. วันที่ 7 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นำโดย นพ.ชูชัย ศุภวงค์ เลขาธิการ กสม. นายไพบูลย์ วรหะไพทูรย์ นางอัมรา พงศาพิชญ์ นายปริญญา ศิริสารการ นพ.แท้จริง ศิริพานิช นำกระเช้าดอกไม้มอบให้กับ พล.อ.ชวลิต จากนั้นร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย มี พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พท. นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ในฐานะคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. เป็นตัวแทนพรรคร่วมหารือด้วย
นพ.ชูชัยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่าจะเดินสายพบกับผู้นำศาสนาทุกศาสนาและผู้นำชุมชนต่างๆ โดยวันจันทร์ที่ 12 เมษายน จะพบผู้นำศาสนาอิสลาม รวมถึงอดีตนายกฯอีกหนึ่งคน แต่ยังไม่ตอบรับ ตอนนี้ที่ตอบรับคือนายบรรหาร นายชวน นายอานันท์ และ พล.อ.ชวลิต
ด้าน พล.อ.ชวลิตปฏิเสธให้สัมภาษณ์ กล่าวเพียงว่าได้เสนอให้ กสม.พบอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด โดย กสม.ได้ระบุว่าได้ติดต่อขอพูดคุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วซึ่งนายสมชายก็ตอบตกลง
"จิ๋ว"แนะเร่งหาเงื่อนเวลายุบ
เวลา 15.00 น. นางอมรากล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ พล.อ.ชวลิตสะท้อนคือ
1.การเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นสาเหตุให้มีการชุมนุม อีกทั้งเป็นเรื่องที่อำนาจต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่นายกฯต้องเข้าใจปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากแก้ไม่ได้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาธิปไตย
2.พล.อ.ชวลิตเห็นว่าการเจราจาระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาลเป็นเรื่องดีทำให้ความขัดแย้งยุติลงชั่วคราว แต่วันนี้สิ่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเรื่องเงื่อนเวลายุบสภาเท่านั้น โดยเสนอว่าควรหาคนกลาง เช่น นักวิชาการ เพราะเวลาเหลือไม่มากจะต้องเร่งทำ
3.เรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม กระบวนการยุติธรรมที่เป็นสองมาตรฐานการปฏิรูปที่ดินและการกระจายทรัพย์สินสู่ประชาชนที่เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน รวมถึงเรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
เล็งตั้งวงถกบ่าย 12 เม.ย.
ด้าน นพ.ชูชัยกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตเห็นว่าเป็นไปได้ยากที่จะแก้รัฐธรรมนูญเวลานี้ แต่เรื่องเร่งด่วนคือเงื่อนเวลายุบสภา ต้องหาข้อตกลงกันให้ได้ และอยู่ระหว่างคำยืนยันจากนายอานันท์ ซึ่งได้ประสานไว้ในช่วงบ่ายวันที่ 12 เมษายน
นายอานันท์ ปันยารชุน กล่าวว่า นพ.ชูชัยติดต่อเชิญพูดคุยทางออกของประเทศ โดยหลักการไม่ได้ขัดข้อง ให้นัดมาว่าจะร่วมหารือกันภายในวันไหน แต่ยังไม่ทราบเรื่องการนัดวันที่ 12 เมษายนนี้ แม้จะเป็นอดีตนายกฯ แต่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง และพัวพันกับการเมือง แต่ตนไม่ได้มีบทบาท อำนาจ และหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และว่า รู้สึกเป็นห่วงและกังวลในสถานการณ์ขณะนี้ เพราะสถานการณ์เริ่มเลยเถิดแล้ว
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลยุบสภา ปัญหาจะจบลงหรือไม่ นายอานันท์กล่าวว่า ปัญหาการเมืองเกิดก่อนที่จะตั้งรัฐบาลชุดนี้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่การยุบสภา แต่อยู่ที่การเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินไปอย่างอิสระและเป็นธรรม ที่สำคัญอย่าเรียกยุบสภาเลย เรียกว่าเปลี่ยนสมัยการประชุมจะดีกว่าแล้วถึงจะเกิดการเลือกตั้ง
"เติ้ง"ให้คุยหลังสงกรานต์
เวลา 16.45 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา แถลงที่บ้านศิลปอาชา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 55 มีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง กรรมการที่ปรึกษาพรรค ชทพ. ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า (วันที่ 7 เมษายน) เป็นเหตุการณ์ใหญ่พอสมควร ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเองจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ และเมื่อช่วงเช้า กสม.โทรศัพท์ติดต่อมาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ได้บอกไปว่าไว้หลังสงกรานต์แล้วค่อยคุยกัน การเจรจาระหว่างรัฐบาลและเสื้อแดง หนักใจแทนใจอยากจะให้เจรจาได้ ให้เสื้อแดงผ่อนปรนบ้างยืดหยุ่นบ้าง ควรจะมีเจรจารอบ 3 หากจุดกึ่งกลางที่เป็นไปได้ แต่ดูแล้วไม่ง่ายยากมาก
จี้"รัฐบาล"เดินตามโรดแมป9เดือน
"ผมอยากเรียนว่าคำพูดคนสำคัญ จะทำอะไรสำเร็จก็อยู่ที่คำพูดคนจะทำก็ต้องทำไม่ทำก็ไม่ทำ อย่าวนไปวนมาอย่างนี้ผมไม่ชอบ ผมเป็นคนตรงไปตรงมาเอาก็เอาไม่เอาก็ไม่เอาหรือจะอยู่ให้ครบเทอมก็เอา จะอยู่ 1 ปี 8 เดือนก็ทำไปเลย แต่ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาในปลายปีนี้ก็ต้องทำ แต่นี่ก็เลยมา 20 กว่าวันแล้ว" นายบรรหารกล่าว และว่า ถ้าจะทำตามโรดแมป 9 เดือนก็ต้องเริ่มดำเนินการแล้วอยากให้ทำตามนี้ อย่าไปปิ้งปลาประชดแมวว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เอา ก็จะอยู่ครบเทอมเลย
นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าทำตามนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ แต่ถ้าไม่ทำแล้วบอกว่าฝ่ายค้านไม่เอา อย่างนี้ก็ไม่ต้องไปแก้ ถ้าทำจริงก็จะลดความขัดแย้งได้และสังคมจะออกมาช่วยกันด้วย ดังนั้น การแก้ไขต้องยึดตาม 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ช่วยหาทางออกได้ และถ้าไม่ทำประชามติก็ดียิ่งเร็ว
ซัด"มาร์ค"ไม่จริงใจซื้อเวลา
"ผมไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะจริงใจแก้ปัญหาหรือไม่ เพราะเห็นนายกฯให้สัมภาษณ์ว่าจะเชิญเสื้อเหลือง ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มา อย่างนี้มันไม่ได้แก้ เป็นการหลอกกันมากกว่า ผมเองในฐานะผู้สังเกตการณ์เสียความรู้สึก แก้แค่สองมาตรา ก็เสียความรู้สึกมาแล้ว อย่าให้เสียความรู้สึกไปมากกว่านี้เลย ควรจะทำให้พรรคร่วมมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำอย่างจริงใจ หากไม่ทำอะไร พรรค ชทพ.จะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง" นายบรรหารกล่าว และว่า ยังเคียงข้างรัฐบาลแต่รัฐบาลต้องจริงใจ แต่ถ้าไม่จริงใจก็ค่อยว่ากัน ทั้งนี้ หากจัดตั้งรัฐบาลแล้วพรรคประชาธิปัตย์มาชวนก็ยังมีเชื้ออยู่บ้าง
