--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2553

"จตุพร"กร้าวพรุ่งนี้วันสุดท้ายรบ. "ไพจิตร"เล็งขอมติเยี่ยม"เอเอสทีวี" "ณัฐวุฒิ"จี้รบ.คืนสัญญาณทีวีแดง

"ณัฐวุฒิ"ขีดเส้นตายรัฐบาลคืนสัญญาณทีวีเสื้อแดงเย็นนี้ ขู่ยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด ผู้บริหารไทยยังไม่ชี้แจงเหตุปิดช่องแดง "ไพจิตร"คุยแกนนำขอมตินำเสื้อแดงเยี่ยมเอเอสทีวี "ตู่"กร้าวพรุ่งนี้วันสุดท้ายของรัฐบาล

"จตุพร"กร้าวพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของ รบ. แดงเคลื่อนไหวใหญ่ที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงา ว่า บรรยากาศบริเวณราชประสงค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่มแนวมร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ ได้ขึ้นปราศรัย ถึงกรณีที่รัฐบาลตัดสัญญาณทีสีช่อง พีเพิลชาแนลว่า การกระทำครั้งนี้ทำให้กลุ่มคนเสื้อประกาศการรวมพลครั้งใหญ่ที่สุด และยังประกาศให้ผู้ชุมนุมเตรียมมือถือไว้ เพื่อให้ถ่ายเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ไว้

นายจตุพร กล่าวว่า ยังคงไม่ความเคลื่อนไหวใด ๆ ในขณะนี้และวันที่ 9 เมษายนนี้ จะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุด และจะเป็นวันสุดท้ายของรัฐบาลด้วยเช่นเดียวกัน

"ไพจิตร อักษรณรงค์"คุย"ณัฐวุฒิ"ขอมตินำเสื้อแดงเยี่ยมเอเอสทีวี

นางไพจิตร อักษรณรงค์ แกนนำคนเสื้อแดง ขึ้นปราศรัยที่เวทีปราศรัยคนเสื้อแดงที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล ได้จอดำไปแล้วทั้งในระบบที่ยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมไทยและ ที่ยิงสัญญาณผ่านดาวเทียมเอ็นเอสเฮชซิกซ์ (NSH6) ของต่างประเทศ แต่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ยังออกอากาศได้อย่างชัดเจน จึงจะไปปรึกษากับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) เพื่อดาวกระจายไปเยี่ยมสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่ท่าพระอาทิตย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเวทีการชุมนุมที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาส เพื่อขอมติแกนนำให้นำผู้ชุมนุมดาวกระจายไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเที่ยง ผู้ชุมนุมได้นำศิลปกรรมรูปสัตว์ 4 เท้าสีเหลือง 3 หัว ที่ปั้นโดยนายไม้หนึ่ง ก.กุณที ที่มีรูปบุคคลหน้าคล้าย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ใส่เสื้อสีเหลืองนั่งคุมบังเหียนอยู่บนหลัง ส่วนหัวทั้ง 3 หัวนั้นมีหัวด้านซ้าย หน้าตาคล้ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตารี หัวตรงกลาง หน้าคล้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวด้านขวา หน้าคล้ายนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

"เสื้อแดง"ตั้งเวทีหน้าไทยคม ผู้บริหารยังไม่ชี้แจงเหตุปิดช่องแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมบริเวณสถานีดาวเทียมไทยคม กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้จัดตั้งเวทีปราศรัยขึ้น รวมถึงได้รวมพลคนเสื้อแดงเพิ่มขึ้นอีก ในบริเวณสถานีดาวเทียมไทยคม เพื่อปักหลักเรียกร้องให้มีการเปิดสัญญาช่อง พีเพิล เชแนล อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารสถานีดาวเทียมไทยคมก็ยังคงไม่ได้ออกมาชี้แจงในกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

"ณัฐวุฒิ"ลั่นรบ.คืนสัญญาณพีเพิลชาแนลเย็นนี้มิฉะนั้นยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตย ได้ประกาศบนเวทีปราศรัยว่าขอให้รัฐบาลคืนสัญญาณออกอากาศพีเพิลชาแนลพีทีวีภายในเย็นวันที่ 8 เมษายน หากไม่คืนจะประกาศยกระดับการชุมนุมขั้นสูงสุด และในเวลา 09.00 น.วันที่ 9 เมษายนจะมีการชุมนุมต้านพ.ร.ก.ฉุกเฉินและถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดเช่นกัน

"การที่รัฐบาลปิดสัญญาณครั้งนี้อาจมีการเตรียมสลายการชุมนุมภายในเช้าพรุ่งนี้และหากเป็นเช่นนั้นวันพรุ่งนี้ก็จะแสดงพลังครั้งสูงสุดและการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 11.00 น.วันที่ 8 เมษายน เวทีเสื้อแดงคึกคักแม้ว่าแดดจะร้อนหลังแกนนำประกาศว่ามีความพยายามตัดสัญญาณ ไทยคมและปิดพีเพิลชาแนล โดยแกนนำบอกว่าอย่างไรขอให้ผนึกกำลังอย่าไปไหนให้ยึดบริเวณราชประสงค์เป็นฐานที่ตั้งห้ามทิ้ง

"ณัฐวุฒิ"ยื่นคำขาดรัฐบาลคืนสัญญาณถ่ายทอดพีเพิลชาแนล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังรัฐบาลได้มีการตัดสัญญาณดาวเทียม ทำให้พีเพิลแชนแนล เป็นจอดำนั้น 10.30น. วันที่ 8 เมษายน นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมรับ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และจะมีการระดมพลครั้งใหญ่ใน วันที่ 9 เมษายน ที่สี่แยกราชประสงค์ และจะมีการประกาศมาตรการในการเคลื่อนไหวในเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน

ส่วนการชุมนุมทั้งสองเวทีจะยังคงมีตามปกติ ไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือยุบรวมเวทีแต่อย่างใด พวกเราขอประณามการกระทำของรัฐบาล ในการพยายามที่จะปิดสถานีโทรทัศน์ พัเพิลแชนแนล (พีทีวี) รวมไปถึงการบุกยึดสถานีดาวเทียมไทยคม ถือเป็นรัฐบาลเผด็จการ ตรงกันข้าม ที่ผ่านมาการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่มีรัฐบาลไหนที่จะคิดจะปิด เอเอสทีวี ทั้งๆที่สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจทราบมาว่าบ่ายรัฐบาลจะมีการเรียกผู้ประกอบการ โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ เคยู แบนด์ เพื่อขอให้ยุติการออกอากาศของพัเพิลแชนแนล ในระบบนี้หลังจากที่ได้ตัดระบบ ซี แบนด์ ไปแล้ว ในระบบ เคยู แบนด์ เป็นช่องทางการออกอากาศของเอเอสทีวีด้วย ดังนั้ จะต้องรอดูว่า ถ้ามีการตัดระบบ เคยู แบนด์ จริงเอเอสทีวสีจะจอดำหรือไม่

ดังนั้นเราขอยื่นคำขาดให้กับรัฐบาลว่า ต้องคืนสัญญาณการออกอากาศให้กับพีเพิลแชนแนล ทันที หากรัฐบาลยังไม่คืนจะมีการประกาศมาตรการในการเคลื่อนไหวต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลจะล้อมปราบเราได้ หรือจะสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้า หรือราชประสงค์ได้ ยืนยันว่ามันไม่จบ เพราะคนเสื้อแดงมีทั้งประเทศ ตรงกันข้ามจะเป็นการเพิ่มความโกรธแค้นและชิงชัง และจะนำไปสู่ภาวะ การไร้รูปแบบในการต่อสู้

"ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการแจ้งความกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ที่พกอาวุธสงครามในรัฐสภา การเจรจา ยืนยันว่า พวกเรายังไม่ปิดทาง หรือโอกาสในการตั้งโต๊ะเจรจา แต่สถานการณ์แบบนี้อยากถามว่าจะเจรจากันอย่างไร เพราะรัฐบาล กำลังมัดมือเท้าคนเสื้อแดง และบีบบังคับเรา แบบนี้จะเจรจากันได้อย่างไร สื่อมวลชน ควรยุติคำถามเรื่องนี้ได้เแล้ว หากสถานการณ์เป็นแบบนี้"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากสัญญาณพีเพิลถูกตัดได้มีการระดมคนเสื้อแดงให้ออกมารวมตัวกันทั่วประเทศที่ศาลากลางจังหวัดและจุดต่างๆพร้อมกับให้เดินทางมากรุงเทพที่สี่แยกราชประสงค์

เสื้อแดงประกาศภาวะฉุกเฉิน ควบคุมรัฐบาล หารือเคลื่อนไหวต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศบนเวทีว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน คนเสื้อแดงขอประกาศภาวะฉุกเฉินควบคุมรัฐบาลอีกที ส่วนการเคลื่อนไหวจะมีการหารือและประกาศเป็นระยะ ๆ ต่อไป

พีเพิล แชลแนล สัญญาณหาย กลายเป็นจอมืด

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่แกนนำคนเสื้อแดง จะขึ้นแถลงข่าวถึงทิศทางการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่เวทีบริเวณ แยกราชประสงค์ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีพีเพิล แชลแนล ผลปรากฎว่า อยู่ ๆสัญญาณการออกอากาศก็ได้ขาดหายไป กลายเป็นจอสีดำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากสิ่งใด

"จตุพร"ท้าสลายม็อบ ลั่นสู้เมือเปล่าจนชนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยพูดถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงว่าตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การที่รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงทำให้รัฐบาลมีอำนาจเต็ม ทหารมีอาวุธ แต่ประชาชนจะสู้มือเปล่าและจะไม่ยอมถอยจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ผู้ชุมนุมที่ต่างจังหวัดพร้อมมาสมทบ แม้มีการสกัด และหากถูกสลายเมื่อไหร่ ประชาชนจะหลั่งไหลมากทม. ตนขอท้านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะสลายการชุมนุม จะทำก็ทำอย่าช้า รัฐบาลมีพฤติกรรมสองมาตรฐานเรื่องตัดสัญญาณและขอประกาศว่า การเจรจาจะไม่มีอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นรอบสามรอบสี่หรือรอบไหน ๆ ก็ไม่มี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา การดูแลความเรียบร้อยของการ์ด นปช.ไม่ค่อนเข้มงวดเท่าที่ควร และปล่อยให้รถที่วิ่งจากถนนสุขุมวิทเลี้ยวซ้ายไปถนนสีลม ส่วนผู้ชุมนุมเสื้อแดงขณะนี้หางแถวอยู่ประตูน้ำ ส่วนที่ด้านหน้าเวทีเต็มไปด้วยเสื้อแดงที่ล้อมทีอยู่

ด้านนายนิสิต สินธุไพร แกนนำเสื้อแดง กล่าวว่า ประชาชนที่อยู่เวทีราชประสงค์มีประมาณ 2 หมื่นคน รัฐบาลจะมาสลายคงยากเพราะเมื่อคืนนี้ก็ปักหลักชุมนุมเพราะรู้ว่ารัฐบาลจะมาสลาย ก็ขอให้มา และการที่รัฐบาลประกาศพรก.ฉุกเฉินรัฐบาลตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่แยกราชประสงค์ ยังเป็นไปอย่างไม่ค่อยคึกคักนักในการนั่งฟังปปราศรัย เนื่องจาก คนเสื้อแดงบางส่วนต้องทำกิจวัตรประจำวัน ส่วนแกนนำคนอื่นๆ อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง มีการปราศรัยบนเวที สลับกับการร้องเพลง โดยเนื้อหาบนเวทีนั้น ยังเป็นการปราศรัยโจมตีรัฐบาล ที่ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้ง ยังเร่งให้มีการยุบสภาโดยเร็ว

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุม ติดตั้งลำโพงเพิ่มเติมบนสะพานเฉลิมโลก เพื่อปลุกระดมมวลชนให้เข้ามาร่วมชุมนุม

สำหรับ ประชาชนที่ทำงานในละแวกนี้ ยังคงเดินทางมาทำงาน ย่านราชประสงค์ เพลินจิต และ ชิดลม ตามปกติ ส่วนการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บริเวณกลุ่มผู้ชุมนุม ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอยู่ตามจุดต่างๆ กระจายโดยรอบพื้นที่ พร้อมมี การ์ด นปช. คอยตรวจตราความเรียบร้อย โดยยังไม่มีเจ้าหน้าที่ทหาร อยู่ใกล้กับพื้นที่การชุมนุมแต่อย่างใด

แบ่งกลุ่มเฝ้า"ห้างอิมพีเรียล-ไทยคม" หวั่นพีเพิลชาแนลจอดำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งไปชุมนุมเฝ้าระวังสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนล ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว ภายหลังมีข่าวการปิดโทรทัศน์คนเสื้อแดงแพร่สะพัด ขณะที่สถานีดาวเทียมไทยคม พบว่าคนเสื้อแดงประมาณ 100 คนปักหลักอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเวทีปราศรัย ส่งผลให้การจราจรย่านแครายติดขัดอย่างหนัก ขณะที่พนักงานบางส่วนขอหยุดงาน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย


ที่มา.มติชนออนไลน์
**********************************************

นี่แหละ"ฮุนเซน"

ท่าทีที่ สมเด็จฮุนเซน แสดงต่อนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่หัวหิน กลายเป็นภาพข่าวขึ้นหน้า 1 หนังสือ พิมพ์ทุกฉบับ

เพราะก่อนหน้านี้แค่วันเดียว นายกฯ ไทยเองยังไม่มีวาระอะไรพิเศษกับสมเด็จฮุนเซน

สืบเนื่องจากการขัดแย้งระหว่างนายกฯ ไทยกับกัมพูชา ซึ่งครั้งล่าสุดที่เป็นข่าวออกมา ก็เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมานี้เอง

ทุกคนก็คาดเดากันว่า ทั้งสองคงจับมือพอเป็นพิธี แล้วก็แยกย้ายไปคนละมุม เหมือนที่ฮุนเซนเคยแสดงออกให้เห็นมาแล้วหนหนึ่ง

แต่คราวนี้กลายเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ "ฮุนเซน" จับมือ "มาร์ค" เขย่าแรงๆ นานๆ

เห็นได้ชัดว่าฮุนเซนต้องการสื่อให้ฝ่ายไทยเอง รวมถึงสื่อมวลชนทั่วโลก ได้เห็นเจตนาของตน

จับมือกันเสร็จ ฮุนเซนก็ไม่ไปไหนไกล ยืนข้างๆ นายกฯ อภิสิทธิ์ คอยรับแขกเมืองรายอื่นๆ อีกต่างหาก!

แล้วเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่เผยเบื้องหลังของการสนทนากัน

ฮุนเซนแยกแยะออกแล้ว ระหว่างเรื่องบ้านเมืองกับเรื่องส่วนตัว

ถึงขนาดจะไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อนซี้ เข้ากัมพูชาเพื่อเป็นฐานโจมตีไทยอีก

ย้อนรอยความบาดหมางระหว่างรัฐบาลอภิสิทธิ์กับฮุนเซน มาจากเรื่องเขาพระวิหาร

ประกอบกับฮุนเซนรู้ว่าโดนรมว.ต่างประเทศไทย ด่าบนเวทีพันธมิตรฯ เสียๆ หายๆ

เลยปรากฏเกมทักษิณโฉบเข้าเขมร

ครั้งนั้น บ้างมองว่าทักษิณยืมมือฮุนเซน แต่บางคนก็มองว่าฮุนเซนต่างหาก ยืมมือทักษิณ

มีการสั่งจับวิศวกรไทย ในลักษณะแค่ตบหน้าให้แสบๆ คันๆ

ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เสื่อมทรุดลงอย่างรวดเร็ว

สมเด็จฮุนเซนยังปฏิบัติการจิตวิทยากับรัฐบาลไทยอีกรอบ แต่งชุดลายพรางมาตรวจชายแดน

แต่คราวนี้ ฝ่ายนายอภิสิทธิ์ไม่ตกหลุมพราง ไม่ยอมต่อปากต่อคำใดๆ ด้วย ส่งแต่ทหารไปตรึงไม่ให้ข้ามแดนเด็ดขาด

เล่นเอาฮุนเซนนอตหลุด ด่านายอภิสิทธิ์ยาวเหยียดชุดใหญ่ หาว่าเป็นคนไม่มีสกุลรุนชาติ

เยาะเย้ยนายอภิสิทธิ์ว่าถูกปาขี้ใส่บ้านก็แล้ว ยังไม่ลาออกอีก

ว่าแล้วก็แช่ง "ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หักคอคุณ ถูกยิง รถชน ไฟชอร์ต ปืนลั่นใส่"

เกมของฝ่ายอภิสิทธิ์ตอบโต้กลับอย่างเหนือชั้น โดยปล่อยคนระดับ "เทพไท เสนพงศ์" ที่เป็นมวยคนละเกรดกับฮุนเซนมาลุยแทน

ขุดภาษาเขมรมาด่าตอบ "จะแกคำ จะไมกำพร็อบ"

แปลว่า "หมากัดอย่ากัดตอบ"

หลังจากหนนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างคนต่างอยู่ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ เอง แม้จะมีข่าวลือว่าจะกลับมาที่กัมพูชาอีก แต่ก็ไม่ได้มาอีกเลย

จนกระทั่งฮุนเซนมาแสดงบท "หวานเจี๊ยบ" ต่อหน้าชาวโลกที่หัวหิน

จะจริงใจแค่ไหน ใครจะรู้?


ที่มา.ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์. เหล็กใน
***********************************************

M 79,16 ยิงถล่มตึกทีพีไอ ไร้คนเจ็บ

เมื่อเวลา 01.30 น.ร.ต.ท.จักรพันธุ์ เหมือนแก้ว พนักสอบสวน สบ.1 ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ตึกทีพีไอ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบก.น.5 ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงห่างตึกทีพีไอประมาณ 10 เมตร พบปลอกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ที่ขอบทางจำนวน 1 ปลอก ห่างกันประมาณ 5 เมตรพบหัวกระสุนเอ็ม 79 จำนวน 1 หัวตกอยู่

สอบสวน รปภ.ของตึกทีพีไอให้การว่า คนร้ายขับจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวบ จำรุ่นและหมายเลขทะเบียนไม่ได้ แต่งกายชุดสีดำ คนร้ายนั่งซ้อนท้ายผมยาวชักปืนออกมาเล็งใส่ตน จึงรีบหลบก่อนที่คนร้ายจะขับหลบหนีไป ขณะเดียวกัน รปภ.ปั๊มน้ำมันใกล้เคียงกันให้การว่า เห็นคนร้ายใส่ชุดดำจอดรถก่อนถึงสี่แยกไฟแดงแล้วคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนเล็งแล้วยิงไปที่ตึกทีพีไอก่อนจะขับหลบหนี

พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบก.น.5 กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากรปภ.ว่ามีวัยรุ่น 2 คน สวมชุดสีดำ สวมหมวกไหมพรหมขับจยย.ฮอนด้าเวบ ไม่แน่ใจว่าเสีดำหรือสีน้ำเงินใช้อาวุธปืนยิงใส่ตึกทีพีไอจำนวน 2 นัด แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตระเวณหาพยานบุคคลและภาพวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามจับคนร้ายต่อไป



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
******************************************

ยิง M 79 -16 ถล่มพรรคการเมืองใหม่

เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.สุรพล ใจห้าว พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ รุดไปตรวจสอบพ