"ชวน"รับร่วมวงถกอดีตนายกฯ
ก่อนหน้านี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันตอบรับกรณี นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทาบทาม 4 อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายชวน นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายอานันท์ ปันยารชุน มาร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เมษายน ว่า นพ.ชูชัยมีการทาบทามมาจริง โดยโทรศัพท์มาเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ขัดข้อง แต่ยังไม่ทราบใครบ้าง ส่วนจะช่วยหาทางออกให้ประเทศได้หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ น่าจะมีความชัดเจนหลังเทศกาลสงกรานต์
ยันมาร์คมาถูกทาง-ค้าน"ยุบ"
เมื่อถามว่า ขณะที่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แต่ท่าทีรัฐบาลแก้ปัญหารัฐบาลกลับไม่ถูกใจคน กทม. นายชวนกล่าวว่า มีคนหวังดีกับประเทศโทรศัพท์มาเยอะมาก แต่มองว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว ส่วนข้อเสนอให้เจรจาอีกครั้ง มองว่าผู้ชุมนุมขณะนี้ต้องการยุบสภา และตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ยุบสภาในขณะนี้ ส่วนแนวปฏิบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ถูกต้องไม่ออกนอกกฎหมาย แม้จะไม่ถูกใจคนก็ตาม เพราะต้องอย่าลืมว่าเรามีตัวอย่างการใช้ความรุนแรงมาแล้ว เมื่อครั้งการจัดการปัญหาภาคใต้ ซึ่งในที่สุดก็เป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้
ปชป.ทำสติ๊กเกอร์ต้านยุบ
ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้ร่นกรอบเวลาในการยุบสภาลงจาก 9 เดือน ว่า อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อรองค้าขาย แต่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ถ้าคิดเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไปสร้างปัญหาใหม่ในอนาคตก็จะไม่พ้น
เวลา 10.30 น. ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พร้อม น.ส.พจนาถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี ร่วมแถลงจัดทำสติ๊กเกอร์ รณรงค์ต่อต้านการยุบสภาจำนวน 4 แบบ จัดพิมพ์จำนวนแบบละ 1 แสนใบ โดยจะเริ่มแจกจ่ายให้คนทั่ว กทม.และอาจจะนำไปแจกให้ประชาชนทั่วประเทศด้วย
มท.1-ภท.หนุน4อดีตนายกฯคุย
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เตรียมเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คน เจรจาหาทางออกประเทศว่า เป็นเรื่องดี เพราะอดีตนายกฯเป็นผู้มีประสบการณ์ ทางที่ดีควรจะทำให้เสร็จภายในเดือนเมษายน ตนพูดก่อนใครว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยหลังคนละก้าว หันหน้ามาเจรจากัน ที่มีเสียงเรียกร้องให้ลดเวลายุบสภาจาก 9 เดือนลงมา ต้องพูดคุยกัน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการวอร์รูมพรรคร่วมรัฐบาลจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า อดีตนายกฯ 4 คน มาพูดคุยกันถือเป็นแนวทางหนึ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องให้ฏิบัติได้ ถ้าเงื่อนไขที่เสนอมาปฏิบัติไม่ได้ ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง
"สนั่น"เสนอ"จิ๋ว"โซ่ข้อกลาง
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงข้อเสนอของ กสม. ที่ให้อดีตนายกฯ 4 คนมาพูดคุยกัน ว่า หากมีการเจรจาในรอบที่ 3 เชื่อว่าน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น มองว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่ประสานงานให้เกิดการพูดคุยได้น่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ก่อนจะถึงการเจรจาขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานมาพูดคุยกันในเบื้องต้นก่อน ต้องยอมรับว่าที่ผ่านรัฐบาลกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยังเห็นขัดแย้งกันเรื่องกรอบเวลาในการยุบสภา ทั้งที่ปัจจัยเรื่องเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ก่อน หากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เชื่อว่า ปชป.จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ หรือให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นสักขีพยานด้วยจะได้เบี้ยวกันไม่ได้
ส่วนที่มีมองกันว่าขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการ์ฉุกเฉินนั้น พล.ต.สนั่นกล่าวว่า "ถ้ามันอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบสภาเท่านั้นเอง ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบหรือลาออกไป"
พผ.ให้เพิ่ม"ทักษิณ"ร่วมวง
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ แต่เพียง 4 คนคงยังไม่พอ เพราะต้องพิจารณาด้วยว่าควรจะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมด้วยหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนสั่งการให้คนเสื้อแดงออกมาแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้ แล้วที่ประชุมจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวสำหรับประเทศไทยที่หาเหตุผลมากันได้
นายชาญชัยกล่าวถึงกรณี พผ.ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าไม่ได้เป็นมติพรรค เพราะในช่วงนั้นไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา เข้าใจว่าเรื่องนี้ นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษก พผ. ออกมาพูดเอง ไม่เกี่ยวกับมติพรรค เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัยกล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ต้องหาตัวกลาง
สป.พร้อมให้ใช้สถานที่คุย
ที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) จัดสัมมนา "ทางออกประเทศไทยจากภาวะวิกฤต" นายโอกาส เตรพละกุล ประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง โดยเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเห็นด้วยกับการให้อดีต 4 นายกรัฐมนตรีเป็นตัวกลางเจรจา ซึ่ง สป.จะเสนอให้ใช้สถานที่ของ สป.เป็นสถานที่การเจรจาด้วย
"ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ได้จากที่ประชุมเห็นว่า ต้นตอของปัญหาเกิดจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้ ขณะเดียวกันยังมีช่องว่างระหว่างชนชั้นทั้งด้านรายได้ การศึกษา และการบริโภคข่าวสาร ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที สป.จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุม สป.ในวันที่ 8 เมษายน ก่อนจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 เมษายนนี้" นายโอภาสกล่าว
หนุนกรอบยุบสภา4-5เดือน
นายโอกาสกล่าวว่า ภายใน 1 สัปดาห์นี้จะต้องหาข้อยุติถึงทางออกปัญหาการเมือง และเห็นว่ามีการเจรจารอบ 3 เกิดขึ้นจะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยจะต้องมีกรอบการเจรจาใน 2 ประเด็น คือ
1.ต้องผ่านงบประมาณประจำปี 2554 ให้แล้วเสร็จ และ
2.พิจารณาร่วมกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากได้ข้อตกลงร่วมกันแล้วก็ควรจะจัดทำปฏิญญาร่วมกันจนกว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ส่วนตัวมองว่าการพิจารณาผ่านงบประมาณฯ 2554 มีความจำเป็นเร่งด่วนกว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้
น.ส.ภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมส่วนใหญ่มองว่าควรมีการยุบสภาภายในกรอบ 4-5 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คำนวณจากกรอบระยะเวลาของทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องกับข้อเสนอของนักวิชาการ เพราะปกติหากมีการยุบสภาจะต้องรัฐบาลรักษาการอีก 45 วัน รวมถึงใช้เวลาในการเลือกตั้งอีก 3 เดือน จึงจะได้รัฐบาลชุดใหม่
ใช้ฉุกเฉินกระทบท่องเที่ยว
นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ขณะนี้ คาดจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 30% และมีความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวมากถึง 1-2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะหดตัว 10-20% จึงจำเป็นต้องเปิดประตูเจรจาทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว ส่วนตัวมองว่าการยุบสภาไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ
ที่มา.มติชนออนไลน์
*************************************************
************************************************
เทพเทือก หน้าแตก...ผบ.สส.บอก กองทัพเป็นทหารของประชาชน
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า
ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุก เหล่าทัพได้หารือ และประเมินสถานการณ์การชุมนุมตลอดด้วยความเป็นห่วง อยากให้ประเทศก้าวหน้าต่อไป ตนเองเชื่อว่าสถานการณ์ต้องจบลงด้วยดี ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไรคงตอบไม่ได้ แต่หากจะตอบในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด เราติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง โดยกองทัพได้รับมอบหมายให้จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพื่อภารกิจการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ ไม่ใช่มีหน้าที่ปราบปรามทำร้าย หรือเข่นฆ่าประชาชน เพราะกองทัพเป็นทหารของประชาชน
ต่อ คำถามที่ว่า ผบ.สส.มองการเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงอย่างไร ?
พล.อ.ทรง กิตติ กล่าวว่า การชุมนุมเวลานี้ไม่มีความ รุนแรงเป็นการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญอยู่ในขอบ เขตที่สามารถทำได้ ส่วนที่รัฐบาลระบุชุมนุมไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ตนเองไม่ใช่รัฐบาล แต่ทำงานในกรอบของกองทัพไทย กองทัพทำงานตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกลาโหม คำสั่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำงานด้วยความรู้สึก ไม่ได้ทำงานด้วยอารมณ์ และไม่ได้ทำงานด้วยข่าวสาร เราทำงานบนความสงบของบ้านเมือง ตระหนักในความพยายามที่ทำให้ประเทศชาติมีความพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเท่านั้น
เมื่อ ถามว่ากองทัพมีแผนจะสลายการชุมนุมหรือไม่ ?
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า กองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตยเหนือดินแดน ที่สำคัญที่สุดคือถวายความปลอดภัยราชวงศ์ และช่วยเหลือประชาชน โดยมีระบุในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทหารคือประชาชน
จากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ทรงกิติฯ ผบ.สส ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอรส. เป็นอย่างยิ่ง !!!
************************************************
ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุก เหล่าทัพได้หารือ และประเมินสถานการณ์การชุมนุมตลอดด้วยความเป็นห่วง อยากให้ประเทศก้าวหน้าต่อไป ตนเองเชื่อว่าสถานการณ์ต้องจบลงด้วยดี ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไรคงตอบไม่ได้ แต่หากจะตอบในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด เราติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง โดยกองทัพได้รับมอบหมายให้จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพื่อภารกิจการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ ไม่ใช่มีหน้าที่ปราบปรามทำร้าย หรือเข่นฆ่าประชาชน เพราะกองทัพเป็นทหารของประชาชน
ต่อ คำถามที่ว่า ผบ.สส.มองการเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงอย่างไร ?
พล.อ.ทรง กิตติ กล่าวว่า การชุมนุมเวลานี้ไม่มีความ รุนแรงเป็นการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญอยู่ในขอบ เขตที่สามารถทำได้ ส่วนที่รัฐบาลระบุชุมนุมไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ตนเองไม่ใช่รัฐบาล แต่ทำงานในกรอบของกองทัพไทย กองทัพทำงานตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกลาโหม คำสั่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำงานด้วยความรู้สึก ไม่ได้ทำงานด้วยอารมณ์ และไม่ได้ทำงานด้วยข่าวสาร เราทำงานบนความสงบของบ้านเมือง ตระหนักในความพยายามที่ทำให้ประเทศชาติมีความพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเท่านั้น
เมื่อ ถามว่ากองทัพมีแผนจะสลายการชุมนุมหรือไม่ ?
พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า กองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตยเหนือดินแดน ที่สำคัญที่สุดคือถวายความปลอดภัยราชวงศ์ และช่วยเหลือประชาชน โดยมีระบุในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทหารคือประชาชน
จากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ทรงกิติฯ ผบ.สส ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอรส. เป็นอย่างยิ่ง !!!