ที่เกิดเหตุพบประตูบานเลื่อนที่ทำการพรรคมีรอยกระสุน 1 รู ฝ้าปูน 1 รู กระจกด้านบนแตก 1 บาน ส่วนบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องแถลงข่าวพบกระจกแตกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบหัวกระสุนเอ็ม 79 กับหัวกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่ภายในห้องด้วย ส่วนด้านหน้าของพรรคบริเวณพื้นถนนพบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 12 ปลอก ขณะเดียวกันพบเจ้าหน้าที่ ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาการณ์อยู่บริเวณหน้าพรรคการเมืองใหม่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อด.ต.สุพจน์ ขานพล อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ ป.อ.บรบือ จ.มหาสารคาม มีบาดแผลที่แขนและไหล่ซ้าย ถูกนำตัวส่ง รพ.วชิรพยาบาลแล้ว

สอบสวนนายกิตติชัย ใสสะอาด หัวหน้าชุด รปภ.พรรคการเมืองใหม่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าสีบรอนซ์ ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน ได้ขับนำหน้ารถจยย.คนร้าย ยี่ห้อฮอนด้า แบบผู้หญิง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเช่นกัน โดยจำลักษณะคนร้าย 2 คนได้ว่า ทั้งสองคนไม่สวมหมวกนิรภัย สวมชุดสีดำทั้งคู่ คนซ้อนท้ายผมยาว ขณะขับผ่านหน้าพรรคคนร้ายก็ได้ชักอาวุธปืนยาวขึ้นมากราดยิงใส่และขับจยย.หลบหนีไปทางสะพานวันชาติ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณพรรคว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้หรือไม่


ที่มา.เนชั่นทันข่าว
**************************************************

วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

กสม.เล็ง12เม.ย.ถกอดีตนายกฯ เพิ่ม "สมชาย" พผ.ชง"ทักษิณ"แจม "เติ้ง"จี้รบ.ยังซื้อเวลาขู่คิดอะไรสักอย่าง

กสม.เล็ง 12 เม.ย.ตั้งวงถกอดีตนายกฯ เพิ่ม"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อีก 1 เพื่อแผ่นดินให้"ทักษิณ"แจมด้วย "จิ๋ว"แนะเร่งหาเงื่อนเวลายุบสภาทางออก "เติ้ง"ขอหลังสงกรานต์ จี้"รัฐบาล"เดินตามโรดแมป 9 เดือน ซัด"มาร์ค"ไม่จริงใจซื้อเวลาแก้ รธน. ทำเสียความรู้สึก แย้มหากไม่ทำ"ชทพ."จะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง

กสม.เพิ่มอดีตนายกฯสมชาย

เวลา 13.00 น. วันที่ 7 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นำโดย นพ.ชูชัย ศุภวงค์ เลขาธิการ กสม. นายไพบูลย์ วรหะไพทูรย์ นางอัมรา พงศาพิชญ์ นายปริญญา ศิริสารการ นพ.แท้จริง ศิริพานิช นำกระเช้าดอกไม้มอบให้กับ พล.อ.ชวลิต จากนั้นร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย มี พล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.สัดส่วน พท. นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ในฐานะคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. เป็นตัวแทนพรรคร่วมหารือด้วย

นพ.ชูชัยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมว่าจะเดินสายพบกับผู้นำศาสนาทุกศาสนาและผู้นำชุมชนต่างๆ โดยวันจันทร์ที่ 12 เมษายน จะพบผู้นำศาสนาอิสลาม รวมถึงอดีตนายกฯอีกหนึ่งคน แต่ยังไม่ตอบรับ ตอนนี้ที่ตอบรับคือนายบรรหาร นายชวน นายอานันท์ และ พล.อ.ชวลิต
ด้าน พล.อ.ชวลิตปฏิเสธให้สัมภาษณ์ กล่าวเพียงว่าได้เสนอให้ กสม.พบอดีตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด โดย กสม.ได้ระบุว่าได้ติดต่อขอพูดคุยกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วซึ่งนายสมชายก็ตอบตกลง

"จิ๋ว"แนะเร่งหาเงื่อนเวลายุบ

เวลา 15.00 น. นางอมรากล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ พล.อ.ชวลิตสะท้อนคือ
1.การเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นสาเหตุให้มีการชุมนุม อีกทั้งเป็นเรื่องที่อำนาจต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่นายกฯต้องเข้าใจปัญหาบ้านเมืองเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากแก้ไม่ได้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาธิปไตย
2.พล.อ.ชวลิตเห็นว่าการเจราจาระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาลเป็นเรื่องดีทำให้ความขัดแย้งยุติลงชั่วคราว แต่วันนี้สิ่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเรื่องเงื่อนเวลายุบสภาเท่านั้น โดยเสนอว่าควรหาคนกลาง เช่น นักวิชาการ เพราะเวลาเหลือไม่มากจะต้องเร่งทำ
3.เรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม กระบวนการยุติธรรมที่เป็นสองมาตรฐานการปฏิรูปที่ดินและการกระจายทรัพย์สินสู่ประชาชนที่เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน รวมถึงเรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

เล็งตั้งวงถกบ่าย 12 เม.ย.

ด้าน นพ.ชูชัยกล่าวว่า พล.อ.ชวลิตเห็นว่าเป็นไปได้ยากที่จะแก้รัฐธรรมนูญเวลานี้ แต่เรื่องเร่งด่วนคือเงื่อนเวลายุบสภา ต้องหาข้อตกลงกันให้ได้ และอยู่ระหว่างคำยืนยันจากนายอานันท์ ซึ่งได้ประสานไว้ในช่วงบ่ายวันที่ 12 เมษายน

นายอานันท์ ปันยารชุน กล่าวว่า นพ.ชูชัยติดต่อเชิญพูดคุยทางออกของประเทศ โดยหลักการไม่ได้ขัดข้อง ให้นัดมาว่าจะร่วมหารือกันภายในวันไหน แต่ยังไม่ทราบเรื่องการนัดวันที่ 12 เมษายนนี้ แม้จะเป็นอดีตนายกฯ แต่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง และพัวพันกับการเมือง แต่ตนไม่ได้มีบทบาท อำนาจ และหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และว่า รู้สึกเป็นห่วงและกังวลในสถานการณ์ขณะนี้ เพราะสถานการณ์เริ่มเลยเถิดแล้ว

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลยุบสภา ปัญหาจะจบลงหรือไม่ นายอานันท์กล่าวว่า ปัญหาการเมืองเกิดก่อนที่จะตั้งรัฐบาลชุดนี้เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นประเด็นไม่ได้อยู่ที่การยุบสภา แต่อยู่ที่การเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินไปอย่างอิสระและเป็นธรรม ที่สำคัญอย่าเรียกยุบสภาเลย เรียกว่าเปลี่ยนสมัยการประชุมจะดีกว่าแล้วถึงจะเกิดการเลือกตั้ง