************************************************
"ชาญชัย"ตั้งคำถามเจรจา 4 นายกฯไม่มีทักษิณได้อย่างไร
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงข้อเสนอขององค์กรอิสระที่เสนอให้อดีต 4คน มาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่า อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นบุคคลน่าเชื่อถือ แล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนให้พวกออกมาแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้แล้วจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวสำหรับประเทศไทยที่หาเหตุผลมากันได้ ตนเห็นว่า การเดินขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ถือว่าน่ารัก เพราะไม่มีอะไรรุนแรง แต่อย่าไปทำอะไรให้เกิดความเสียหาย เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงปิดแยกราชประสงค์ยังน่ารักอยู่อีกหรือ นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องความเสียหายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และเห็นว่าในเรื่องของการเมืองถ้าไม่นิ่งเหมือนคนในครอบครัวขัดแย้งกันตลอด แล้วใครอยากจะมาอยู่ครอบครัวของเราบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของพรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นตรงกับรัฐบาลในการกำหนดทิศทางแก้ปัญหาหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เราไม่พูดถึงใครทั้งนั้น แต่พรรคเพื่อแผ่นดินมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่าย เพื่อให้ตกผลึกเสียก่อนและต้องฟังคามคิดเห็นของพรรคอื่น เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
ต่อข้อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัย กล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 50ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 40เราก็ต้องหาตัวกลาง ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือ ใช้ระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เมื่อเอากระบวนการรัฐสภามาใช้ ก็อย่าเอากระบวนการข้างนอกมาใช้ ถ้าเอาข้างนอกผสมโรงข้างในก็เป้นมะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
********************************************
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของพรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นตรงกับรัฐบาลในการกำหนดทิศทางแก้ปัญหาหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เราไม่พูดถึงใครทั้งนั้น แต่พรรคเพื่อแผ่นดินมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่าย เพื่อให้ตกผลึกเสียก่อนและต้องฟังคามคิดเห็นของพรรคอื่น เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
ต่อข้อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัย กล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 50ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 40เราก็ต้องหาตัวกลาง ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือ ใช้ระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เมื่อเอากระบวนการรัฐสภามาใช้ ก็อย่าเอากระบวนการข้างนอกมาใช้ ถ้าเอาข้างนอกผสมโรงข้างในก็เป้นมะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
********************************************
เสธ.หนั่น"ชู"บิ๊กจิ๋ว"เหมาะประสานการเจรจา
พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ถึงข้อเสนอให้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย 4 คนมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤติของประเทศในขณะนี้ว่า ถ้ามีการเจรจากันรอบที่ 3 ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะถ้าไม่พูดคุยกันก็เผชิญหน้ากันอยู่อย่างนี้ ซึ่งถ้าทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนาที่ดีก็น่าจะพูดคุยกันได้ ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประสานงานให้เกิดการพูดคุยนั้น ก็น่าจะเป็น พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่าการพูดคุยควรจะทำในทางลับหรือเปิดเผย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนคิดว่าก่อนถึงขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานที่จะคุยกันเสียก่อน โดยดูความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้มีความขัดแย้งกันตรงปัจจัยเวลาในการยุบสภาเท่านั้น ซึ่งยังไม่ควรไปกำหนดเรื่องเวลา น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพราะถ้าเราใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ทุกคนก็ไม่พอใจ และถ้าเกิดมีการยุบพรรคขึ้นมาอีก หรือไปทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็จะเป็นปัญหาได้ ดังนั้นถ้าตกลงกันได้ตรงนี้ ปัจจัยเรื่องเวลาก็ไม่สำคัญ ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เลยขั้นตอนการเจรจา ยังคุยกันได้
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มเสื้อแดงก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะถ้าพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเป็นสักขีพยานด้วยก็เบี้ยวกันไม่ได้ เมื่อถามว่าอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คนที่จะให้มาพูดคุยกันมีโอกาสที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคและเป็น ส.ส.ก็เป็นได้
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*********************************************
เมื่อถามว่าการพูดคุยควรจะทำในทางลับหรือเปิดเผย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนคิดว่าก่อนถึงขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานที่จะคุยกันเสียก่อน โดยดูความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้มีความขัดแย้งกันตรงปัจจัยเวลาในการยุบสภาเท่านั้น ซึ่งยังไม่ควรไปกำหนดเรื่องเวลา น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพราะถ้าเราใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ทุกคนก็ไม่พอใจ และถ้าเกิดมีการยุบพรรคขึ้นมาอีก หรือไปทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็จะเป็นปัญหาได้ ดังนั้นถ้าตกลงกันได้ตรงนี้ ปัจจัยเรื่องเวลาก็ไม่สำคัญ ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เลยขั้นตอนการเจรจา ยังคุยกันได้
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มเสื้อแดงก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะถ้าพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเป็นสักขีพยานด้วยก็เบี้ยวกันไม่ได้ เมื่อถามว่าอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คนที่จะให้มาพูดคุยกันมีโอกาสที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคและเป็น ส.ส.ก็เป็นได้
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*********************************************
เฮลิคอปเตอร์รับ"สุเทพ-สาทิตย์-ปณิธานพ้นเสื้อแดงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสห.ที่ถูกรวบคตัวดังกล่าวเป็นสห.ที่ขับรถนำของนายสุเทพ เทือกสุเทพ รองนายกฯ ซึ่งนายพินิจ จันทรสมบูร์ อดีตสส.ขอให้มีการตรวจค้นรถสห.ที่จอดบนชั้นลอยและรถนายสุเทพว่ามีอาวุธเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการเจรจาเพื่อขอให้ไปตรวจสอบนายสุเทพปรากฏว่าได้มีเครื่องแบล็คฮอร์ที่มาจอดพระที่นั่งวิมานเมฆได้นำตัวนายสุเทพ นายสาทิตย์ นายปณิธาน ออกไปแล้ว
นอกจากนี้ส.ส.เพื่อไทยและการ์ดนปช.ได้นำสก๊อตเทปพร้อมป้ายบอกว่า"รอการตรวจอาวุธ"มาติดทั่วรถยนตร์ของสห. ของกองพันสารวัตรทหารที่ 11 ป้ายทะเบียน 2232 โตโยต้า แคมรี่ ซึ่งใกล้กันมีรถประจำตำแหน่งของนายสุเทพ จอดอยู่ด้วย
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*************************************************
นอกจากนี้ส.ส.เพื่อไทยและการ์ดนปช.ได้นำสก๊อตเทปพร้อมป้ายบอกว่า"รอการตรวจอาวุธ"มาติดทั่วรถยนตร์ของสห. ของกองพันสารวัตรทหารที่ 11 ป้ายทะเบียน 2232 โตโยต้า แคมรี่ ซึ่งใกล้กันมีรถประจำตำแหน่งของนายสุเทพ จอดอยู่ด้วย
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*************************************************
ประชุมสภาฯล่ม