"เติ้ง"ให้คุยหลังสงกรานต์

เวลา 16.45 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา แถลงที่บ้านศิลปอาชา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 55 มีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายนิกร จำนง กรรมการที่ปรึกษาพรรค ชทพ. ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า (วันที่ 7 เมษายน) เป็นเหตุการณ์ใหญ่พอสมควร ที่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเองจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้ และเมื่อช่วงเช้า กสม.โทรศัพท์ติดต่อมาหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา ได้บอกไปว่าไว้หลังสงกรานต์แล้วค่อยคุยกัน การเจรจาระหว่างรัฐบาลและเสื้อแดง หนักใจแทนใจอยากจะให้เจรจาได้ ให้เสื้อแดงผ่อนปรนบ้างยืดหยุ่นบ้าง ควรจะมีเจรจารอบ 3 หากจุดกึ่งกลางที่เป็นไปได้ แต่ดูแล้วไม่ง่ายยากมาก

จี้"รัฐบาล"เดินตามโรดแมป9เดือน

"ผมอยากเรียนว่าคำพูดคนสำคัญ จะทำอะไรสำเร็จก็อยู่ที่คำพูดคนจะทำก็ต้องทำไม่ทำก็ไม่ทำ อย่าวนไปวนมาอย่างนี้ผมไม่ชอบ ผมเป็นคนตรงไปตรงมาเอาก็เอาไม่เอาก็ไม่เอาหรือจะอยู่ให้ครบเทอมก็เอา จะอยู่ 1 ปี 8 เดือนก็ทำไปเลย แต่ถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาในปลายปีนี้ก็ต้องทำ แต่นี่ก็เลยมา 20 กว่าวันแล้ว" นายบรรหารกล่าว และว่า ถ้าจะทำตามโรดแมป 9 เดือนก็ต้องเริ่มดำเนินการแล้วอยากให้ทำตามนี้ อย่าไปปิ้งปลาประชดแมวว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เอา ก็จะอยู่ครบเทอมเลย

นายบรรหารกล่าวว่า ถ้าทำตามนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ แต่ถ้าไม่ทำแล้วบอกว่าฝ่ายค้านไม่เอา อย่างนี้ก็ไม่ต้องไปแก้ ถ้าทำจริงก็จะลดความขัดแย้งได้และสังคมจะออกมาช่วยกันด้วย ดังนั้น การแก้ไขต้องยึดตาม 6 ประเด็นของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ช่วยหาทางออกได้ และถ้าไม่ทำประชามติก็ดียิ่งเร็ว

ซัด"มาร์ค"ไม่จริงใจซื้อเวลา

"ผมไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะจริงใจแก้ปัญหาหรือไม่ เพราะเห็นนายกฯให้สัมภาษณ์ว่าจะเชิญเสื้อเหลือง ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มา อย่างนี้มันไม่ได้แก้ เป็นการหลอกกันมากกว่า ผมเองในฐานะผู้สังเกตการณ์เสียความรู้สึก แก้แค่สองมาตรา ก็เสียความรู้สึกมาแล้ว อย่าให้เสียความรู้สึกไปมากกว่านี้เลย ควรจะทำให้พรรคร่วมมั่นใจว่ารัฐบาลจะทำอย่างจริงใจ หากไม่ทำอะไร พรรค ชทพ.จะคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง" นายบรรหารกล่าว และว่า ยังเคียงข้างรัฐบาลแต่รัฐบาลต้องจริงใจ แต่ถ้าไม่จริงใจก็ค่อยว่ากัน ทั้งนี้ หากจัดตั้งรัฐบาลแล้วพรรคประชาธิปัตย์มาชวนก็ยังมีเชื้ออยู่บ้าง

"ชวน"รับร่วมวงถกอดีตนายกฯ

ก่อนหน้านี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันตอบรับกรณี นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ทาบทาม 4 อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายชวน นายบรรหาร ศิลปอาชา และนายอานันท์ ปันยารชุน มาร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 เมษายน ว่า นพ.ชูชัยมีการทาบทามมาจริง โดยโทรศัพท์มาเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งไม่ขัดข้อง แต่ยังไม่ทราบใครบ้าง ส่วนจะช่วยหาทางออกให้ประเทศได้หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ น่าจะมีความชัดเจนหลังเทศกาลสงกรานต์

ยันมาร์คมาถูกทาง-ค้าน"ยุบ"

เมื่อถามว่า ขณะที่สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แต่ท่าทีรัฐบาลแก้ปัญหารัฐบาลกลับไม่ถูกใจคน กทม. นายชวนกล่าวว่า มีคนหวังดีกับประเทศโทรศัพท์มาเยอะมาก แต่มองว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว ส่วนข้อเสนอให้เจรจาอีกครั้ง มองว่าผู้ชุมนุมขณะนี้ต้องการยุบสภา และตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ยุบสภาในขณะนี้ ส่วนแนวปฏิบัติของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ถูกต้องไม่ออกนอกกฎหมาย แม้จะไม่ถูกใจคนก็ตาม เพราะต้องอย่าลืมว่าเรามีตัวอย่างการใช้ความรุนแรงมาแล้ว เมื่อครั้งการจัดการปัญหาภาคใต้ ซึ่งในที่สุดก็เป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้

ปชป.ทำสติ๊กเกอร์ต้านยุบ

ที่รัฐสภา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้ร่นกรอบเวลาในการยุบสภาลงจาก 9 เดือน ว่า อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการต่อรองค้าขาย แต่ต้องคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ถ้าคิดเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไปสร้างปัญหาใหม่ในอนาคตก็จะไม่พ้น

เวลา 10.30 น. ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พร้อม น.ส.พจนาถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี ร่วมแถลงจัดทำสติ๊กเกอร์ รณรงค์ต่อต้านการยุบสภาจำนวน 4 แบบ จัดพิมพ์จำนวนแบบละ 1 แสนใบ โดยจะเริ่มแจกจ่ายให้คนทั่ว กทม.และอาจจะนำไปแจกให้ประชาชนทั่วประเทศด้วย

มท.1-ภท.หนุน4อดีตนายกฯคุย

ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เตรียมเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คน เจรจาหาทางออกประเทศว่า เป็นเรื่องดี เพราะอดีตนายกฯเป็นผู้มีประสบการณ์ ทางที่ดีควรจะทำให้เสร็จภายในเดือนเมษายน ตนพูดก่อนใครว่า อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอยหลังคนละก้าว หันหน้ามาเจรจากัน ที่มีเสียงเรียกร้องให้ลดเวลายุบสภาจาก 9 เดือนลงมา ต้องพูดคุยกัน

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกรรมการวอร์รูมพรรคร่วมรัฐบาลจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า อดีตนายกฯ 4 คน มาพูดคุยกันถือเป็นแนวทางหนึ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ต้องให้ฏิบัติได้ ถ้าเงื่อนไขที่เสนอมาปฏิบัติไม่ได้ ก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

"สนั่น"เสนอ"จิ๋ว"โซ่ข้อกลาง

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงข้อเสนอของ กสม. ที่ให้อดีตนายกฯ 4 คนมาพูดคุยกัน ว่า หากมีการเจรจาในรอบที่ 3 เชื่อว่าน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น มองว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่ประสานงานให้เกิดการพูดคุยได้น่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย (พท.) แต่ก่อนจะถึงการเจรจาขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานมาพูดคุยกันในเบื้องต้นก่อน ต้องยอมรับว่าที่ผ่านรัฐบาลกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยังเห็นขัดแย้งกันเรื่องกรอบเวลาในการยุบสภา ทั้งที่ปัจจัยเรื่องเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ก่อน หากกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เชื่อว่า ปชป.จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ หรือให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นสักขีพยานด้วยจะได้เบี้ยวกันไม่ได้

ส่วนที่มีมองกันว่าขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการ์ฉุกเฉินนั้น พล.ต.สนั่นกล่าวว่า "ถ้ามันอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบสภาเท่านั้นเอง ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ก็ต้องยุบหรือลาออกไป"

พผ.ให้เพิ่ม"ทักษิณ"ร่วมวง

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ แต่เพียง 4 คนคงยังไม่พอ เพราะต้องพิจารณาด้วยว่าควรจะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมด้วยหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนสั่งการให้คนเสื้อแดงออกมาแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้ แล้วที่ประชุมจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวสำหรับประเทศไทยที่หาเหตุผลมากันได้

นายชาญชัยกล่าวถึงกรณี พผ.ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าไม่ได้เป็นมติพรรค เพราะในช่วงนั้นไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา เข้าใจว่าเรื่องนี้ นพ.อลงกต มณีกาศ โฆษก พผ. ออกมาพูดเอง ไม่เกี่ยวกับมติพรรค เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัยกล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ต้องหาตัวกลาง

สป.พร้อมให้ใช้สถานที่คุย

ที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) จัดสัมมนา "ทางออกประเทศไทยจากภาวะวิกฤต" นายโอกาส เตรพละกุล ประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง โดยเปิดการเจรจาระหว่างรัฐบาลกันกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และเห็นด้วยกับการให้อดีต 4 นายกรัฐมนตรีเป็นตัวกลางเจรจา ซึ่ง สป.จะเสนอให้ใช้สถานที่ของ สป.เป็นสถานที่การเจรจาด้วย

"ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ได้จากที่ประชุมเห็นว่า ต้นตอของปัญหาเกิดจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สามารถยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้ ขณะเดียวกันยังมีช่องว่างระหว่างชนชั้นทั้งด้านรายได้ การศึกษา และการบริโภคข่าวสาร ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที สป.จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าที่ประชุม สป.ในวันที่ 8 เมษายน ก่อนจะยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 9 เมษายนนี้" นายโอภาสกล่าว

หนุนกรอบยุบสภา4-5เดือน

นายโอกาสกล่าวว่า ภายใน 1 สัปดาห์นี้จะต้องหาข้อยุติถึงทางออกปัญหาการเมือง และเห็นว่ามีการเจรจารอบ 3 เกิดขึ้นจะต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ โดยจะต้องมีกรอบการเจรจาใน 2 ประเด็น คือ
1.ต้องผ่านงบประมาณประจำปี 2554 ให้แล้วเสร็จ และ
2.พิจารณาร่วมกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากได้ข้อตกลงร่วมกันแล้วก็ควรจะจัดทำปฏิญญาร่วมกันจนกว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ส่วนตัวมองว่าการพิจารณาผ่านงบประมาณฯ 2554 มีความจำเป็นเร่งด่วนกว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้

น.ส.ภรณี ลีนุตพงษ์ รองประธาน สป. กล่าวว่า ที่ประชุมส่วนใหญ่มองว่าควรมีการยุบสภาภายในกรอบ 4-5 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คำนวณจากกรอบระยะเวลาของทั้งสองฝ่าย และสอดคล้องกับข้อเสนอของนักวิชาการ เพราะปกติหากมีการยุบสภาจะต้องรัฐบาลรักษาการอีก 45 วัน รวมถึงใช้เวลาในการเลือกตั้งอีก 3 เดือน จึงจะได้รัฐบาลชุดใหม่

ใช้ฉุกเฉินกระทบท่องเที่ยว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ขณะนี้ คาดจะกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงมากถึง 30% และมีความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวมากถึง 1-2 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะหดตัว 10-20% จึงจำเป็นต้องเปิดประตูเจรจาทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว ส่วนตัวมองว่าการยุบสภาไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ทำให้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจ


ที่มา.มติชนออนไลน์
*************************************************
************************************************

เทพเทือก หน้าแตก...ผบ.สส.บอก กองทัพเป็นทหารของประชาชน

พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า

ผู้บัญชาการเหล่าทัพทุก เหล่าทัพได้หารือ และประเมินสถานการณ์การชุมนุมตลอดด้วยความเป็นห่วง อยากให้ประเทศก้าวหน้าต่อไป ตนเองเชื่อว่าสถานการณ์ต้องจบลงด้วยดี ส่วนจะใช้เวลานานเท่าไรคงตอบไม่ได้ แต่หากจะตอบในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด เราติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง โดยกองทัพได้รับมอบหมายให้จัดกำลังสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพื่อภารกิจการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ ไม่ใช่มีหน้าที่ปราบปรามทำร้าย หรือเข่นฆ่าประชาชน เพราะกองทัพเป็นทหารของประชาชน

ต่อ คำถามที่ว่า ผบ.สส.มองการเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงอย่างไร ?
พล.อ.ทรง กิตติ กล่าวว่า การชุมนุมเวลานี้ไม่มีความ รุนแรงเป็นการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญอยู่ในขอบ เขตที่สามารถทำได้ ส่วนที่รัฐบาลระบุชุมนุมไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ตนเองไม่ใช่รัฐบาล แต่ทำงานในกรอบของกองทัพไทย กองทัพทำงานตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกลาโหม คำสั่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำงานด้วยความรู้สึก ไม่ได้ทำงานด้วยอารมณ์ และไม่ได้ทำงานด้วยข่าวสาร เราทำงานบนความสงบของบ้านเมือง ตระหนักในความพยายามที่ทำให้ประเทศชาติมีความพัฒนาก้าวหน้าต่อไปเท่านั้น

เมื่อ ถามว่ากองทัพมีแผนจะสลายการชุมนุมหรือไม่ ?

พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า กองทัพมีหน้าที่รักษาอธิปไตยเหนือดินแดน ที่สำคัญที่สุดคือถวายความปลอดภัยราชวงศ์ และช่วยเหลือประชาชน โดยมีระบุในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทหารคือประชาชน

จากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ทรงกิติฯ ผบ.สส ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอรส. เป็นอย่างยิ่ง !!!

************************************************

"ชาญชัย"ตั้งคำถามเจรจา 4 นายกฯไม่มีทักษิณได้อย่างไร

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงข้อเสนอขององค์กรอิสระที่เสนอให้อดีต 4คน มาเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นว่า อดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นบุคคลน่าเชื่อถือ แล้วพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาหรือไม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนให้พวกออกมาแสดงบทบาทอยู่ในขณะนี้แล้วจะไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างไร ฉะนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวสำหรับประเทศไทยที่หาเหตุผลมากันได้ ตนเห็นว่า การเดินขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ถือว่าน่ารัก เพราะไม่มีอะไรรุนแรง แต่อย่าไปทำอะไรให้เกิดความเสียหาย เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงปิดแยกราชประสงค์ยังน่ารักอยู่อีกหรือ นายชาญชัย กล่าวว่า เรื่องความเสียหายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และเห็นว่าในเรื่องของการเมืองถ้าไม่นิ่งเหมือนคนในครอบครัวขัดแย้งกันตลอด แล้วใครอยากจะมาอยู่ครอบครัวของเราบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางของพรรคเพื่อแผ่นดินยังมีความเห็นตรงกับรัฐบาลในการกำหนดทิศทางแก้ปัญหาหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เราไม่พูดถึงใครทั้งนั้น แต่พรรคเพื่อแผ่นดินมีการปรึกษาหารือกับทุกฝ่าย เพื่อให้ตกผลึกเสียก่อนและต้องฟังคามคิดเห็นของพรรคอื่น เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง

ต่อข้อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ยุบสภาภายใน 9 เดือน นายชาญชัย กล่าวว่า ต้องมีคำตอบให้ตนว่าเมื่อยุบสภาแล้วจะทำอย่างไร มีกรอบจะดำเนินการเมื่อใด ขณะที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับ 50ส่วนดีก็มีหลายมาตรา แต่ฝ่ายค้านต้องการใช้รัฐธรรมนูญปี 40เราก็ต้องหาตัวกลาง ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือ ใช้ระบบรัฐสภาก็สามารถทำได้ เมื่อเอากระบวนการรัฐสภามาใช้ ก็อย่าเอากระบวนการข้างนอกมาใช้ ถ้าเอาข้างนอกผสมโรงข้างในก็เป้นมะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
********************************************

เสธ.หนั่น"ชู"บิ๊กจิ๋ว"เหมาะประสานการเจรจา

พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ถึงข้อเสนอให้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย 4 คนมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤติของประเทศในขณะนี้ว่า ถ้ามีการเจรจากันรอบที่ 3 ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะถ้าไม่พูดคุยกันก็เผชิญหน้ากันอยู่อย่างนี้ ซึ่งถ้าทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนาที่ดีก็น่าจะพูดคุยกันได้ ส่วนผู้ที่จะมาทำหน้าที่ประสานงานให้เกิดการพูดคุยนั้น ก็น่าจะเป็น พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่าการพูดคุยควรจะทำในทางลับหรือเปิดเผย พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนคิดว่าก่อนถึงขั้นสุดท้ายควรมีคณะทำงานที่จะคุยกันเสียก่อน โดยดูความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้มีความขัดแย้งกันตรงปัจจัยเวลาในการยุบสภาเท่านั้น ซึ่งยังไม่ควรไปกำหนดเรื่องเวลา น่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพราะถ้าเราใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ทุกคนก็ไม่พอใจ และถ้าเกิดมีการยุบพรรคขึ้นมาอีก หรือไปทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็จะเป็นปัญหาได้ ดังนั้นถ้าตกลงกันได้ตรงนี้ ปัจจัยเรื่องเวลาก็ไม่สำคัญ ทั้งนี้ตนยังเชื่อว่าสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่เลยขั้นตอนการเจรจา ยังคุยกันได้

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าไม่เชื่อใจพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มเสื้อแดงก็มาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพราะถ้าพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเป็นสักขีพยานด้วยก็เบี้ยวกันไม่ได้ เมื่อถามว่าอดีตนายกรัฐมนตรี 4 คนที่จะให้มาพูดคุยกันมีโอกาสที่จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคและเป็น ส.ส.ก็เป็นได้


ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*********************************************

เฮลิคอปเตอร์รับ"สุเทพ-สาทิตย์-ปณิธานพ้นเสื้อแดงแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสห.ที่ถูกรวบคตัวดังกล่าวเป็นสห.ที่ขับรถนำของนายสุเทพ เทือกสุเทพ รองนายกฯ ซึ่งนายพินิจ จันทรสมบูร์ อดีตสส.ขอให้มีการตรวจค้นรถสห.ที่จอดบนชั้นลอยและรถนายสุเทพว่ามีอาวุธเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการเจรจาเพื่อขอให้ไปตรวจสอบนายสุเทพปรากฏว่าได้มีเครื่องแบล็คฮอร์ที่มาจอดพระที่นั่งวิมานเมฆได้นำตัวนายสุเทพ นายสาทิตย์ นายปณิธาน ออกไปแล้ว

นอกจากนี้ส.ส.เพื่อไทยและการ์ดนปช.ได้นำสก๊อตเทปพร้อมป้ายบอกว่า"รอการตรวจอาวุธ"มาติดทั่วรถยนตร์ของสห. ของกองพันสารวัตรทหารที่ 11 ป้ายทะเบียน 2232 โตโยต้า แคมรี่ ซึ่งใกล้กันมีรถประจำตำแหน่งของนายสุเทพ จอดอยู่ด้วย




ที่มา.เนชั่นทันข่าว
*************************************************

ประชุมสภาฯล่ม

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน โดยทันทีที่เริ่มประชุมนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ได้ขอถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากที่ประชุมสภาฯ ทำให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยแสดงความไม่พอใจโดยระบุว่าก่อนหน้านี้นายนิพนธ์ได้ขอล่ารายชื่อเพื่อเสนอให้สภาฯพิจารณาในวาระสองและสามทันที แต่ถัดมามีข่าวว่าวิปรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.นี้นายนิพนธ์จึงขอถอนร่างทันทีทั้งที่ยังไม่มีการหารือกับกรรมาธิการฯคนอื่นๆ