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน โดยทันทีที่เริ่มประชุมนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ได้ขอถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากที่ประชุมสภาฯ ทำให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยแสดงความไม่พอใจโดยระบุว่าก่อนหน้านี้นายนิพนธ์ได้ขอล่ารายชื่อเพื่อเสนอให้สภาฯพิจารณาในวาระสองและสามทันที แต่ถัดมามีข่าวว่าวิปรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นี้นายนิพนธ์จึงขอถอนร่างทันทีทั้งที่ยังไม่มีการหารือกับกรรมาธิการฯคนอื่นๆ
ด้านนายนิพนธ์ชี้แจงว่า ไม่มีใครสั่งตนได้ แต่เป็นเพราะทบทวนแล้วเห็นว่าถ้ามีโอกาสทบทวนร่างพ.ร.บ.นี้อีกครั้งก็น่าจะเป็นผลดี และอยากให้สอดคล้องกับที่วุฒิสภากำลังศึกษาอยู่ด้วย
จนกระทั่งเวลา 10.40 น.นายชัย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้ข่าวไม่สู้ดีว่าเสื้อแดงเพื่อนของผมกำลังเดินทางมาล้อมรัฐสภา ขณะนี้มีเพื่อนอดีตส.ส.คนหนึ่งได้นำพี่น้องเสื้อแดงมาอยู่หน้ารัฐสภาจำนวน 700 คนเรียบร้อยแล้ว แต่ในฐานะตัวแทนนิติบัญญัติก็จะทำหน้าที่ของเราต่อไป จากนั้นนายชัยได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะอนุญาตให้ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากวาระการประชุมหรือไม่ โดยนายชัยได้พยายามกดออดเรียกส.ส.ให้เข้าห้องประชุมอยู่เป็นเวลานาน แต่ผลปรากฏว่ามีผู้อยู่ในห้องประชุมเพียง 220 คนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมต้องล่มกลางคันหลังจากที่ม็อบเสื้อแดงได้มาปิดล้อมประตูทางเข้าออกอาคารรัฐสภาไว้หมดแล้ว ทำให้นายชัยต้องสั่งปิดการประชุมทันทีเมื่อเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ปรากฏว่าบรรดารัฐมนตรีและส.ส.ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากรัฐสภาได้ก็หันมาใช้บันไดหนีไฟด้านหลังติดกับพระที่นั่งพิมานเมฆเป็นทางออกแทน
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
************************************************
ด้านนายนิพนธ์ชี้แจงว่า ไม่มีใครสั่งตนได้ แต่เป็นเพราะทบทวนแล้วเห็นว่าถ้ามีโอกาสทบทวนร่างพ.ร.บ.นี้อีกครั้งก็น่าจะเป็นผลดี และอยากให้สอดคล้องกับที่วุฒิสภากำลังศึกษาอยู่ด้วย
จนกระทั่งเวลา 10.40 น.นายชัย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้ข่าวไม่สู้ดีว่าเสื้อแดงเพื่อนของผมกำลังเดินทางมาล้อมรัฐสภา ขณะนี้มีเพื่อนอดีตส.ส.คนหนึ่งได้นำพี่น้องเสื้อแดงมาอยู่หน้ารัฐสภาจำนวน 700 คนเรียบร้อยแล้ว แต่ในฐานะตัวแทนนิติบัญญัติก็จะทำหน้าที่ของเราต่อไป จากนั้นนายชัยได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะอนุญาตให้ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากวาระการประชุมหรือไม่ โดยนายชัยได้พยายามกดออดเรียกส.ส.ให้เข้าห้องประชุมอยู่เป็นเวลานาน แต่ผลปรากฏว่ามีผู้อยู่ในห้องประชุมเพียง 220 คนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมต้องล่มกลางคันหลังจากที่ม็อบเสื้อแดงได้มาปิดล้อมประตูทางเข้าออกอาคารรัฐสภาไว้หมดแล้ว ทำให้นายชัยต้องสั่งปิดการประชุมทันทีเมื่อเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ปรากฏว่าบรรดารัฐมนตรีและส.ส.ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากรัฐสภาได้ก็หันมาใช้บันไดหนีไฟด้านหลังติดกับพระที่นั่งพิมานเมฆเป็นทางออกแทน
ที่มา.เนชั่นทันข่าว
************************************************
“ฮุนเซน”ยังแน่นปึ้ก“ทักษิณ”
พรรคเพื่อไทย : นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นเล่นงานรัฐบาลไทยว่า ไม่เชื่อในสิ่งที่นายสุเทพพูด เพราะสมเด็จฮุน เซน เป็นเพื่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จฮุน เซน กับ พ.ต.ท.ทักษิณมีมากกว่าที่มีให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การที่สมเด็จฮุน เซน มีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสกับนายอภิสิทธิ์นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงมารยาททางการทูตเท่านั้น เพราะมาถึงประเทศเขาถ้าทำหน้ายักษ์หน้ามารก็ใช่เรื่อง
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่า มีสัญญาณที่ดีถึงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยให้กระทรวงการต่างประเทศหารือถึงการส่งทูตกลับไปยังประเทศกัมพูชา
ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รับทราบผลการหารือระหว่างสมเด็จฮุน เซน และนายสุเทพเมื่อวันที่ 4 เมษายนแล้ว ส่วนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีอะไรใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยที่จะส่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับไปประจำการ นายกษิตกล่าวว่า "ยังครับ ยังไม่มีอะไรใหม่"
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
************************************************
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การที่สมเด็จฮุน เซน มีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสกับนายอภิสิทธิ์นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงมารยาททางการทูตเท่านั้น เพราะมาถึงประเทศเขาถ้าทำหน้ายักษ์หน้ามารก็ใช่เรื่อง
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่า มีสัญญาณที่ดีถึงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยให้กระทรวงการต่างประเทศหารือถึงการส่งทูตกลับไปยังประเทศกัมพูชา
ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รับทราบผลการหารือระหว่างสมเด็จฮุน เซน และนายสุเทพเมื่อวันที่ 4 เมษายนแล้ว ส่วนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีอะไรใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยที่จะส่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับไปประจำการ นายกษิตกล่าวว่า "ยังครับ ยังไม่มีอะไรใหม่"
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
************************************************
แยกผ่านฟ้าราชดำเนิน สู่ แยกเอราวัณราชประสงค์ของราชประชาเสื้อแดง
ผมได้ไปตรวจแถวแนวการชุมนุมของ นปช แดงทั้งแผ่นดิน ก็ทำให้รู้สึกมีความฮึกเหิมในใจ และรู้สึกว่า การมาชุมนุมของพ่อแม่พี่น้องชาว ชนบท ทำให้มีความรู้สึกต้องยกย่องให้กับท่านทั้งหลาย ถึงแม้ผมไม่ทราบว่า ความจริงเปแนอย่างไร แต่มันได้แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวยึดมั่นในอุดมการณ์ที่มีต่อประชาธิปไตย และในความเชื่อมั่นในตัว นายกทักษิณ ชินวัตรอย่างเต็มเปี่ยม
จากการที่มาปักหลักชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ทำให้ ชาว กทม.มีความตื่นตัว ตื่นใจ ต่อการต่อสู้ของชาวเสื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการเดินขบวนประท้วงไปตามถรรหนทางต่างๆ เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก แต่กับ ฝ่ายรัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาได้มีความรู้สึกเช่นนั้นไม่ เพราะจากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้เหมือนกับซากศพที่เดินได้ ไม่มีความรู้สึกแม้กระทั่งความคิดเห็น ความเห็นใจ สงสาร พี่น้องประชาชน ที่ต้องมานั่งตากแดด ตามกลม ในท้องถนน
จนทำให้มาการเดินทางมาปักหลักที่ถนนราชประสงค์ อันเป็นที่ๆสองในการชุมนุม และที่ตรงนี้นี่เอง กลับทำให้ประชาชน ได้รับทราบเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย เช่น การไม่ยอมรับ ของนักธุรกิจในย่านนั้น การออกมาต่อว่า ต่อขาน ของ กกร. และการออกมาทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ที่ไม่ยอมเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการขับไล่ ผู้ชุมนุมประท้วงบนถนน และได้เห็นการสั่งการจาก ศอรส. ที่ออกประกาศมาใช้กับคนเสื้อแดง และยังได้เห็น
ความไม่เป็นปึกแผ่นในกองทัพ ซึ่ง ผบทบ.ได้เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกหน้ามารับใช้ รัฐบาล และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชาว กทม.ทั้งหลาย ไม่ได้มีการออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงเลยแม้แต่น้อย ส่วนเสื้อสีชมภูนั้น มันรู้กันอยู่ว่า เป็นคนของใคร ก็นับว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการเรียกร้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดง แต่ที่น่าสนใจคือว่า ได้มีชาว มุสลิมทาง3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มาร่วมกับคนเสื้อแดงต่อสู้มากยิ่งขึ้น ผมเองก็กลัวว่า วันหนึ่ง ถ้าเราได้ประชาธิปไตยมาแล้ว เราควรแบ่งประชาธิปไตยและแบ่งดินแดนให้กับเขาเหล่านั้นด้วยไหม ทำไมต้องปล่อยประเทศไทยให้เป็นเช่นนั้น
โดย.คุณ ชาว กทม.