ด้านนายนิพนธ์ชี้แจงว่า ไม่มีใครสั่งตนได้ แต่เป็นเพราะทบทวนแล้วเห็นว่าถ้ามีโอกาสทบทวนร่างพ.ร.บ.นี้อีกครั้งก็น่าจะเป็นผลดี และอยากให้สอดคล้องกับที่วุฒิสภากำลังศึกษาอยู่ด้วย

จนกระทั่งเวลา 10.40 น.นายชัย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าได้ข่าวไม่สู้ดีว่าเสื้อแดงเพื่อนของผมกำลังเดินทางมาล้อมรัฐสภา ขณะนี้มีเพื่อนอดีตส.ส.คนหนึ่งได้นำพี่น้องเสื้อแดงมาอยู่หน้ารัฐสภาจำนวน 700 คนเรียบร้อยแล้ว แต่ในฐานะตัวแทนนิติบัญญัติก็จะทำหน้าที่ของเราต่อไป จากนั้นนายชัยได้ขอมติจากที่ประชุมว่าจะอนุญาตให้ถอนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากวาระการประชุมหรือไม่ โดยนายชัยได้พยายามกดออดเรียกส.ส.ให้เข้าห้องประชุมอยู่เป็นเวลานาน แต่ผลปรากฏว่ามีผู้อยู่ในห้องประชุมเพียง 220 คนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมต้องล่มกลางคันหลังจากที่ม็อบเสื้อแดงได้มาปิดล้อมประตูทางเข้าออกอาคารรัฐสภาไว้หมดแล้ว ทำให้นายชัยต้องสั่งปิดการประชุมทันทีเมื่อเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ปรากฏว่าบรรดารัฐมนตรีและส.ส.ที่ไม่สามารถเดินทางออกจากรัฐสภาได้ก็หันมาใช้บันไดหนีไฟด้านหลังติดกับพระที่นั่งพิมานเมฆเป็นทางออกแทน



ที่มา.เนชั่นทันข่าว
************************************************

“ฮุนเซน”ยังแน่นปึ้ก“ทักษิณ”

พรรคเพื่อไทย : นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันว่าจะไม่อนุญาตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นเล่นงานรัฐบาลไทยว่า ไม่เชื่อในสิ่งที่นายสุเทพพูด เพราะสมเด็จฮุน เซน เป็นเพื่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จฮุน เซน กับ พ.ต.ท.ทักษิณมีมากกว่าที่มีให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ

นายสุรพงษ์กล่าวว่า การที่สมเด็จฮุน เซน มีท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสกับนายอภิสิทธิ์นั้น เชื่อว่าเป็นเพียงมารยาททางการทูตเท่านั้น เพราะมาถึงประเทศเขาถ้าทำหน้ายักษ์หน้ามารก็ใช่เรื่อง

ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวยอมรับว่า มีสัญญาณที่ดีถึงการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยให้กระทรวงการต่างประเทศหารือถึงการส่งทูตกลับไปยังประเทศกัมพูชา

ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รับทราบผลการหารือระหว่างสมเด็จฮุน เซน และนายสุเทพเมื่อวันที่ 4 เมษายนแล้ว ส่วนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีอะไรใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยที่จะส่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กลับไปประจำการ นายกษิตกล่าวว่า "ยังครับ ยังไม่มีอะไรใหม่"


จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
************************************************

แยกผ่านฟ้าราชดำเนิน สู่ แยกเอราวัณราชประสงค์ของราชประชาเสื้อแดง

ผมได้ไปตรวจแถวแนวการชุมนุมของ นปช แดงทั้งแผ่นดิน ก็ทำให้รู้สึกมีความฮึกเหิมในใจ และรู้สึกว่า การมาชุมนุมของพ่อแม่พี่น้องชาว ชนบท ทำให้มีความรู้สึกต้องยกย่องให้กับท่านทั้งหลาย ถึงแม้ผมไม่ทราบว่า ความจริงเปแนอย่างไร แต่มันได้แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวยึดมั่นในอุดมการณ์ที่มีต่อประชาธิปไตย และในความเชื่อมั่นในตัว นายกทักษิณ ชินวัตรอย่างเต็มเปี่ยม

จากการที่มาปักหลักชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ทำให้ ชาว กทม.มีความตื่นตัว ตื่นใจ ต่อการต่อสู้ของชาวเสื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการเดินขบวนประท้วงไปตามถรรหนทางต่างๆ เป็นที่ตื่นตา ตื่นใจเป็นอย่างมาก แต่กับ ฝ่ายรัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาได้มีความรู้สึกเช่นนั้นไม่ เพราะจากสถานการณ์ดังกล่าวนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้เหมือนกับซากศพที่เดินได้ ไม่มีความรู้สึกแม้กระทั่งความคิดเห็น ความเห็นใจ สงสาร พี่น้องประชาชน ที่ต้องมานั่งตากแดด ตามกลม ในท้องถนน

จนทำให้มาการเดินทางมาปักหลักที่ถนนราชประสงค์ อันเป็นที่ๆสองในการชุมนุม และที่ตรงนี้นี่เอง กลับทำให้ประชาชน ได้รับทราบเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย เช่น การไม่ยอมรับ ของนักธุรกิจในย่านนั้น การออกมาต่อว่า ต่อขาน ของ กกร. และการออกมาทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ที่ไม่ยอมเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการขับไล่ ผู้ชุมนุมประท้วงบนถนน และได้เห็นการสั่งการจาก ศอรส. ที่ออกประกาศมาใช้กับคนเสื้อแดง และยังได้เห็น

ความไม่เป็นปึกแผ่นในกองทัพ ซึ่ง ผบทบ.ได้เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกหน้ามารับใช้ รัฐบาล และที่สำคัญที่สุดก็คือ ชาว กทม.ทั้งหลาย ไม่ได้มีการออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงเลยแม้แต่น้อย ส่วนเสื้อสีชมภูนั้น มันรู้กันอยู่ว่า เป็นคนของใคร ก็นับว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีในการเรียกร้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดง แต่ที่น่าสนใจคือว่า ได้มีชาว มุสลิมทาง3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มาร่วมกับคนเสื้อแดงต่อสู้มากยิ่งขึ้น ผมเองก็กลัวว่า วันหนึ่ง ถ้าเราได้ประชาธิปไตยมาแล้ว เราควรแบ่งประชาธิปไตยและแบ่งดินแดนให้กับเขาเหล่านั้นด้วยไหม ทำไมต้องปล่อยประเทศไทยให้เป็นเช่นนั้น

โดย.คุณ ชาว กทม.
**************************************************