**************************************************
จากการที่มาปักหลักชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ทำให้ ชาว กทม.มีความตื่นตัว ตื่นใจ ต่อการต่อสู้ของชาวเสื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการเดินขบวนประท้วงไปตามถรรหนทางต่างๆ เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก แต่กับ ฝ่ายรัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาได้มีความรู้สึกเช่นนั้นไม่ เพราะจากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้เหมือนกับซากศพที่เดินได้ ไม่มีความรู้สึกแม้กระทั่งความคิดเห็น ความเห็นใจ สงสาร พี่น้องประชาชน ที่ต้องมานั่งตากแดด ตามกลม ในท้องถนน
จนทำให้มาการเดินทางมาปักหลักที่ถนนราชประสงค์ อันเป็นที่ๆสองในการชุมนุม และที่ตรงนี้นี่เอง กลับทำให้ประชาชน ได้รับทราบเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย เช่น การไม่ยอมรับ ของนักธุรกิจในย่านนั้น การออกมาต่อว่า ต่อขาน ของ กกร. และการออกมาทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ที่ไม่ยอมเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการขับไล่ ผู้ชุมนุมประท้วงบนถนน และได้เห็นการสั่งการจาก ศอรส. ที่ออกประกาศมาใช้กับคนเสื้อแดง และยังได้เห็น
ความไม่เป็นปึกแผ่นในกองทัพ ซึ่ง ผบทบ.ได้เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกหน้ามารับใช้ รัฐบาล และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชาว กทม.ทั้งหลาย ไม่ได้มีการออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงเลยแม้แต่น้อย ส่วนเสื้อสีชมภูนั้น มันรู้กันอยู่ว่า เป็นคนของใคร ก็นับว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการเรียกร้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดง แต่ที่น่าสนใจคือว่า ได้มีชาว มุสลิมทาง3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มาร่วมกับคนเสื้อแดงต่อสู้มากยิ่งขึ้น ผมเองก็กลัวว่า วันหนึ่ง ถ้าเราได้ประชาธิปไตยมาแล้ว เราควรแบ่งประชาธิปไตยและแบ่งดินแดนให้กับเขาเหล่านั้นด้วยไหม ทำไมต้องปล่อยประเทศไทยให้เป็นเช่นนั้น
โดย.คุณ ชาว กทม.
**************************************************
จนมุม
ยุบสภาเถิดครับ...ท่านนายกรัฐมนตรี..ไม่มีวิธีไหนจะทำให้บาปกรรมทั้งหลาย สิ้นสุดลงได้นอกจากวิธีการนี้..เพราะในหนทางที่มีอยู่นั้น..ท่านจะใช้หนทางใด
จะใช้แบบเมษายนปี 2552..พวกเสื้อแดงก็แก้เกมไว้แล้ว..จะใช้วิธีปลอมแดงเข้ามาสร้างเรื่อง..เอารถเมล์ออกมาเผา ทำให้เกิดจลาจล..ก็ไม่ใช่ของง่าย..เพราะ
เสื้อแดง..มาดใหม่ ใช้อยู่คาถาเดียวคือ..ไม่โกรธ-ไม่รุนแรงตั้งบังเกอร์ล่อ..รอเวลาให้เสื้อแดงบุกเข้าไป..เขาก็แค่ล้อมไว้..ไม่ยอมบุกผ่านประตูจะมีประชุมระดับชาติ..เสื้อแดงก็แทบจะไม่ให้ความสนใจ แถมยังใช้จดหมายและคำขอความเห็นใจ..กลายเป็นรัฐซ้อนรัฐ..ครั้นจะใช้...ขบวนการทางศาล..ก็เข้าทางฝ่ายเสื้อแดง..ที่ตะแบงบอกกับคนไทยทั้งชาติ..ว่าประเทศนี้มีไพร่มีผู้ดี...ไพร่ทำอะไรก็ผิด ผู้ดีทำอะไรก็ถูก..เสื้อแดง..ใช้วิธีเลียนแบบ..เสื้อเหลือง..แต่อยู่ในกรอบแห่ง
กฎหมายอย่างเคร่งครัด..เรื่องยึดสนามบินกับยึดทำเนียบ...ที่กลายเป็นเสี้ยนตำเท้าที่บ่งไม่ออกหรือไม่กล้าบ่ง...เพราะกลัวว่าความจริงมันจะทะลักออกมา..ความจริงที่ฝ่ายเสื้อเหลืองครอบครองไว้..ความจริงที่แม้แต่จะโกหกคนก็เชื่อความจริงที่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ชาติไทย..สภาพของประเทศไทยวันนี้ ไม่แตกต่างไปจากสภาพของรัฐบาลของ..ท่านนายกรัฐมนตรี..มันดูทรุดโทรมและวังเวงไปในแทบจะทุกด้าน..ไม่ว่า..การค้า..ความมั่นคง และการเมืองครั้นจะใช้
ทหารเข้ามาปิดล้อมและนำตัวม็อบหรือแกนนำม็อบไปดำเนินคดี..ก็สุดปัญญาที่จะทายคาดผลที่ยาวนานออกไปในวันหน้า..หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น..คำว่าไพร่กับผู้ดี..มันมีอยู่ในกองทัพหรือไม่...และที่สำคัญที่สุดนั้น..ทหารจะสังหารประชาชนได้นานแค่ไหน..โดยเฉพาะประชาชนคนมือเปล่าและส่วนใหญ่คือผู้หญิง นานแค่ไหนที่ทหารส่วนใหญ่...จะชักชวนกันปฏิเสธคำสั่ง..และหันข้างมาอยู่ฝ่ายประชาชนมองดูทุกรูปทุกแบบแล้ว คือกันไปทั่วทุกเหลี่ยมทุกๆ มุมแล้ว..เหลือ
อยู่ทางเดียว..คือยุบสภา..แล้วไปสู้กันในเรื่องศรัทธาประชาชนศรัทธา..ที่จะเปลี่ยนมาเป็นคะแนนเสียงให้กับฝ่ายชนะ..และ..ศรัทธาของประชาชน..ในระบอบประชาธิปไตย..ศรัทธาที่เป็น..ลมหายใจของ..ประเทศในโลกเสรียุบสภา...รักษาชาติรักษาแผ่นดินเอาไว้...ก่อนที่คำว่า “ไพร่” กับ “อำมาตย์” จะพาชาติ..แยกแตกเป็นเสี่ยงๆ
ที่มา.พญาไม้ทูเดย์พญาไม้
************************************************
จะใช้แบบเมษายนปี 2552..พวกเสื้อแดงก็แก้เกมไว้แล้ว..จะใช้วิธีปลอมแดงเข้ามาสร้างเรื่อง..เอารถเมล์ออกมาเผา ทำให้เกิดจลาจล..ก็ไม่ใช่ของง่าย..เพราะ
เสื้อแดง..มาดใหม่ ใช้อยู่คาถาเดียวคือ..ไม่โกรธ-ไม่รุนแรงตั้งบังเกอร์ล่อ..รอเวลาให้เสื้อแดงบุกเข้าไป..เขาก็แค่ล้อมไว้..ไม่ยอมบุกผ่านประตูจะมีประชุมระดับชาติ..เสื้อแดงก็แทบจะไม่ให้ความสนใจ แถมยังใช้จดหมายและคำขอความเห็นใจ..กลายเป็นรัฐซ้อนรัฐ..ครั้นจะใช้...ขบวนการทางศาล..ก็เข้าทางฝ่ายเสื้อแดง..ที่ตะแบงบอกกับคนไทยทั้งชาติ..ว่าประเทศนี้มีไพร่มีผู้ดี...ไพร่ทำอะไรก็ผิด ผู้ดีทำอะไรก็ถูก..เสื้อแดง..ใช้วิธีเลียนแบบ..เสื้อเหลือง..แต่อยู่ในกรอบแห่ง
กฎหมายอย่างเคร่งครัด..เรื่องยึดสนามบินกับยึดทำเนียบ...ที่กลายเป็นเสี้ยนตำเท้าที่บ่งไม่ออกหรือไม่กล้าบ่ง...เพราะกลัวว่าความจริงมันจะทะลักออกมา..ความจริงที่ฝ่ายเสื้อเหลืองครอบครองไว้..ความจริงที่แม้แต่จะโกหกคนก็เชื่อความจริงที่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์ชาติไทย..สภาพของประเทศไทยวันนี้ ไม่แตกต่างไปจากสภาพของรัฐบาลของ..ท่านนายกรัฐมนตรี..มันดูทรุดโทรมและวังเวงไปในแทบจะทุกด้าน..ไม่ว่า..การค้า..ความมั่นคง และการเมืองครั้นจะใช้
ทหารเข้ามาปิดล้อมและนำตัวม็อบหรือแกนนำม็อบไปดำเนินคดี..ก็สุดปัญญาที่จะทายคาดผลที่ยาวนานออกไปในวันหน้า..หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น..คำว่าไพร่กับผู้ดี..มันมีอยู่ในกองทัพหรือไม่...และที่สำคัญที่สุดนั้น..ทหารจะสังหารประชาชนได้นานแค่ไหน..โดยเฉพาะประชาชนคนมือเปล่าและส่วนใหญ่คือผู้หญิง นานแค่ไหนที่ทหารส่วนใหญ่...จะชักชวนกันปฏิเสธคำสั่ง..และหันข้างมาอยู่ฝ่ายประชาชนมองดูทุกรูปทุกแบบแล้ว คือกันไปทั่วทุกเหลี่ยมทุกๆ มุมแล้ว..เหลือ
อยู่ทางเดียว..คือยุบสภา..แล้วไปสู้กันในเรื่องศรัทธาประชาชนศรัทธา..ที่จะเปลี่ยนมาเป็นคะแนนเสียงให้กับฝ่ายชนะ..และ..ศรัทธาของประชาชน..ในระบอบประชาธิปไตย..ศรัทธาที่เป็น..ลมหายใจของ..ประเทศในโลกเสรียุบสภา...รักษาชาติรักษาแผ่นดินเอาไว้...ก่อนที่คำว่า “ไพร่” กับ “อำมาตย์” จะพาชาติ..แยกแตกเป็นเสี่ยงๆ
ที่มา.พญาไม้ทูเดย์พญาไม้
************************************************
"เพื่อไทย"เล็งออกโรดแมพ เสนอแนวทางแก้วิกฤติชาติ
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานคณะทำงานประสานงานศูนย์ช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของประชาชน (ศชปป.) หรือ วอร์รูม กล่าวว่า ในวันนี้ (6 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันจักรี แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยังวิกฤติจำเป็นต้องประชุมหารือร่วมกัน โดยทางพรรคเพื่อไทยได้นัดประชุม ส.ส.และคณะกรรมการบริหารพรรค ในเวลา 14.00 น. เพื่อตัดสินใจถึงการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองโดยเฉพาะประเด็นการยุบสภา ทั้งนี้จะมีองค์กรต่างๆ เข้าร่วมให้ความเห็นต่อการประชุมของพรรค และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้แสดงจุดยืนคำอธิบายชัดเจนทุกด้านคล้าย ๆ โรดแมพ ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมา
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ฯของพรรคเพื่อไทย มีหลายเรื่องที่ไม่สบายใจและมีคำเสนอแนะไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.พรรคไม่สบายใจที่รัฐบาลมองกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมเป็นศัตรู เพราะรัฐบาลพูดมาตลอดเหมือนเสื้อแดงเป็นศัตรูซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดี
2.ไม่สบายใจที่รัฐบาลเพิ่มการโฆษณาชวนเชื่อว่าเสื้อแดงไม่ดี เป็นคนเลว เป็นกลุ่มที่เป็นภัยทางสังคมและกล่าวหาว่ามีวัตถุประสงค์มุ่งร้ายต่อสถาบัน
3.เมื่อใดที่รัฐบาลตัดสินใจ คิดสลายการชุมนุมโดยการทำร้ายประชาชน ทาง ส.ส.และสมาชิกพรรคจะต่อต้านรัฐบาลทุกรูปแบบ
4.ขอให้รัฐบาลส่งกำลังทหาร กลับกรม กอง เพื่อกองทัพได้ทำหน้าที่ป้องกันอธิปไตยได้เต็มกำลังความสามารถ เพราะไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะคงกำลังทหารไว้ในกรุงเทพฯ จำนวน 7 หมื่นนาย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
5.กรณีที่มีคดีความ พรรคเพื่อไทยขอร้องให้กระบวนการยุติธรรมให้ความยุติธรรมกับคนเสื้อแดงอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่มีสองมาตรฐาน แต่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกับฝ่ายอื่น โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มพันธมิตรฯ
6.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความแยกแตกของคนชาติโดยเร็วโดยการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทันที
7.พรรคเพื่อไทย เห็นว่าการรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดง จะลดความรุนแรงด้วยการเจรจาได้ดีที่สุด หากปล่อยให้สถานการณ์สุกงอมอาจเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง อาจเกิดมิคสัญญีขึ้นในบ้านเมืองได้
ที่มา.ข่าวเพื่อไทย
**************************************************
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะทำงานยุทธศาสตร์ฯของพรรคเพื่อไทย มีหลายเรื่องที่ไม่สบายใจและมีคำเสนอแนะไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.พรรคไม่สบายใจที่รัฐบาลมองกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมเป็นศัตรู เพราะรัฐบาลพูดมาตลอดเหมือนเสื้อแดงเป็นศัตรูซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดี
2.ไม่สบายใจที่รัฐบาลเพิ่มการโฆษณาชวนเชื่อว่าเสื้อแดงไม่ดี เป็นคนเลว เป็นกลุ่มที่เป็นภัยทางสังคมและกล่าวหาว่ามีวัตถุประสงค์มุ่งร้ายต่อสถาบัน
3.เมื่อใดที่รัฐบาลตัดสินใจ คิดสลายการชุมนุมโดยการทำร้ายประชาชน ทาง ส.ส.และสมาชิกพรรคจะต่อต้านรัฐบาลทุกรูปแบบ
4.ขอให้รัฐบาลส่งกำลังทหาร กลับกรม กอง เพื่อกองทัพได้ทำหน้าที่ป้องกันอธิปไตยได้เต็มกำลังความสามารถ เพราะไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะคงกำลังทหารไว้ในกรุงเทพฯ จำนวน 7 หมื่นนาย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
5.กรณีที่มีคดีความ พรรคเพื่อไทยขอร้องให้กระบวนการยุติธรรมให้ความยุติธรรมกับคนเสื้อแดงอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องไม่มีสองมาตรฐาน แต่ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกับฝ่ายอื่น โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มพันธมิตรฯ
6.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความแยกแตกของคนชาติโดยเร็วโดยการยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนทันที
7.พรรคเพื่อไทย เห็นว่าการรื้อฟื้นการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับคนเสื้อแดง จะลดความรุนแรงด้วยการเจรจาได้ดีที่สุด หากปล่อยให้สถานการณ์สุกงอมอาจเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง อาจเกิดมิคสัญญีขึ้นในบ้านเมืองได้
ที่มา.ข่าวเพื่อไทย
**************************************************
ทักษิณแจงงดลิงก์ ไม่ได้ป่วย ให้แดงสู้เพื่อปชต.
พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์ชี้แจง ไม่ได้วิดีโอลิงก์ช่วงนี้ เนื่องจากต้องการให้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยล้วนๆ ยันไม่ได้เจ็บป่วย แข็งแรงดี ขณะ บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ...
เมื่อคืนวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา บรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ และ สะพานผ่านฟ้าฯ เป็นไปด้วยความสงบ แม้ว่าแกนนำ มีการบอกว่าอาจมีการสลายการชุมนุม แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งว่าเป็นไข้หวัดและเจ็บคอ ขอไม่วิดีโอลิงก์มาพูดกับผู้ชุมนุมในคืนนี้ (6เม.ย.)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ตามเวลาประเทศไทย วันที่ 7 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทวิตเตอร์ ระบุว่า "ผมต้องขออภัยท่ีไม่ค่อยได้ปราศัยช่วงนี้ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรหรอกครับ ผมแข็งแรงดี แต่อยากให้เวทีเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรม ล้วนๆ"
ส่วนที่ จ.ร้อยเอ็ด เวลา 21.30 น. วันที่ 6 เม.ย. คนเสื้อแดงร้อยเอ็ดได้ตั้งเวที ติดตั้งเครื่องขยายเสียงกำลังสูง พร้อมจอและโปรเจคเตอร์ เพื่อถ่ายทอดเสียงและภาพการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสี่แยกราชกระสงค์ ให้คนเสื้อแดงรอยเอ็ดดู สลับกับการให้แกนนำปราศรัยโจมตีรัฐบาล เพื่อรอคนเสื้อแดงจากต่างอำเภอเดินทางมาสมทบการชุมนุม ซึ่งเป็นปรากฏว่า มีคนเสื้อแดงจาก อ.อาจสามารถ มาจำนวนมากที่สุดรวมจำนวนกว่า 300 คน
ที่มา. Pitakthai.com
***********************************************
เมื่อคืนวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา บรรยากาศการชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ และ สะพานผ่านฟ้าฯ เป็นไปด้วยความสงบ แม้ว่าแกนนำ มีการบอกว่าอาจมีการสลายการชุมนุม แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งว่าเป็นไข้หวัดและเจ็บคอ ขอไม่วิดีโอลิงก์มาพูดกับผู้ชุมนุมในคืนนี้ (6เม.ย.)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ตามเวลาประเทศไทย วันที่ 7 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทวิตเตอร์ ระบุว่า "ผมต้องขออภัยท่ีไม่ค่อยได้ปราศัยช่วงนี้ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรหรอกครับ ผมแข็งแรงดี แต่อยากให้เวทีเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรม ล้วนๆ"
ส่วนที่ จ.ร้อยเอ็ด เวลา 21.30 น. วันที่ 6 เม.ย. คนเสื้อแดงร้อยเอ็ดได้ตั้งเวที ติดตั้งเครื่องขยายเสียงกำลังสูง พร้อมจอและโปรเจคเตอร์ เพื่อถ่ายทอดเสียงและภาพการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และสี่แยกราชกระสงค์ ให้คนเสื้อแดงรอยเอ็ดดู สลับกับการให้แกนนำปราศรัยโจมตีรัฐบาล เพื่อรอคนเสื้อแดงจากต่างอำเภอเดินทางมาสมทบการชุมนุม ซึ่งเป็นปรากฏว่า มีคนเสื้อแดงจาก อ.อาจสามารถ มาจำนวนมากที่สุดรวมจำนวนกว่า 300 คน
ที่มา. Pitakthai.com
***********************************************
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)